พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3674/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความในการรับฟังคำพิพากษาแทนจำเลย และผลต่อสิทธิในการฎีกา
โจทก์แต่งตั้งให้ ว. เป็นทนายความและให้มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ไปในทางจำหน่ายสิทธิได้ เช่นการยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง ยื่น ถอนคำฟ้องประนีประนอมยอมความ สละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกาหรือขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ตลอดจนชั้นบังคับคดีเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ถอดถอน ว.ออกจากการเป็นทนายความ ถือได้ว่าว. ยังคงเป็นทนายความของโจทก์อยู่ เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ ว. ทนายโจทก์ฟัง ก็ถือว่าโจทก์ได้ฟังคำพิพากษาดังกล่าวโดยชอบแล้ว แม้ร้อยตำรวจเอก ช. จะเป็นทนายความผู้ทำคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์มายื่นและมิได้ฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง ก็ไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่เพื่อให้โจทก์มีสิทธิฎีกาได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3674/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความในการดำเนินกระบวนพิจารณาและการรับฟังคำพิพากษาแทนจำเลย
โจทก์แต่งตั้งให้ ว. เป็นทนายความและให้มีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ไปในทางจำหน่ายสิทธิได้ เช่นการยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง ยื่น ถอนคำฟ้อง ประนีประนอมยอมความ สละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา หรือขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ตลอดจนชั้นบังคับคดีเมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ถอดถอน ว.ออกจากการเป็นทนายความ ถือได้ว่า ว. ยังคงเป็นทนายความของโจทก์อยู่ เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ว. ทนายโจทก์ฟัง ก็ถือว่าโจทก์ได้ฟังคำพิพากษาดังกล่าวโดยชอบแล้ว แม้ร้อยตำรวจเอก ช. จะเป็นทนายความผู้ทำคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์มายื่นและมิได้ฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง ก็ไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่เพื่อให้โจทก์มีสิทธิฎีกาได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3620/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนเป็นพยานหลักฐาน ศาลมีอำนาจรับฟังได้หากมีเหตุผลประกอบ
ไม่มีบทกฎหมายใดห้ามมิให้ศาลรับฟังคำให้การชั้นสอบสวนของพยานเพื่อประกอบการพิจารณา ส่วนจะรับฟังได้เพียงใดหรือไม่ สุดแล้วแต่เหตุผลของแต่ละเรื่อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3423/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเลิกจ้าง: ผู้จัดการสาขาไม่มีอำนาจเลิกจ้างแทนบริษัทได้ การสั่งห้ามทำงานไม่ถือเป็นการเลิกจ้าง
หนังสือที่ ด. ผู้จัดการดูแลอู่ซ่อมรถยนต์สาขาของบริษัทจำเลยมีถึง พ. ผู้จัดการดูแลอู่ซ่อมรถยนต์ของบริษัทจำเลยที่สำนักงานใหญ่เพียงประสงค์ให้บริษัทจำเลยดำเนินการทางวินัยต่อโจทก์และไม่ยอมให้โจทก์ทำงานที่เดิมต่อไปเท่านั้น บริษัทจำเลยเป็นนิติบุคคลการเลิกจ้างโจทก์จึงเป็นอำนาจของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้กระทำการแทน ไม่ปรากฏว่า ด. ได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจกระทำการแทน จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นนายจ้าง ไม่มีอำนาจที่จะเลิกจ้างโจทก์ได้ การที่ ด. ไม่ยอมให้โจทก์ทำงานอยู่ที่เดิมเป็นเพียงเรื่องระหว่างพนักงานบริษัทจำเลยด้วยกันเองเท่านั้น ประกอบทั้งเมื่อ พ.ได้รับหนังสือดังกล่าว ก็ได้ให้ ท. ผู้จัดการฝ่ายบุคคลพบโจทก์เพื่อปรึกษาหารือกัน แต่ยังตกลงกันไม่ได้โจทก์ก็นำคดีมาฟ้องเสียก่อน และแม้จะเป็นจริงดังที่โจทก์นำสืบว่า ท.ได้พยายามพูดให้โจทก์ยื่นใบลาออก ก็แสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์ให้โจทก์ทำงานกับจำเลยต่อไปเท่านั้น ยังไม่ทันเลิกจ้างโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3396/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สิน: อำนาจตามคำสั่งนายกฯ แตกต่างจากการริบตามประมวลกฎหมายอาญา
การริบทรัพย์ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาศัยอำนาจตามมาตรา 27 แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร กับการริบทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีไม่เหมือนกัน โดยการริบทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญากฎหมายให้อำนาจศาลจะสั่งริบ แต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าเป็นทรัพย์ผู้อื่นมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ผู้นั้นมีสิทธิร้องขอให้ศาลสั่งคืนได้ แต่การริบตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าวเป็นการริบตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่รัฐบาลจะสั่งริบโดยไม่คำนึงว่าเป็นของผู้กระทำผิดหรือไม่ หรือเจ้าของจะรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นหรือไม่ คำสั่งของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวจึงเป็นอันเสร็จเด็ดขาด จะนำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญามาใช้ไม่ได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3340/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยการในการร้องขอเพิกถอนทะเบียนรับบุตรบุญธรรม: ต้องมีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจชัดเจน
พนักงานอัยการจะร้องขอใช้สิทธิทางศาลได้ก็ต่อเมื่อกฎหมายบัญญัติให้อำนาจและหน้าที่ไว้เท่านั้น การร้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรมเพราะผู้ให้ความยินยอมใช้สูติบัตรกับสำเนาทะเบียนบ้านปลอมมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่แก้ไขใหม่มิได้บัญญัติ ให้อำนาจแก่พนักงานอัยการไว้ พนักงานอัยการจึงไม่มีอำนาจ ยื่นคำร้องต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2756/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการตรวจคำฟ้องและผลกระทบต่อการขังจำเลยในคดีอาญา
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ให้อำนาจแก่ศาลชั้นต้นในการตรวจคำฟ้องซึ่งเป็นคำคู่ความโดยเด็ดขาดเมื่อปรากฏว่าคำฟ้องของโจทก์มีรายการช่องอายุแต่ไม่ใส่ให้ครบถ้วน ที่อยู่ของจำเลยผิดพลาดสับสน ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งคืนฟ้องให้โจทก์แก้ไขให้ถูกต้องได้โดยชอบ
คำสั่งคืนฟ้องให้โจทก์ทำมายื่นใหม่หาใช่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ แต่เป็นคำสั่งไม่รับหรือคืนคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ถือว่าศาลชั้นต้นยังไม่ได้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งขังจำเลย เมื่อโจทก์แก้ไขคำฟ้องแล้วนำมายื่นใหม่ โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องนำตัวจำเลยมาส่งศาลพร้อมคำฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165
คำสั่งคืนฟ้องให้โจทก์ทำมายื่นใหม่หาใช่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาไม่ แต่เป็นคำสั่งไม่รับหรือคืนคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ถือว่าศาลชั้นต้นยังไม่ได้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งขังจำเลย เมื่อโจทก์แก้ไขคำฟ้องแล้วนำมายื่นใหม่ โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องนำตัวจำเลยมาส่งศาลพร้อมคำฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2426/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหลังศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจแต่ผู้เดียว
ลูกจ้างฟ้องต่อศาลแรงงานกลางว่า การที่นายจ้างเลิกจ้างเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม ขอให้นายจ้างรับกลับเข้าทำงานกับให้ใช้ค่าเสียหาย ปรากฏว่านายจ้างถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนฟ้องแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจต่อสู้คดีใดๆเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายจ้างได้แต่ผู้เดียวตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ เมื่อการที่ลูกจ้างฟ้องเป็นการขอบังคับชำระหนี้เอาแก่นายจ้าง ศาลย่อมไม่รับฟ้องไว้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 893/2510)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555-1556/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้มิได้แยกรายการ หากขายได้ราคาสูงกว่าประเมินและไม่มีข้อโต้แย้งวิธีขาย
เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้แยกทรัพย์ออกขายเป็นรายการไปจำเลยมิได้ร้องขอเกี่ยวกับวิธีขาย และขายได้สูงกว่าราคาประเมิน เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจขายได้โดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจและผลผูกพันตามสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนอง
หนังสือมอบอำนาจมีใจความสำคัญว่า จำเลยมอบอำนาจให้ ว.เป็นผู้มีอำนาจจัดการจำนอง และขอประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการจำนองที่ดินและยังมีข้อความอีกว่าเงื่อนไขและข้อตกลงอื่น ๆ ให้เป็นไปตามหนังสือสัญญาท้ายสัญญาจำนองแสดงชัดแจ้งว่า นอกจากจะมอบอำนาจให้ทำสัญญาจำนองแล้วยังมอบอำนาจให้ทำสัญญาท้ายสัญญาจำนองอีกด้วยมิฉะนั้นการจำนองจะไม่สำเร็จเรียบร้อยไปได้และหากไม่มีสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองโจทก์ก็คงไม่ทำสัญญาจำนองกับจำเลย จำเลยจึงต้องผูกพันตามข้อความในสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนองด้วย