คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความผิดอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 671 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2099/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร - พยานหลักฐานไม่เพียงพอ - คำซัดทอดระหว่างผู้ร้ายใช้ไม่ได้
คดีรับของโจร คำของจำเลยที่ 1 บอกตำรวจว่าซื้อของกลางจากจำเลยที่ 2 เป็นคำบอกเล่าและคำซัดทอดระหว่างผู้ร้ายฟังยันจำเลยที่ 2 มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานความผิดสมคบร่วมกันกระทำความผิดอาญา ต้องไม่เกินกรอบคำฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดอาญา จำเลยคนหนึ่งรับสารภาพ แต่อีกคนหนึ่งปฏิเสธ โจทก์จะขอสืบพยานว่าจำเลยคนที่ปฏิเสธได้สมคบกับจำเลยที่รับสารภาพกระทำความผิดอาญานั้นก็ได้ เฉพาะในความหมายของการสมคบในนัยที่ว่า จำเลยนั้นได้ลงมือกระทำผิดตามฟ้องนั้นเอง เพราะคำว่าสมคบนั้นเป็นคำที่มีความหมายกว้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1998/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยเจตนาด้วยความพยาบาทมาดหมาย ไม่ต้องบรรยายรายละเอียดในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนาโดยความพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายเท่านั้นก็เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 ได้แล้ว ไม่จำต้องบรรยายรายละเอียดว่าจำเลยได้กระทำโดยความพยายามด้วยความพยาบาทอย่างไร
จำเลยไปคอยดักยิงผู้ตายระหว่างทางโดยมีสาเหตุกันอยู่ ครั้งแรกยิงผู้ตายไม่ได้แล้วยังพยายามตามไปยิงอีกจนตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นผิด กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 (ตามฎีกาที่ 1077/2479)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวที่ไม่สมเหตุสมผล แม้ถูกทำร้ายก่อน ศาลไม่รับรอง
บุตรสาวผู้ตายหนีตามจำเลย ผู้ตายตามไปทัน ใช้ไม้ตีบุตรสาว จำเลยขอร้องผู้ตายกลับตีจำเลย จำเลยจึงใช้สนับมือชกผู้ตาย ผู้ตายเงื้อมีดที่ถือจะฟันจำเลยจำเลยจับมือมีดหลุดตกพื้นดิน ผู้ตายก้มลงจะเก็บแต่จำเลยไวกว่าแย่งมีดไว้ได้แล้วใช้มีดฟันผู้ตาย 2 ทีถึงตายเมื่อปรากฏว่าขณะจำเลยแย่งมีดได้จากผู้ตายผู้ตายไม่มีโอกาสจะต่อสู้ หากจำเลยจะยับยั้งไม่ใช้มีดนั้นฟันผู้ตายให้ตายก็ได้ แต่จำเลยหาละการอันควรเว้นไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยหาใช่การป้องกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานทางอ้อมเพียงพอพิสูจน์ความผิดอาญา แม้ไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์
ศาลจะอาศัยพยานบุคคลและวัตถุพยานแวดล้อมกรณีลงโทษจำเลยก็ได้ เมื่อศาลได้ชั่งน้ำหนักพยานแล้วแน่ใจว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด แม้คดีจะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยลงมือกระทำผิดก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดจากผู้ไม่ร่วมกระทำผิดทางอาญา และอายุความจากความผิดอาญา
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายในฐานะละเมิดจากผู้อื่น ซึ่งมิได้ร่วมในการกระทำผิดทางอาญาด้วยนั้น ต้องนับอายุความตาม ป.พ.พ.ม.448 วรรค 1 ( อ้างฎีกาที่ 383/2497 )
คดีแพ่งที่โจทก์ถอนฟ้องไปแล้วย่อมไม่เป็นเหตุให้อายุความสดุดหยุดลง
สิทธิของผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีแพ่งเนื่องจากความผิดอาญาต่อจำเลยผู้กระทำผิดหลังจากเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยจนคดีเด็ดขาดแล้ว ย่อมมีกำหนดอายุความตาม ป.พ.พ.ม.168

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 808/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสมคบคิดฆ่าผู้อื่น ลดโทษจากพยานหลักฐานและโทษจำเลยร่วม
จำเลยถูกฟ้องหาว่าสมคบกับผู้อื่นฆ่าเขาตาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 15 ปี แต่ ปรากฎว่า ผู้อื่นที่จำเลยสมคบด้วยนั้น ถูกฟ้องจนศาลลงโทษไปก่อนแล้ว ถูกจำคุกเพียง 9 ปี เท่านั้น ประกอบกับคำ ให้การจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่ ดังนี้ ย่อมวินิจฉัยปราณีลดโทษให้จำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 59 คงเหลือโทษจำคุก 9 ปี ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมลายมือชื่อในเอกสารทางราชการและการใช้เอกสารปลอม ความผิดตามกฎหมายอาญา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลอมหนังสือขึ้นเอง แล้วนำหนังสือปลอมนั้นไปใช้ คือไปขายให้แก่ผู้อื่น จึงขอให้ลงโทษทั้ง 2 ฐานคือตาม ก.ม,ลักษณะอาญามาตรา 224 และ 227 ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟังไม่ได้ว่าจำเลยปลอมเอง คงฟังได้ว่าจำ เลยใช้หนังสือปลอมอันเป็นผิดตามมาตรา 227 ซึ่งโยนไปลงโทษตามมาตรา 224 จึงพิพากษาจำคุกจำเลย 2 ปี.
โจทก์มิได้อุทธรณ์ คงมีจำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ขอให้ยกฟ้องศาลอุทธรณ์กลับเห็นว่าจำเลยเป็นตีวการในการปลอม หนังสือ แต่ไม่ผิดฐานใช้หนังสือปลอม จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 224 ดังนี้ ถือได้ว่า เป็นการลงโทษตามมาตราที่โจทก์ฟ้อง จึงเป็นการชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้สักเก่าครอบครองก่อนกฎหมายใหม่ ไม่อยู่ในความผิดอาญา แม้กฎหมายใหม่ขยายประเภทไม้หวงห้าม
มีไม้สักแปรรูป ซึ่งได้มาจากต้นสักในที่ดินกรรมสิทธิของเอกชนไว้ในครอบครองก่อนวันใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2494 นั้น ไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และแม้จะครอบครองต่อมาจนใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ซึ่งบัญญัติว่า "ไม้สักทั่วไปในราชอาณาจักรไม่ว่าจะขึ้นอยู่ในที่ใด เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ฯลฯ" ก็ ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ไม่ได้กล่าวให้มีผลย้อนหลัง ฉะนั้นจึงจะใช้กฎหมายฉะบับหลังให้มีผลย้อน หลังเป็นการลงโทษบุคคลในทางอาญามิได้ขัดต่อกฎหมาย ลักษณะอาญามาตรา 7 ผู้ครอบครองไม้สักดังกล่าวจึงยัง ไม่มีผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2494./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับซื้อของที่ได้มาจากการลักตัดสายไฟฟ้า โดยรู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย มีความผิดตามกฎหมายอาญา
รับซื้อลวดไฟฟ้าที่ถูกลักตัดไปจากถนนไว้ในเวลาวิกาลแล้วรีบจัดการเผาคลายเกลียวซุกซ่อนไว้เวลาเจ้าพนักงานค้นพบลวดของกลางได้ สอบถามก็ปกปิดความจริงแสดงว่าได้ซื้อไว้โดยรู้ว่าเป็นของที่ถูกลักมา
of 68