พบผลลัพธ์ทั้งหมด 651 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการนำสืบพยานในคดีอาญา: การสมคบคิดกับผู้รับสารภาพและความเชื่อมโยงกับความผิดตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดอาญา จำเลยคนหนึ่งรับสารภาพ แต่อีกคนหนึ่งปฏิเสธโจทก์จะขอสืบพะยานว่าจำเลยคนที่ปฏิเสธได้สมคบกับจำเลยที่รับสารภาพกระทำความผิดอาญานั้นก็ได้ ฉะเพาะในความหมายของการสมคบในนัยที่ว่า จำเลยนั้นได้ลงมือกระทำผิดตามฟ้องนั้นเอง เพราะคำว่าสมคบนั้นเป็นคำที่มีความหมายกว้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำฟ้องอาญา: การลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงนอกฟ้องเป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีธนบัตรปลอมโดยรู้อยู่ไว้เพื่อจำหน่ายขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 203,204 นั้นเป็นฟ้องที่ขาดเกณฑ์โทษตาม มาตรา 204 แม้ข้อเท็จจริงโจทก์จะนำสืบว่าจำเลยใช้ธนบัตรปลอมโดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอม ก็ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 204 ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงนอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการวินิจฉัยคดีอาญา: การพิจารณาความประมาทและเหตุแห่งการชน
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยได้ขับรถยนต์ซึ่งห้ามล้อมือเสียใช้การไม่ได้ไปตามถนนหลวงด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังโดยหลีกรถในที่คับขัน เป็นเหตุให้รถที่จำเลยขับชนคนด้วย ดังนี้ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยได้หลีกรถในที่คับขันเป็นเหตุให้ชนคนตายโดยประมาท จึงหาเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับตามคำพิพากษาเดิม และขอบเขตการฟ้องร้องใหม่เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน
จำเลยเคยเป็นโจทก์ในคดีก่อนฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย โจทก์ให้การต่อสู้กรรมสิทธิที่ดินที่พิพาท(แต่ไม่ได้ฟ้องแย้ง) ในที่สุดศาลพิพากษาให้ยกฟ้องของจำเลยเสีย โจทก์จะมาฟ้องขอให้แสดงว่าโจทก์มีกรรมสิทธิในที่รายเดียวกันนั้นอีกไม่ได้ โจทก์ย่อมอาศัยคำพิพากษาในคดีก่อนนั้น ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดให้ได้ยังไม่มีเหตุขัดข้องหรือโต้แย้งสิทธิ ซึ่งจะต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำว่า 'กล้องสูบฝิ่น' ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น: เครื่องมือประกอบการสูบฝิ่นไม่ใช่กล้องสูบฝิ่น
"กล้องสูบฝิ่นตามบทวิเคราะห์ศัพท์ ม.3 พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.2472 หมายความว่า หัวกล้องหรือตามกล้องหรือเครื่องมืออย่างอื่นอันทำไว้เพื่อสูบฝิ่น
ฉะนั้นเครื่องมืออย่างอื่นอันทำไว้เพื่อสูบฝิ่นตามมาตรานี้ จึงหมายความว่าสิ่งกลวงที่มีลักษณะ ทำนองเดียวกับกล้องเช่นบ้อง หรือหลอดที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสูบฝิ่นสังกะสีครอบตะเกียวจานรองตะเกียงสูบฝิ่นสังกะสีครอบตะเกียวจานรองตะเกียง ใบลานคลึงฝิ่น กระดาษห่อฝิ่น กระป๋องต้นฝิ่น และผ้าเช็คฝิ่น จึงไม่ใช่ กล้องสูบฝิ่น แม้จำเลยมีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่ผิดฐานมีกล้องสูบผิ่น ของกลางจึงไม่ริบ
ฉะนั้นเครื่องมืออย่างอื่นอันทำไว้เพื่อสูบฝิ่นตามมาตรานี้ จึงหมายความว่าสิ่งกลวงที่มีลักษณะ ทำนองเดียวกับกล้องเช่นบ้อง หรือหลอดที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสูบฝิ่นสังกะสีครอบตะเกียวจานรองตะเกียงสูบฝิ่นสังกะสีครอบตะเกียวจานรองตะเกียง ใบลานคลึงฝิ่น กระดาษห่อฝิ่น กระป๋องต้นฝิ่น และผ้าเช็คฝิ่น จึงไม่ใช่ กล้องสูบฝิ่น แม้จำเลยมีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่ผิดฐานมีกล้องสูบผิ่น ของกลางจึงไม่ริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำว่า 'กล้องสูบฝิ่น' ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.2472: เครื่องมืออื่นใดที่ใช้สูบฝิ่นได้หรือไม่
"กล้องสูบฝิ่นตามบทวิเคราะห์ศัพท์ มาตรา 3 พระราชบัญญัติฝิ่นพ.ศ.2472 หมายความว่า หัวกล้องหรือด้ามกล้องหรือเครื่องมืออย่างอื่นอันทำไว้เพื่อสูบฝิ่น
ฉะนั้นเครื่องมืออย่างอื่นอันทำไว้เพื่อสูบฝิ่นตามมาตรานี้ จึงหมายความว่าสิ่งกลวงที่มีลักษณะ ทำนองเดียวกับกล้องเช่นบ้อง หรือหลอดที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสูบฝิ่นแทนกล้องสูบฝิ่นได้ ดังนั้นตะเกียงสูบฝิ่นสังกะสีครอบตะเกียงจานรองตะเกียง ใบลานคลึงฝิ่น กระดาษห่อฝิ่นกระป๋องต้มฝิ่น และผ้าเช็ดฝิ่น จึงไม่ใช่ กล้องสูบฝิ่นแม้จำเลยมีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่ผิดฐานมีกล้องสูบฝิ่น ของกลางจึงไม่ริบ
ฉะนั้นเครื่องมืออย่างอื่นอันทำไว้เพื่อสูบฝิ่นตามมาตรานี้ จึงหมายความว่าสิ่งกลวงที่มีลักษณะ ทำนองเดียวกับกล้องเช่นบ้อง หรือหลอดที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสูบฝิ่นแทนกล้องสูบฝิ่นได้ ดังนั้นตะเกียงสูบฝิ่นสังกะสีครอบตะเกียงจานรองตะเกียง ใบลานคลึงฝิ่น กระดาษห่อฝิ่นกระป๋องต้มฝิ่น และผ้าเช็ดฝิ่น จึงไม่ใช่ กล้องสูบฝิ่นแม้จำเลยมีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่ผิดฐานมีกล้องสูบฝิ่น ของกลางจึงไม่ริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.238 และการไม่ยกข้อต่อสู้ในฎีกา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ ศาลชั้นต้นฟังว่าห้องเช่าเป็นเคหะ จึงพิพากษายกฟ้องแต่ศาล อุทธรณ์ฟังว่า ไม่ใช่เคหะ จึงพิพากษากลับให้ขับไล่จำเลย ่จำเลยฎีกาเพียงว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์เฉพาะใน ขจ้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์กลับมาวินิจฉัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์กลับมาวินิจฉัยข้อเท็จจริง ไม่ชอบด้วยป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 238 ส่วนข้อที่ว่าห้องเช่าไม่ใช่เคหะนั้น จำเลยมิได้คัดค้านในฎีกามา ดังนี้ เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยฎีกา ขึ้นมาฟังไม่ขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องวินิจฉัยเรื่องเคหะต่อไป./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจเจ้าพนักงาน: ผู้ใหญ่บ้านนอกเขตหมู่บ้านไม่มีอำนาจจับกุม
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ไปทำการจับกุมราษฎรหมู่ 4 ซึ่งลอบไปตัดไม้หวงห้ามในหมู่ 4 นั้น ย่อมมิอาจถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตในฐานะเป็นเจ้าพนักงานได้ เพราะเป็นการนอกขอบเขตอำนาจและหน้าที่ และไม่นับว่าเป็นเจ้าพนักงานในการนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1412/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำไม้เกินขอบเขตใบอนุญาต ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายป่าไม้
ซื้อสิทธิการทำไม้หวงห้ามมาจากผู้รับใบอนุญาต แต่กลับไปทำไม้ ผิดตำบลกับที่ปรากฏในใบอนุญาต ดังนี้ย่อมเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติป่าไม้ ต้องมีผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้าง นอกเหนือหน้าที่การงาน
ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งนายจ้างลงรับประทานอาหารแล้วลูกจ้างขับรถยนต์นั้นไปที่อื่นโดยพละการมิได้รับความยินยอมจากนายจ้าง แล้วไปชนคนตาย ดังนี้ นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้ แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้
ทั้งลูกจ้างและนายจ้างให้การปฏิเสธ และนำสืบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นลูกจ้างนายจ้างซึ่งกันและกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งว่าขณะชนคนตายลูกจ้างขับรถยนต์ไปในกิจส่วนตัวของลูกจ้างไม่ใช่ไปตามทางการที่จ้าง ดังนี้ แม้ศาลจะไม่เชื่อคำพยานตอนที่อ้างว่าไม่เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก็ดี ศาลก็ยังเชื่อคำพยานตอนที่ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในทางการที่จ้างกันได้