คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยายามฆ่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 869 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2153/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, ครอบครองวัตถุระเบิด, และการลดโทษจากคำรับสารภาพ
จำเลยเป็นพลตำรวจออกปฎิบัติการตามแผนกวาดล้างโจรผู้ร้ายในฤดูแล้งระหว่างปฎิบัติการ ผู้บังคับกองพบจำเลยกำลังเมาสุราพกปืนยืนขวางถนนอยู่จึงดึงตัวขึ้นระเพราะเห็นว่าถ้าปล่อยไว้อาจจะไปก่อเหตุวุ่นวายเดือดร้อน ระหว่างทางจำเลยเอาลูกระเบิดที่มีอยู่ถอดสลักนิรภัยโยนเข้าไปใต้ที่นั่งของผู้บังคับกองแล้วจำเลยกระโดดรถหนีลูกระเบิดได้ระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ผู้บังคับกองกับพวกบาดเจ็บ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่
จำเลยมีลูกระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และใช้ลูกระเบิดนั้นพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เป็นความผิดสองกระทงและเมื่อจำเลยได้ใช้วัตถุระเบิดดังกล่าวไปเสียก่อนวันที่พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ซึ่งยกเว้นโทษแก่ผู้มีวัตถุระเบิดฯ ไว้ในความครอบครองที่นำไปมอบแก่นายทะเบียนท้องที่ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีวัตถุระเบิดที่จะส่งมอบแก่นายทะเบียนได้ย่อมไม่ได้รับยกเว้นโทษ
อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นพฤติการณ์ที่ร้ายแรงจำเลยรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐานไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาควรจะได้รับโทษถึงจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่ลดโทษเลยนั้น พอเข้าใจได้ว่าโจทก์ขอให้ลงโทษจำคุกหนักขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า: การใช้อาวุธปืนที่ไม่บรรลุผลจากความบกพร่องของอาวุธ vs. ความไม่สามารถบรรลุผลโดยสิ้นเชิง
จำเลยใช้อาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนพร้อมยิงเจ้าพนักงานตำรวจในระยะกระชั้นชิด 3 นัด แต่กระสุนปืนไม่ลั่น มีรอยตำหนิที่จานท้ายกระสุนปืนซึ่งเกิดจากเข็มแทงชนวนของอาวุธปืนกระทบ เช่นนี้ ถือได้ว่า จำเลยกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบด้วยมาตรา 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า: การกระทำไม่บรรลุผลจากความบกพร่องของอาวุธปืน (ไม่ใช่ความตั้งใจของผู้กระทำ) และการรวมโทษกระทง
จำเลยใช้อาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนพร้อมยิงเจ้าพนักงานตำรวจในระยะกระชั้นชิด 3 นัด แต่กระสุนปืนไม่ลั่น มีรอยตำหนิที่จานท้ายกระสุนปืนซึ่งเกิดจากเข็มแทงชนวนของอาวุธปืนกระทบ เช่นนี้ ถือได้ว่า จำเลยกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบด้วยมาตรา 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2036/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่าด้วยปืนทำเอง กระสุนด้าน ไม่สำเร็จ
ยิงด้วยปืนชนิดทำเอง ใช้กระสุนเอ็ม 16 สับนก 3 ที กระสุนด้านไม่ลั่น คงอยู่ในรังเพลิง เป็นพยายามฆ่าคน แต่ไม่เกิดผลโดยบังเอิญตาม มาตรา 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าและการแจ้งความเท็จจากเหตุการณ์ยิง
จำเลยฝ่ายเดียวเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย แล้วไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าผู้เสียหายใช้มีดแทงพยายามชิงทรัพย์จำเลยโดยผู้เสียหายมิได้กระทำผิด จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าและผิดฐานแจ้งความเท็จอีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1024/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่างกาย vs. พยายามฆ่า: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้เหล็กขูดชาร์ฟแทงทำร้ายผู้เสียหาย มีบาดแผลที่เหนือสะดือและเหนือราวนมขวาไม่ปรากฏว่ามีส่วนลึกเข้าภายใน และขนาดบาดแผลยาวเพียง 0.7 เซนติเมตรเท่านั้นอาจเป็นได้ที่จำเลยแทงปัดป่ายไปมาในระยะห่างปลายเหล็กขูดชาร์ฟเฉี่ยวถูกผู้เสียหาย ผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 8 วัน กลับไปรักษาต่อที่บ้านอีก 20 วัน ระหว่างรักษาตัวที่บ้าน ผู้เสียหายสามารถไปโรงเรียนได้โดยการโดยสารรถเมล์ประจำทาง คำเบิกความของแพทย์ผู้ชันสูตรว่า บาดแผลอาจจะหายก่อน 20 วันได้ ดังนี้คดีไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยคงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำร้ายร่างกายและการร่วมกระทำผิด กรณีแทงทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า
คดีที่โจทก์ฟ้องว่ารถชนกันเกิดจากการกระทำโดยประมาทของทั้งฝ่ายจำเลยที่ 1 และที่ 2 นั้น ข้อเท็จจริงที่ว่า เหตุเกิดจากการกระทำโดยประมาทของจำเลยคนใดบ้างหรือว่าทั้งสองคนเป็นข้อเท็จจริงอันหนึ่งอันเดียวกัน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏแก่ศาลอุทธรณ์ว่า เหตุเกิดจากการกระทำโดยประมาทของจำเลยที่ 2 ฝ่ายเดียว จำเลยที่ 1 มิได้กระทำโดยประมาทด้วย ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์และพยายามฆ่า: การใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด และการไม่เป็นฟ้องซ้ำ
อัยการศาลทหารเคยยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลทหารมาครั้งหนึ่งแล้วศาลทหารเห็นว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลพลเรือน จะฟ้องต่อศาลทหารมิได้จึงพิพากษายกฟ้องโดยยังมิได้วินิจฉัยถึงความผิดที่ฟ้องนั้นแต่ประการใดดังนี้ พนักงานอัยการฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือนด้วยข้อหาเดียวกันนั้นอีกได้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ และในการปล้นนี้จำเลยกับพวกยิงพยายามฆ่าผู้เสียหายด้วยขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340,289,80 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามมาตรา 288,80 โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เพียงว่า จำเลยมีความผิด ตามมาตรา 340,83 อีกบทหนึ่ง จำเลยฎีกา ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์จริง และในการปล้นนี้คนร้ายที่ร่วมปล้นคนหนึ่งได้ยิงพยายามฆ่าผู้เสียหายด้วยอันเป็นความผิดหลายบทคือมาตรา 340 วรรคสี่กับมาตรา 289(6)(7),80แต่ความผิดฐานพยายามฆ่านี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามมาตรา 288,80 และโจทก์เห็นว่าชอบ มิได้อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามมาตรา 289,80 ศาลฎีกาจึงลงโทษได้เพียงตามมาตราที่ศาลชั้นต้นวางบทมาและเมื่อศาลอุทธรณ์มิได้ใช้กฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษจำเลย ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้เฉพาะส่วนนี้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษผู้กระทำผิดอายุ 18 ปี และการพิจารณาความผิดฐานปล้นทรัพย์ vs พยายามฆ่า
จำเลยอายุ 18 ปี แต่ยังอ่อนต่อความรู้สึกผิดชอบกระทำการปล้นโคโดยใช้ปืนยิง ศาลลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งตามมาตรา 76 ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสี่คน จำเลย 3 คน อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสามไม่ได้ทำผิดมิใช่ไม่มีความผิดเกิดขึ้น และยกคำพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 ขึ้นวินิจฉัย ดังนี้เป็นคำพยานคนละชุดกันไม่ใช่เหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลอุทธรณ์ปล่อยจำเลยที่ 4 ด้วยไม่ได้แต่ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำเป็นแต่ปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิงไม่ใช่พยายามฆ่าคน เป็นเหตุในลักษณะคดีพิพากษาให้เป็นผลดีแก่จำเลยที่ 4 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่า: การประเมินผลจากการยิงที่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ
ตามปกติอาวุธปืนเป็นอาวุธร้ายแรง หากกระสุนปืนที่จำเลยยิงถูกอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก็เห็นได้ชัดว่าปืนกระบอกนั้นไม่อาจใช้ยิงให้ผู้เสียหายได้ แต่เมื่อกระสุนปืนที่จำเลยยิงเฉียดถูกผู้เสียหายที่ต้นแขนซ้ายมีบาดแผลเล็กน้อย จึงเป็นเรื่องการกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เพราะกระสุนปืนที่จำเลยยิงนั้นถูกอวัยวะส่วนไม่สำคัญของร่างกาย หาใช่เพราะการกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำไม่
of 87