คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทุนทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 764 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2833/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกสัญญาแชร์แต่ละวงเพื่อพิจารณาข้อห้ามฎีกาตามทุนทรัพย์ที่พิพาท
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นแชร์กับโจทก์รวม 3 วงแล้วผิดสัญญาไม่ชำระค่าแชร์ ทุนทรัพย์ในคดีต้องแยกตามสัญญาเล่นแชร์แต่ละวง สำหรับแชร์วงที่ 2 และวงที่ 3 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์มิได้อุทธรณ์ จึงเป็นอันยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนแชร์วงแรกทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 50,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณทุนทรัพย์คดีขับไล่ต้องแยกรายจำเลย/อสังหาริมทรัพย์ และใช้มูลค่าตามฟ้อง ไม่ใช่ในชั้นพิจารณา
คดีฟ้องขับไล่ผู้อาศัยออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์นั้น การคำนวณทุนทรัพย์หรือค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ต้องคำนวณเป็นรายจำเลยแต่ละคน หรือรายอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่งที่จำเลยอาศัยอยู่ และการคำนวณค่าเช่าดังกล่าวต้องคำนวณขณะฟ้อง มิใช่ในชั้นพิจารณา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากตึกแถว 3 ชั้นที่โจทก์เช่ามาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยบรรยายฟ้องว่าตึกแถวชั้นที่จำเลยที่ 1 อยู่อาศัยอาจให้เช่าไม่เกินเดือนละ1,200 บาท ส่วนชั้นล่างของตึกแถวดังกล่าวที่จำเลยที่ 2 อยู่อาศัยโจทก์มิได้คำนวณเป็นค่าเช่าแต่อ้างว่า หากโจทก์ประกอบการค้าเองจะมีรายได้ประมาณเดือนละ 3,000 บาท ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจคำนวณค่าเช่าตึกแถวชั้นที่จำเลยที่ 2 อยู่อาศัยโดยอาศัยข้อเท็จจริงตามฟ้องดังกล่าวได้ ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นค่าเช่าไม่น่าจะเกินเดือนละ 2,000 บาท จึงเป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณทุนทรัพย์คดีขับไล่ ต้องแยกรายจำเลย/อสังหาริมทรัพย์ และคำนวณตามฟ้อง มิใช่ในชั้นพิจารณา
คดีฟ้องขับไล่ผู้อาศัยออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์นั้น การคำนวณทุนทรัพย์หรือค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องคำนวณเป็นรายจำเลยแต่ละคนหรือรายอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่งที่จำเลยอาศัยอยู่ และการคำนวณค่าเช่าดังกล่าวต้องคำนวณขณะฟ้องมิใช่ในชั้นพิจารณา โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากตึกแถว 3 ชั้นที่โจทก์เช่ามาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยบรรยายฟ้องว่าตึกแถวชั้นที่จำเลยที่ 1 อยู่อาศัยอาจให้เช่าไม่เกินเดือนละ 1,200บาท ส่วนชั้นล่างของตึกแถวดังกล่าวที่จำเลยที่ 2 อยู่อาศัยโจทก์มิได้คำนวณเป็นค่าเช่าแต่อ้างว่า หากโจทก์ประกอบการค้าเองจะมีรายได้ประมาณเดือนละ 3,000 บาท ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจคำนวณค่าเช่าตึกแถวชั้นที่จำเลยที่ 2 อยู่อาศัยโดยอาศัยข้อเท็จจริงตามฟ้องดังกล่าวได้ ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นค่าเช่าไม่น่าจะเกินเดือนละ 2,000 บาท จึงเป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1922/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณทุนทรัพย์คดีขับไล่ ต้องแยกคำนวณรายจำเลย/อสังหาริมทรัพย์ และใช้ค่าตามฟ้อง ไม่ใช่ชั้นพิจารณา
คดีฟ้องขับไล่ผู้อาศัยออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์นั้น การคำนวณทุนทรัพย์หรือค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ต้องคำนวณเป็นรายจำเลยแต่ละคน หรือรายอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่งที่จำเลยอาศัยอยู่ และการคำนวณค่าเช่าดังกล่าวต้องคำนวณขณะฟ้อง มิใช่ในชั้นพิจารณา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากตึกแถว 3 ชั้นที่โจทก์เช่ามาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยบรรยายฟ้องว่าตึกแถวชั้นที่จำเลยที่ 1 อยู่อาศัยอาจให้เช่าไม่เกินเดือนละ1,200 บาท ส่วนชั้นล่างของตึกแถวดังกล่าวที่จำเลยที่ 2 อยู่อาศัยโจทก์มิได้คำนวณเป็นค่าเช่าแต่อ้างว่า หากโจทก์ประกอบการค้าเองจะมีรายได้ประมาณเดือนละ 3,000 บาท ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจคำนวณค่าเช่าตึกแถวชั้นที่จำเลยที่ 2 อยู่อาศัยโดยอาศัยข้อเท็จจริงตามฟ้องดังกล่าวได้ ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นค่าเช่าไม่น่าจะเกินเดือนละ 2,000 บาท จึงเป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีล้มละลาย: จำนวนทุนทรัพย์เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
ในคดีล้มละลายที่ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยืนยันและเรียกให้ชำระหนี้นั้น ถือเป็นคดีมีทุนทรัพย์ หากหนี้ซึ่งเป็นทุนทรัพย์ที่พิพาทมีจำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ย่อมต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ประกอบกับพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 153 การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว และถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาจึงไม่อาจรับไว้พิจารณาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ในคดีล้มละลายที่มีทุนทรัพย์น้อยกว่า 20,000 บาท ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาต้องปฏิบัติตาม
ในคดีล้มละลายที่ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้ตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยืนยันและเรียกให้ชำระหนี้นั้น ถือเป็นคดีมีทุนทรัพย์ หากหนี้ซึ่งเป็นทุนทรัพย์ที่พิพาทมีจำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ย่อมต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ประกอบกับพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 153 การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวและถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาจึงไม่อาจรับไว้พิจารณาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5607/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลอุทธรณ์แยกฉบับ: จำเลยแต่ละคนต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ของตน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทกจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์คนละฉบับคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในทุนทรัพย์เดียวกันเมื่ออุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ของแต่ละคน จำเลยแต่ละคนจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ในฟ้องอุทธรณ์ของตนจะอ้างว่าจำเลยที่ 1 ได้เสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ดังกล่าวเต็มจำนวนแล้ว จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลอีกนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5607/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลอุทธรณ์แยกฉบับ: จำเลยแต่ละคนต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ของตน แม้ฟ้องร่วมกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์คนละฉบับคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในทุนทรัพย์เดียวกัน เมื่ออุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ของแต่ละคน จำเลยแต่ละคนจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ในฟ้องอุทธรณ์ของตน จะอ้างว่าจำเลยที่ 1 ได้เสียค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ดังกล่าวเต็มจำนวนแล้ว จำเลยที่ 2จึงไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลอีกนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คดีอสังหาริมทรัพย์แม้ทุนทรัพย์น้อยกว่า 20,000 บาท ย่อมทำได้ตามกฎหมาย
ทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นเรือนทรงไทย 2 หลังแฝด เป็นอสังหาริมทรัพย์แม้คดีจะมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท ก็ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คดีทรัพย์สิน: แม้คดีทุนทรัพย์น้อยกว่า 20,000 บาท หากเป็นอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่อยู่ในข้อห้ามอุทธรณ์
ทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นเรือนทรงไทย 2 หลังแฝดเป็นอสังหาริมทรัพย์แม้คดีจะมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท ก็ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
of 77