พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการป้องกันสิทธิโดยชอบธรรม กรณีฆ่าเจ้าพนักงาน
พลตำรวจเข้าไปจับหญิงนครโสเภณี เห็นผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งนั่งคุยกันในห้องซึ่งเปิดประตูอยู่ เช่นนี้ ยังเรียกไม่ได้ว่า หญิงคนนั้นกำลังกระทำผิดหรือพยายามกระทำผิด หรือพบโดยมีพฤติการณ์อันควรสงสัยว่าผู้นั้นจะกระทำผิดโดยมีเครื่องมืออาวุธหรือวัตถุอย่างอื่นอันสามารถอาจใช้ในการกระทำความผิด หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้กระทำความผิดมาแล้ว และจะหลบหนีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 พลตำรวจจึงไม่มีอำนาจจับหญิงนั้นโดยไม่มีหมายจับ กรณีเช่นนี้ ต้องให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่จับด้วยตนเองได้ โดยไม่ต้องมีหมายจับ เมื่อการจับกุมของพลตำรวจเช่นนี้ไม่มีกฎหมายสนับสนุนแล้ว การที่จำเลยฆ่าพลตำรวจผู้จับจึงไม่เรียกว่าฆ่าเจ้าพนักงานเพราะเหตุที่กระทำการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานีบ่มใบยาไม่ใช่ร้านค้าตามกฎหมายภาษีอากร การยึดทรัพย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้แจ้งประเมินให้โจทก์เสียภาษีร้านค้าสำหรับสถานีบ่มใบยาของจำเลย ๆ อุทธรณ์คำสั่ง แต่ถูกสั่งยกอุทธรณ์ และจำเลยยึดทรัพย์ของโจทก์เพื่อเสียภาษี จำเลยต่อสู้ว่าสถานีบ่มใบยาไม่เป็นร้านค้าต้องเสียภาษี ดังนี้ประเด็นมีว่า สถานีบ่มใบยาของโจทก์เป็นร้านค้าหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ร้านค้า ก็อยู่นอกอำนาจและหน้าที่ของจำเลยที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง ยึดทรัพย์ผิดพลาดอาจเป็นละเมิดโจทก์จึงฟ้องคดีได้ไม่เกี่ยวกับการอุทธรณ์คำสั่ง
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษาตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496.
สถานีบ่มใบยา ไม่เป็นร้านค้าอันจะต้องเสียภาษาตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2494 มาตรา 78 แต่เป็นร้านค้าตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1474/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมโนสาเร่: ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากศาลชั้นต้น ย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีมโนสาเร่ที่ศาลชั้นตันฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้เช่าเรือนพิพาทอยู่อาศัยมาจากเจ้าของเดิมตั้งแต่ก่อนที่จะตกมาเป็นของโจทก์ และฟังว่าฝ่ายโจทก์ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงว่าจำเลยได้อาศัยอยู่ในเรือนพิพาท จำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายที่ชนะคดีตามที่ท้ากันไว้นั้น แต่ศาลอุทธรณ์ กลับฟังว่าจำเลยไม่ได้เช่าจากเจ้าของเดิมคนสุดท้ายที่โอนให้แก่โจทก์ จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและบริวารเสียนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนจากคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นเช่นนี้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ก็ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะคดีมโนสาเร่คู่ความจะอุทธรณ์ได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฏหมายเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานสอบสวนสั่งให้เขียนชื่อเพื่อเปรียบเทียบลายมือ: ไม่ชอบด้วยกฎหมายหากไม่มีฐานอาศัย
พนักงานสอบสวนมีคำสั่งบังคับให้ผู้ต้องหาเขียนชื่อลงในกระดาษเปล่า เพื่อส่งไปพิสูจน์กับลายมือที่ผู้นั้นต้องหาในเรื่องก่อน ทั้งนี้ ว่าเพื่อประโยชน์แห่งการรวบรวมหลักฐาน ฯลฯ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131,132 ดั่งนี้ ไม่เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 132 มิได้ระบุไว้เลยว่าให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจสั่งเช่นนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมายจับที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและการหลบหนีจากผู้จับที่รู้ถึงเหตุไม่ชอบธรรม
หมายจับที่ออกโดยไม่ชอบด้วย ก.ม.ทั้งผู้จับก็ทราบต้นเหตุการออกหมายจับนั้นว่าเป็นเรื่องใช้อำนาจในหน้าที่โดยไม่เป็นธรรม หมายจับที่ออกในกรณีเช่นนี้ย่อมใช้ไม่ได้ เมื่อผู้ถูกจับหลบหนีจากการควบคุมก็หามีผิดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมายจับที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและผู้จับทราบถึงเหตุผลที่ไม่เป็นธรรม ถือว่าผู้ถูกจับไม่มีความผิดฐานหลบหนี
หมายจับที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งผู้จับก็ทราบต้นเหตุการออกหมายจับนั้นว่าเป็นเรื่องใช้อำนาจในหน้าที่โดยไม่เป็นธรรม หมายจับที่ออกในกรณีเช่นนี้ย่อมใช้ไม่ได้ เมื่อผู้ถูกจับหลบหนีจากการควบคุมก็หามีผิดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมกระทงโทษในคดีอนาจารและลักทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการรวมโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วเข้ากับกระทงลักทรัพย์ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยก โจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่งก็ตามศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกระทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 288 กระทงหนึ่งและ มาตรา 246 อีกกระทงหนึ่ง รวมกระทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และพยานหลักฐานไม่พอฟัง ศาลยกฟ้อง
คำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนนั้นเมื่อปรากฎว่าพนักงานสอบสวนมิได้ตัดเตือนจำเลยเสียก่อนตาม ป.วิ.อาญา ม. 134จึงรับฟังเป็นคำรับสารภาพชั้นสอบสวนยันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและพยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
คำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนนั้นเมื่อปรากฏว่าพนักงานสอบสวนมิได้ตักเตือนจำเลยเสียก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 จึงรับฟังเป็นคำรับสารภาพชั้นสอบสวนยันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อช่วยเหลือทางกฎหมายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ขาดอำนาจฟ้องฐานฉ้อโกง
การที่โจทก์ให้เงินแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าพนักงานเพื่อจัดการให้คืนไม้ของกลางซึ่งถูกยึดไปนั้น ย่อมมีวัตถุประสงค์ผิด กฎหมายไม่สุจริต ฉะนั้นจะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือร้องทุกข์ในฐานฉ้อโกงนี้ (อ้างฎีกาที่771/2492)