พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2214/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์พระพุทธรูปจากวัดโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์สินของวัดและประสงค์มิให้เจ้าอาวาสขัดขวาง
พระพุทธรูปของกลางเป็นของวัด การที่จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันซื้อพระพุทธรูปดังกล่าวจากพระภิกษุซ.ซึ่งจำวัดอยู่ในวิหาร โดยรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ทรัพย์สินของพระภิกษุซ.ก็เพื่อมิให้พระภิกษุซ.ขัดขวางจำเลยทั้งสองกับพวกเท่านั้น เมื่อจำเลยทั้งสองกับพวกเอาพระพุทธรูปของกลางไปจากวิหาร จำเลยทั้งสองย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2193/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการลักทรัพย์ในเคหสถาน: ร้านค้าเปิดทำการกลางวัน ไม่ถือเป็นเคหสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าซึ่งประชาชนย่อมจะเข้าไปได้ แม้จะเป็นเคหสถานที่ผู้เสียหายใช้อยู่อาศัยด้วย แต่ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันร้านค้ายังคงเปิดขายสินค้าอยู่ การที่จำเลยเข้าไปลักสุราและบุหรี่จึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2193/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์ในร้านค้าเปิดเผย ไม่เป็นลักทรัพย์ในเคหสถาน แม้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย
ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าซึ่งประชาชนย่อมจะเข้าไปได้แม้จะเป็นเคหสถานที่ผู้เสียหายใช้อยู่อาศัยด้วย แต่ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันร้านค้ายังคงเปิดขายสินค้าอยู่ การที่จำเลยเข้าไปลักสุราและบุหรี่จึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2193/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์ในสถานที่ไม่ใช่ 'เคหสถาน' แม้ผู้เสียหายอยู่อาศัยด้วย
ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าซึ่งประชาชนย่อมจะเข้าไปได้แม้จะเป็นเคหสถานที่ผู้เสียหายใช้อยู่อาศัยด้วย แต่ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันร้านค้ายังคงเปิดขายสินค้าอยู่ การที่จำเลยเข้าไปลักสุราและบุหรี่จึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1798/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของเวรยามต่อเหตุลักทรัพย์: การปฏิบัติหน้าที่ตามปกติโดยไม่มีละเว้นประมาท
การอยู่เวรเวลากลางคืนของจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างประจำที่ศาลากลางจังหวัดเน้นหนักเรื่องป้องกันอัคคีภัยและการก่อวินาศกรรม เช่นนี้ หน้าที่ของจำเลยทั้งสองเป็นเรื่องป้องกันเหตุดังกล่าวไม่ให้เกิดแก่สถานที่ราชการเท่านั้น วิธีปฏิบัติจึงได้จัดที่นอนไว้ให้ และที่นอนก็อยู่ชั้นล่าง ในขณะที่คนร้ายปีนขึ้นไปบนชั้นสองงัดประตูหน้าต่างแล้วลักเอาเครื่องพิมพ์ดีดไป แม้จะต้องใช้เวลานานพอสมควรแต่ก็อยู่คนละชั้นกับที่จำเลยนอนอยู่ และเป็นเรื่องธรรมดาที่คนร้ายจะต้องระมัดระวังตัวมิให้ใครรู้เห็น จำเลยทั้งสองได้เข้าเวรยามตามปกติ และปฏิบัติอย่างที่เคยปฏิบัติกันก่อน ๆ มาแล้วโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่า จำเลยจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้างจำเลยละเว้นหน้าที่ข้อใด และกระทำโดยประมาทหรือผิดระเบียบข้อใด จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำโดยประมาท ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ: ศาลฎีกาแก้บทลงโทษจากความผิดฐานใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ธรรมดา
จำเลยที่ 4 นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่จำเลยที่ 1 ขับขี่มาที่เกิดเหตุขณะจำเลยที่ 1,2 ลักทรัพย์ จำเลยที่ 4 ก็ยืนคอยอยู่แถวนั้น พฤติการณ์ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 4 มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดด้วย
ขณะจำเลยกระทำผิด รถจักรยานยนต์พาหนะของจำเลยยังจอดอยู่ที่เดิมมิได้ก่อให้เกิดความสะดวกในการลักทรัพย์แต่อย่างใดการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336ทวิ
ศาลล่างพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336 ทวิ จำเลยที่ 4 ฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 4 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7) ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วย.(ที่มา-ส่งเสริม)
ขณะจำเลยกระทำผิด รถจักรยานยนต์พาหนะของจำเลยยังจอดอยู่ที่เดิมมิได้ก่อให้เกิดความสะดวกในการลักทรัพย์แต่อย่างใดการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336ทวิ
ศาลล่างพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336 ทวิ จำเลยที่ 4 ฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 4 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7) ศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วย.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์สำเร็จ: การเคลื่อนย้ายทรัพย์ไปยังที่อื่น แม้จะเอาไปไม่ได้สำเร็จก็ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายเอากระเป๋าเป้บรรจุสุราเครื่องคิดเลขเงินเหรียญและรองเท้าสเกตของผู้เสียหาย จากชั้นสองไปไว้บนชั้นสี่ซึ่งเป็นดาดฟ้าเป็นการพาทรัพย์เคลื่อนที่ไปและเข้าถือเอาทรัพย์นั้นแล้ว แม้จำเลยจะเอาทรัพย์ไปไม่ได้ เพราะบุตรของผู้เสียหายมาพบเสียก่อนก็เป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างลักทรัพย์นายจ้าง: น้ำมันที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลยังอยู่ในความครอบครองของนายจ้าง การลักไปขายจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างของกรมชลประทาน ได้รับคำสั่งให้ไปควบคุมเครื่องดันน้ำโดยกรมชลประทานส่งน้ำมันที่ใช้กับเครื่องดันน้ำให้ และมีเจ้าหน้าที่ไปควบคุมดูแลการปฏิบัติงานและตรวจสอบการใช้น้ำมันทุกวัน น้ำมันดังกล่าวยังอยู่ในความครอบครองของกรมชลประทาน เมื่อจำเลยทั้งสองเอาน้ำมันไปขายจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์
(ประชุมใหญ่ครั้งที่4/2530)
จำเลยร่วมกันลักน้ำมันไปขาย 3 ครั้งเป็นความผิด 3 กรรมศาลอุทธรณ์ลงโทษเพียงกระทงเดียว แม้โจทก์จะไม่ฎีกาและจำเลยที่ 1 คนเดียวฎีกาศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเฉพาะการปรับบทและกระทงลงโทษให้ถูกต้อง ตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่4/2530)
จำเลยร่วมกันลักน้ำมันไปขาย 3 ครั้งเป็นความผิด 3 กรรมศาลอุทธรณ์ลงโทษเพียงกระทงเดียว แม้โจทก์จะไม่ฎีกาและจำเลยที่ 1 คนเดียวฎีกาศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเฉพาะการปรับบทและกระทงลงโทษให้ถูกต้อง ตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์น้ำมันของลูกจ้างที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ การครอบครองน้ำมันยังเป็นของนายจ้าง
จำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างของกรมชลประทานได้รับคำสั่งให้ไปควบคุมเครื่องดัน น้ำ โดยกรมชลประทานส่งน้ำมันที่ใช้กับเครื่องดัน น้ำดังกล่าวให้ทุกวัน และมีเจ้าหน้าที่ไปควบคุมการปฏิบัติงานและตรวจสอบการใช้น้ำมันของจำเลยทั้งสองทุกวัน ดังนี้น้ำมันดังกล่าวยังอยู่ในความครอบครองของกรมชลประทานเมื่อจำเลยทั้งสองเอาน้ำมันนั้นไปขาย จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกจ้างลักทรัพย์นายจ้าง: น้ำมันที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลยังเป็นทรัพย์สินของนายจ้าง การกระทำหลายครั้งถือเป็นหลายกรรม
จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างของกรมชลประทาน ได้รับคำสั่งให้ไปควบคุมเครื่องดันน้ำโดยกรมชลประทานส่งน้ำมันที่ใช้กับเครื่องดันน้ำให้ และมีเจ้าหน้าที่ไปควบคุมดูแลการปฏิบัติงานและตรวจสอบการใช้น้ำมันทุกวันน้ำมันดังกล่าวยังอยู่ในความครอบครองของกรมชลประทาน เมื่อจำเลยทั้งสองเอาน้ำมันไปขายจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ (ประชุมใหญ่ครั้งที่4/2530)
จำเลยร่วมกันลักน้ำมันไปขาย 3 ครั้งเป็นความผิด 3 กรรมศาลอุทธรณ์ลงโทษเพียงกระทงเดียว แม้โจทก์จะไม่ฎีกาและจำเลยที่ 1 คนเดียวฎีกาศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเฉพาะการปรับบทและกระทงลงโทษให้ถูกต้อง ตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ได้.
จำเลยร่วมกันลักน้ำมันไปขาย 3 ครั้งเป็นความผิด 3 กรรมศาลอุทธรณ์ลงโทษเพียงกระทงเดียว แม้โจทก์จะไม่ฎีกาและจำเลยที่ 1 คนเดียวฎีกาศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเฉพาะการปรับบทและกระทงลงโทษให้ถูกต้อง ตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ได้.