พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5,764 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีอาญาขาดอายุความเนื่องจากระยะเวลาร้องทุกข์เกินกำหนดตามกฎหมาย
ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยยักยอกเมื่อเดือนมกราคม 2490 ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2490 เป็นเวลาล่วงเลย 3 เดือน คดีย่อมขาดอายุความตาม ก.ม. ลักษณะอาญา มาตรา 80 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความในคดีอาญา: ยักยอกทรัพย์ - การนับระยะเวลาตั้งแต่กระทำความผิดจนถึงการร้องทุกข์
ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยยักยอกเมื่อเดือนมกราคม 2490 ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2490 เป็นเวลาล่วงเลย 3 เดือน คดีย่อมขาดอายุความตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 80 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1353/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกคืนสินสอด ไม่ใช่ค่าทดแทนตาม ป.พ.พ.มาตรา 1444
การฟ้องเรียกเงินสินสอดคืน ไม่ใช่เป็นการเรียกค่าทดแทนตามความหมายแห่ง ป.พ.พ มาตรา 1444 เพราะฉะนั้นจะยกอายุความ 6 เดือนตามบทบัญญัติดังกล่าวขึ้นใช้บังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องแบ่งสินสมรส และผลของพินัยกรรมเมื่อคู่สมรสถึงแก่กรรมก่อน
ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 185 เป็นเรื่องของการขยายเวลาคือถ้าสิทธิเรียกร้องจะขาดอายุความสั้นกว่า 1 ปี ก็ให้ขยายออกไป 1 ปี ส่วนที่กฎหมายกำหนดให้มีอายุความฟ้องร้องเกินกว่า 1 ปี ก็ต้องเป็นไปตามบทบัญญัตินั้น จะนำมาตรานี้มาใช้บังคับ โดยย่นเวลาให้สั้นเข้านั้นหาได้ไม่
โจทก์,จำเลยหย่าขาดกันโดยคำพิพากษาของศาล โจทก์ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์อันเป็นส่วนสินสมรส เป็นคดีฟ้องเรียกทรัพย์สิน มีอายุความ 10 ปี ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 164.แม้บิดามารดาจะทำพินัยกรรม์ร่วมกันก็ดี แต่เมื่อบิดาตายก่อน พินัยกรรม์ก็มีผลบังคับฉะเพาะส่วนของบิดาเท่านั้น
เงินผลประโยชน์อันเกิดจากสินสมรสนั้น จำเลยซึ่งถูกฟ้องขอแบ่งจะหักไว้ได้ก็ฉะเพาะค่ารักษาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกัน ส่วนเงินค่ากินอยู่ของจำเลยและบุตรโจทก์จำเลยนั้นเป็นคนละประเภท จำเลยไม่ได้ฟ้องแย้ง ก็หักให้ไม่ได้.
โจทก์,จำเลยหย่าขาดกันโดยคำพิพากษาของศาล โจทก์ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์อันเป็นส่วนสินสมรส เป็นคดีฟ้องเรียกทรัพย์สิน มีอายุความ 10 ปี ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 164.แม้บิดามารดาจะทำพินัยกรรม์ร่วมกันก็ดี แต่เมื่อบิดาตายก่อน พินัยกรรม์ก็มีผลบังคับฉะเพาะส่วนของบิดาเท่านั้น
เงินผลประโยชน์อันเกิดจากสินสมรสนั้น จำเลยซึ่งถูกฟ้องขอแบ่งจะหักไว้ได้ก็ฉะเพาะค่ารักษาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกัน ส่วนเงินค่ากินอยู่ของจำเลยและบุตรโจทก์จำเลยนั้นเป็นคนละประเภท จำเลยไม่ได้ฟ้องแย้ง ก็หักให้ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องแบ่งสินสมรส, ผลพินัยกรรม, ค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูบุตร และการหักค่าใช้จ่าย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 185 เป็นเรื่องของการขยายเวลาคือถ้าสิทธิเรียกร้องจะขาดอายุความสั้นกว่า 1 ปีก็ให้ขยายออกไป 1 ปี ส่วนที่กฎหมายกำหนดให้มีอายุความฟ้องร้องเกินกว่า 1 ปี ก็ต้องเป็นไปตามบทบัญญัตินั้น จะนำมาตรานี้มาใช้บังคับ โดยย่นเวลาให้สั้นเข้ามานั้นหาได้ไม่
โจทก์จำเลยหย่าขาดกันโดยคำพิพากษาของศาล โจทก์ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์อันเป็นส่วนสินสมรส เป็นคดีฟ้องเรียกทรัพย์สิน มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
แม้บิดามารดาจะทำพินัยกรรมร่วมกันก็ดี แต่เมื่อบิดาตายก่อน พินัยกรรมก็มีผลบังคับเฉพาะส่วนของบิดาเท่านั้น
เงินผลประโยชน์อันเกิดจากสินสมรสนั้น จำเลยซึ่งถูกฟ้องขอแบ่งจะหักไว้ได้ก็เฉพาะค่ารักษาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกัน ส่วนเงินค่ากินอยู่ของจำเลยและบุตรโจทก์จำเลยนั้นเป็นคนละประเภท จำเลยไม่ได้ฟ้องแย้ง ก็หักให้ไม่ได้
โจทก์จำเลยหย่าขาดกันโดยคำพิพากษาของศาล โจทก์ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์อันเป็นส่วนสินสมรส เป็นคดีฟ้องเรียกทรัพย์สิน มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
แม้บิดามารดาจะทำพินัยกรรมร่วมกันก็ดี แต่เมื่อบิดาตายก่อน พินัยกรรมก็มีผลบังคับเฉพาะส่วนของบิดาเท่านั้น
เงินผลประโยชน์อันเกิดจากสินสมรสนั้น จำเลยซึ่งถูกฟ้องขอแบ่งจะหักไว้ได้ก็เฉพาะค่ารักษาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกัน ส่วนเงินค่ากินอยู่ของจำเลยและบุตรโจทก์จำเลยนั้นเป็นคนละประเภท จำเลยไม่ได้ฟ้องแย้ง ก็หักให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดก: ข้อพิพาทเรื่องการครอบครองทรัพย์สินและอายุความ
โจทก์ 6 คน ฟ้องขอแบ่งมฤดก ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์แก้ แบ่งมฤดกให้แก่โจทก์คนหนึ่งกับจำเลยคนละครึ่งดังนี้ โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดก: ข้อพิพาทเรื่องการครอบครองทรัพย์สินและอายุความ
โจทก์ 6 คน ฟ้องขอแบ่งมรดก ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์แก้ แบ่งมรดกให้แก่โจทก์คนหนึ่งกับจำเลยคนละครึ่งดังนี้ โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีทรัพย์สิน, การจัดการทรัพย์สินโดยผู้แทน, และดอกเบี้ยค้างชำระ
มารดาจัดการทรัพย์สินของบุตรในฐานะผู้แทนบุตรตลอดมาจนมารดาตาย บุตรย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกทรัพย์สินอันเป็นส่วนได้ของตนจากผู้จัดการทรัพย์มฤดกของมารดาได้ คดีไม่มีขาดอายุความ
เมื่อได้ฟ้องคดีต่อศาลแล้ว คดีคงดำเนินอยู่ในศาลตลอดมา อายุความย่อมสดุดหยุดอยู่ จนกว่าจะได้วินิจฉัยถึงที่สุด หรือเสร็จไปประการอื่น
การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้คำขอท้ายฟ้อง และได้เสียค่าธรรมเนียมใหม่ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งยอมให้รับคดีไว้พิจารณา ย่อมถือว่า เป็นคดีค้างพิจารณาอยู่ในศาล
ฟ้องเรียกเงินตามรายการต่างๆแต่คำขอท้ายฟ้องขอเรียกเป็นจำนวนน้อยกว่ารายการที่ระบุไว้ แต่ศาลสั่งให้เรียกค่าขึ้นศาลตามรายการที่ระบุไว้ ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นการปลดหนี้
เมื่อจำเลยไม่ต้องการเสียดอกเบี้ยในระหว่างการพิจารราคดี จำเลยก็ต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่คิดว่าจะต้องชำระแก่โจทก์ มิฉนั้นจะขอยกเว้นไม่เสียดอกเบี้ยไม่ได้.
เมื่อได้ฟ้องคดีต่อศาลแล้ว คดีคงดำเนินอยู่ในศาลตลอดมา อายุความย่อมสดุดหยุดอยู่ จนกว่าจะได้วินิจฉัยถึงที่สุด หรือเสร็จไปประการอื่น
การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้คำขอท้ายฟ้อง และได้เสียค่าธรรมเนียมใหม่ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งยอมให้รับคดีไว้พิจารณา ย่อมถือว่า เป็นคดีค้างพิจารณาอยู่ในศาล
ฟ้องเรียกเงินตามรายการต่างๆแต่คำขอท้ายฟ้องขอเรียกเป็นจำนวนน้อยกว่ารายการที่ระบุไว้ แต่ศาลสั่งให้เรียกค่าขึ้นศาลตามรายการที่ระบุไว้ ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นการปลดหนี้
เมื่อจำเลยไม่ต้องการเสียดอกเบี้ยในระหว่างการพิจารราคดี จำเลยก็ต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่คิดว่าจะต้องชำระแก่โจทก์ มิฉนั้นจะขอยกเว้นไม่เสียดอกเบี้ยไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีทรัพย์สิน, การจัดการทรัพย์สินแทน, การแก้คำขอท้ายฟ้อง, และดอกเบี้ยค้างชำระ
มารดาจัดการทรัพย์สินของบุตรในฐานะผู้แทนบุตรตลอดมาจนมารดาตายบุตรย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกทรัพย์สินอันเป็นส่วนได้ของตนจากผู้จัดการทรัพย์มรดกของมารดาได้ คดีไม่มีขาดอายุความ
เมื่อได้ฟ้องคดีต่อศาลแล้ว คดีคงดำเนินอยู่ในศาลตลอดมา อายุความย่อมสะดุดหยุดอยู่ จนกว่าจะได้วินิจฉัยถึงที่สุด หรือเสร็จไปประการอื่น
การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้คำขอท้ายฟ้อง และได้เสียค่าธรรมเนียมใหม่ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งยอมให้รับคดีไว้พิจารณา ย่อมถือว่า เป็นคดีค้างพิจารณาอยู่ในศาล
ฟ้องเรียกเงินตามรายการต่างๆ แต่คำขอท้ายฟ้องขอเรียกเป็นจำนวนน้อยกว่ารายการที่ระบุไว้ แต่แล้วศาลสั่งให้เรียกค่าขึ้นศาลตามรายการที่ระบุไว้ ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นการปลดหนี้
เมื่อจำเลยไม่ต้องการเสียดอกเบี้ยในระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยก็ต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่คิดว่าจะต้องชำระแก่โจทก์ มิฉะนั้นจะขอยกเว้นไม่เสียดอกเบี้ยไม่ได้
เมื่อได้ฟ้องคดีต่อศาลแล้ว คดีคงดำเนินอยู่ในศาลตลอดมา อายุความย่อมสะดุดหยุดอยู่ จนกว่าจะได้วินิจฉัยถึงที่สุด หรือเสร็จไปประการอื่น
การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้คำขอท้ายฟ้อง และได้เสียค่าธรรมเนียมใหม่ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งยอมให้รับคดีไว้พิจารณา ย่อมถือว่า เป็นคดีค้างพิจารณาอยู่ในศาล
ฟ้องเรียกเงินตามรายการต่างๆ แต่คำขอท้ายฟ้องขอเรียกเป็นจำนวนน้อยกว่ารายการที่ระบุไว้ แต่แล้วศาลสั่งให้เรียกค่าขึ้นศาลตามรายการที่ระบุไว้ ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นการปลดหนี้
เมื่อจำเลยไม่ต้องการเสียดอกเบี้ยในระหว่างการพิจารณาคดี จำเลยก็ต้องวางเงินต่อศาลตามจำนวนที่คิดว่าจะต้องชำระแก่โจทก์ มิฉะนั้นจะขอยกเว้นไม่เสียดอกเบี้ยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแย่งการครอบครองที่ดินและอายุความฟ้องร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
โจทก์กู้เงินนายอ่อน และมอบที่นาพิพาทซึ่งเป็นของโจทก์ให้นายอ่อนทำกินต่างดอกเบี้ย เมื่อโจทก์ชำระหนี้แก่นายอ่อนแล้ว โจทก์จะเข้าครอบครอง จำเลยขัดขวางไม่ยอมให้โจทก์เข้าครอบครอง โดยอ้างว่าซื้อมาจากนายอ่อน พฤตติการณ์เช่นนี้ย่อมถือว่า โจทก์ถูกจำเลยแย่งการการครอบครอง
โจทก์ฟ้องคดีเป็นเวลาเกิน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ถูกแย่งการครอบครองแล้ว คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 1375 วรรค 2
โจทก์ฟ้องคดีเป็นเวลาเกิน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ถูกแย่งการครอบครองแล้ว คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 1375 วรรค 2