พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของบุคคลภายนอกคดีในการพิสูจน์กรรมสิทธิ์ที่ดิน แม้ศาลเคยมีคำสั่งแล้ว
จำเลยยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินในโฉนดที่ ผ. ผู้ตายมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ศาลมีคำสั่งว่าที่พิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย แต่เมื่อ ผ. มิได้เป็นคู่ความในคดีนั้น ผ. จึงเป็นบุคคลภายนอกคดีดังกล่าว มีอำนาจพิสูจน์ได้ว่า ตนมีสิทธิดีกว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา145(2) โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ผ. จึงมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3655/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ผู้ฎีกาในการส่งสำเนาฎีกา และผลของการเพิกเฉยต่อการดำเนินการตามคำสั่งศาล
การส่งสำเนาฎีกาในคดีแพ่งนั้น ผู้ฎีกามีหน้าที่จัดการนำส่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 ประกอบด้วยมาตรา 1(3) ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยที่ 1 นำส่งสำเนาฎีกาให้โจทก์ภายใน 15 วัน จำเลยที่ 1 ได้นำส่งแล้ว แต่เมื่อส่งไม่ได้ศาลชั้นต้นได้สั่งให้รอจำเลยแถลง จำเลยที่ 1 ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วแต่ก็ไม่จัดการอย่างใด คงปล่อยทิ้งไว้จนเจ้าหน้าที่รายงานศาลเป็นเวลาถึง 1 เดือนและเพิกเฉยเรื่อยมา พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3512/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องซ้ำที่มีประเด็นข้อเท็จจริงและคำขอเดิม หลังศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องแล้ว ถือเป็นการขัดต่อหลักการยุติธรรม
จำเลยยื่นคำร้องฉบับหลังโดยมีข้ออ้างและคำขอเช่นเดียวกับคำร้องฉบับแรกว่า การที่โจทก์บังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยเป็นการไม่ชอบด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความและสมควรยกเลิกการบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องฉบับแรกของจำเลย และเป็นที่สุดแล้ว การที่จำเลยยื่นคำร้องฉบับหลังอีกจึงเป็นการขอให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาอันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2828/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้รับจ้างและผู้ว่าจ้างในการดูแลรักษาสิ่งก่อสร้างระหว่างการพิจารณาคดี และขอบเขตคำสั่งศาล
โจทก์ฟ้องให้บังคับจำเลยชำระค่าจ้างก่อสร้างอาคาร จำเลยให้การว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อตามสัญญาระบุให้สิ่งก่อสร้างรวมทั้งสัมภาระอุปกรณ์ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยผู้ว่าจ้างตั้งแต่นำเข้ามาในที่ก่อสร้าง จำเลยจึงมีส่วนได้เสียในอาคารพิพาท หากอาคารถูกปล่อยปละละเลยไม่มีผู้ดูแลรักษา ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ส่วนได้เสียของจำเลย แม้จำเลยมิได้ฟ้องแย้งให้โจทก์ส่งมอบอาคาร จำเลยก็มีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยในระหว่างการพิจารณา เพื่อให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ดูแลรักษาอาคารในระหว่างการพิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 264 เมื่อโจทก์หยุดการก่อสร้างไปแล้ว และการที่จะให้จำเลยเข้าดูแลรักษาอาคารไม่กระทบถึงสิทธิส่วนได้เสียของโจทก์ ศาลจึงชอบที่จะมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยเข้าเป็นผู้ดูแลรักษาอาคารพิพาทในระหว่างพิจารณา แต่ที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยเข้าดำเนินการทำประโยชน์และครอบครองอาคารโดยจำเลยมิได้ฟ้องแย้งและมีคำขอบังคับเช่นนั้น จึงไม่ชอบด้วย มาตรา 264
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2677/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล แม้มิได้โต้แย้งก่อน หากไม่มีเวลาพอสมควรในการโต้แย้ง
โจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมอบฉันทะให้เสมียนทนายไปยื่นคำร้องแทน ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้น เห็นได้ว่าโจทก์ย่อมไม่มีเวลาเพียงพอจะโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้ แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2677/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล แม้มิได้โต้แย้ง หากไม่มีโอกาสโต้แย้งก่อน
โจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมอบฉันทะให้เสมียนทนายไปยื่นคำร้องแทนศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้วนัดฟังคำพิพากษาในวันรุ่งขึ้น เห็นได้ว่าโจทก์ย่อมไม่มีเวลาเพียงพอจะโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้ แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ โจทก์ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามคำสั่งศาลก่อนอุทธรณ์: จำเลยต้องชำระหนี้หรือวางประกันก่อน แม้จะยื่นขอทุเลาการบังคับ
เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล จำเลยมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนั้นจะอ้างว่าได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับไว้ก่อนแล้วหาได้ไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่าจะต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ดังนั้น จะนำวิธีการขอทุเลาการบังคับเช่นการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษามาใช้บังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามคำสั่งศาลก่อนอุทธรณ์: จำเลยต้องชำระเงินหรือหาประกันก่อนอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล จำเลยมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนั้นจะอ้างว่าได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับไว้ก่อนแล้วหาได้ไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่าจะต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ดังนั้น จะนำวิธีการขอทุเลาการบังคับเช่นการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษามาใช้บังคับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1349-1351/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลอนุญาตถอนเงินประกันค่าเสียหายเพื่อใช้ค่าธรรมเนียมศาล เป็นคำสั่งในชั้นบังคับคดี คู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา
เมื่อโจทก์ฟ้องได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำร้อง และโจทก์ได้วางเงินประกันค่าเสียหายตามคำสั่งศาลแล้ว ต่อมาเมื่อโจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนเงินที่วางประกันค่าเสียหายมาชำระค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา โดยสั่งไว้ด้วยอีกว่าให้เบิกมาปิดฤชากรในคำฟ้องฎีกาได้เมื่อคำสั่งนี้ถึงที่สุดแล้ว และจะสั่งฎีกาของโจทก์ต่อไป เห็นได้ว่าศาลชั้นต้นยังมิได้สั่งรับฎีกาของโจทก์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว จึงมิใช่เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นกระทำไปในชั้นดำเนินการแทนศาลฎีกาถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งของศาลฎีกา แต่เป็นคำสั่งของศาลชั้นต้นเองโดยตรง คำสั่งดังกล่าวจึงยังไม่ถึงที่สุด คู่ความย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์แล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาย่อมเป็นอันยกเลิกไปในตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260 โจทก์ขอรับเงินที่วางประกันค่าเสียหายคืน จำเลยขอให้ยึดเงินนี้ไว้แต่ตกลงกันได้ว่าให้โจทก์ถอนเงินเพียงเท่าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ส่วนที่เหลือจำเลยอายัดไว้ เงินส่วนที่เหลือนี้เป็นทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้เพื่อบังคับคดีแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนเงินจำนวนนี้ไปเพื่อชำระค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา จึงเป็นคำสั่งอันเกี่ยวกับการบังคับคดี คู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(2) หรือเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม มาตรา 226
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์แล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาย่อมเป็นอันยกเลิกไปในตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260 โจทก์ขอรับเงินที่วางประกันค่าเสียหายคืน จำเลยขอให้ยึดเงินนี้ไว้แต่ตกลงกันได้ว่าให้โจทก์ถอนเงินเพียงเท่าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ส่วนที่เหลือจำเลยอายัดไว้ เงินส่วนที่เหลือนี้เป็นทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้เพื่อบังคับคดีแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนเงินจำนวนนี้ไปเพื่อชำระค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา จึงเป็นคำสั่งอันเกี่ยวกับการบังคับคดี คู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(2) หรือเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม มาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1349-1351/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลอนุญาตถอนเงินประกันค่าเสียหายในชั้นบังคับคดีเป็นคำสั่งที่อุทธรณ์ฎีกาได้ ไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา
เมื่อโจทก์ฟ้องได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามคำร้อง และโจทก์ได้วางเงินประกันค่าเสียหายตามคำสั่งศาลแล้ว ต่อมาเมื่อโจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนเงินดังกล่าวมาชำระค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา โดยสั่งด้วยว่าให้เบิกมาปิดฤชากรในคำฟ้องฎีกาได้เมื่อคำสั่งนี้ถึงที่สุดแล้ว และจะสั่งฎีกาของโจทก์ต่อไป เห็นได้ว่ายังมิได้สั่งรับฎีกา จึงมิใช่เป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นกระทำไปในชั้นดำเนินการแทนศาลฎีกาแต่อย่างใด ถือไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งของศาลฎีกา แต่เป็นคำสั่งของศาลชั้นต้นเองโดยตรง คำสั่งดังกล่าวจึงยังไม่ถึงที่สุด คู่ความย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปได้
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาย่อมเป็นอันยกเลิกไปในตัวโจทก์ขอรับเงินประกันค่าเสียหายที่วางศาล จำเลยขอให้ยึดเงินนี้ไว้ แต่ตกลงกันได้ว่าให้โจทก์ถอนเงินได้เพียงเท่าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ส่วนที่เหลือจำเลยอายัดไว้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนเงินที่ศาลสั่งอายัดไว้เพื่อชำระค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา จึงเป็นคำสั่งอันเกี่ยวกับการบังคับคดีคู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(2) หรือคำสั่งระหว่างพิจารณาตามมาตรา 226
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาย่อมเป็นอันยกเลิกไปในตัวโจทก์ขอรับเงินประกันค่าเสียหายที่วางศาล จำเลยขอให้ยึดเงินนี้ไว้ แต่ตกลงกันได้ว่าให้โจทก์ถอนเงินได้เพียงเท่าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ส่วนที่เหลือจำเลยอายัดไว้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนเงินที่ศาลสั่งอายัดไว้เพื่อชำระค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา จึงเป็นคำสั่งอันเกี่ยวกับการบังคับคดีคู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(2) หรือคำสั่งระหว่างพิจารณาตามมาตรา 226