พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944-945/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าอาวาสฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ธรณีสงฆ์ และสิทธิวัดในการถือครองที่ดิน
เจ้าอาวาสมีอำนาจมอบฉันทะให้ไวยาวัจกร ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ธรณีสงฆ์ของวัดได้ ตาม พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2484 มาตรา 43
วัดเป็นนิติบุคคลตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา72 มีสิทธิและหน้าที่เหมือนบุคคลธรรมดาตาม มาตรา 70 และ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2484 มาตรา 40 วัดก็ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้และวัดอาจได้ที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1382(อ้างฎีกา 1253/2481)
วัดฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ธรณีสงฆ์ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่านายอำเภอและชาวบ้านได้เอาที่รกร้างว่างเปล่านั้นถวายวัดเพื่อทำเป็นป่าช้า แล้วนายอำเภอกับพวกได้เอาป่าช้าเดิมของวัดปลูกที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน ตลาดดั่งนี้ คดีไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงว่า นายอำเภอเอาที่ป่าช้าของวัดไปสร้างที่ว่าการอำเภอนั้นจะเป็นการชอบหรือไม่และการที่นายอำเภอเอาที่พิพาทไปถวายวัดนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนที่ชอบหรือไม่
วัดเป็นนิติบุคคลตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา72 มีสิทธิและหน้าที่เหมือนบุคคลธรรมดาตาม มาตรา 70 และ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2484 มาตรา 40 วัดก็ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้และวัดอาจได้ที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1382(อ้างฎีกา 1253/2481)
วัดฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ธรณีสงฆ์ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่านายอำเภอและชาวบ้านได้เอาที่รกร้างว่างเปล่านั้นถวายวัดเพื่อทำเป็นป่าช้า แล้วนายอำเภอกับพวกได้เอาป่าช้าเดิมของวัดปลูกที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน ตลาดดั่งนี้ คดีไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงว่า นายอำเภอเอาที่ป่าช้าของวัดไปสร้างที่ว่าการอำเภอนั้นจะเป็นการชอบหรือไม่และการที่นายอำเภอเอาที่พิพาทไปถวายวัดนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนที่ชอบหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าหมดอายุ สิทธิการเช่าระงับ ไม่ต้องบอกเลิกสัญญา ผู้รับโอนสิทธิมีอำนาจขับไล่ได้
สัญญาเช่าครบอายุแล้วผู้ให้เช่าแจ้งให้ผู้เช่าทราบว่าจะไม่ให้เช่าต่อไปไม่เรียกว่ามีการต่ออายุสัญญาไป โดยไม่มีกำหนด ผู้เช่าจึงถูกฟ้องขับไล่ได้ โดยไม่ต้องมีการบอกเลิกสัญญาเช่าก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายที่ดินหลังฟ้องคดี ไม่ทำให้โจทก์หมดสิทธิฟ้องร้องคดีขับไล่และเรียกค่าเสียหาย
เจ้าของฟ้องขับไล่ผู้เช่าที่ดินและเรียกค่าเสียหาย แล้วโอนขายที่ดินให้ผู้ซื้อไปผู้ซื้อเข้าเป็นโจทก์ร่วมดังนี้ไม่ทำให้ผู้ขายซึ่งเป็นโจทก์หมดสิทธิฟ้องร้องคดีนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการขับไล่ผู้เช่าเมื่อเจ้าของที่ดินยินยอมให้ทำสัญญาเช่าก่อนหน้า
จะเป็นคดีมโนสาเร่หรือไม่ให้พิจารณาตามฟ้องที่โจทก์ตั้งฟ้องมาแต่ศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ปลูกห้องแถวในที่ดินซึ่งครั้งหนึ่งเป็นของจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ ห้องแถวยังเป็นของจำเลยที่ 1 ตลอดมาตัวโจทก์เองได้แสดงต่อบุคคลภายนอกให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 มีอำนาจทำสัญญาในนามของจำเลยที่ 1 ให้บุคคลภายนอกเช่าอยู่ได้ดังนี้โจทก์จะอ้างการอาศัยของจำเลยที่ 1 ขึ้นบังหน้าขับไล่บุคคลภายนอกไม่ได้เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ให้มีผลเฉพาะระหว่างคู่ความชั้นอุทธรณ์
จำเลยที่ 1 ปลูกห้องแถวในที่ดินซึ่งครั้งหนึ่งเป็นของจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ ห้องแถวยังเป็นของจำเลยที่ 1 ตลอดมาตัวโจทก์เองได้แสดงต่อบุคคลภายนอกให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 มีอำนาจทำสัญญาในนามของจำเลยที่ 1 ให้บุคคลภายนอกเช่าอยู่ได้ดังนี้โจทก์จะอ้างการอาศัยของจำเลยที่ 1 ขึ้นบังหน้าขับไล่บุคคลภายนอกไม่ได้เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ให้มีผลเฉพาะระหว่างคู่ความชั้นอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้เทศบาลสั่งรื้อห้องเช่า ผู้ให้เช่าก็ไม่อาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ ผู้เช่ายังคงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้เช่าเคหะอยู่อาศัยนั้น ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯ แม้ทางการเทศบาลจะได้มีคำสั่งให้รื้อห้องเช่านั้น ก็ดี ก็หาทำให้ผู้ให้เช่า ฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ไม่ ผุ้เช่ายังคงได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นปกติ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความคุ้มครองผู้เช่าเคหะฯ แม้มีคำสั่งรื้อ – ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ไม่ได้
ผู้เช่าเคหะอยู่อาศัยนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แม้ทางการเทศบาลจะได้มีคำสั่งให้รื้อห้องเช่านั้นก็ดีก็หาทำให้ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ไม่ผู้เช่ายังคงได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เป็นปกติ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่โดยอาศัยกรรมสิทธิ์หลังสัญญาเช่าสิ้นอายุ และข้อยกเว้นความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าสำหรับนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากโกดัง โดยกล่าวว่า จำเลยได้เช่าโกดังจากเจ้าของเดิม ครบอายุสัญญาเช่าแล้วโจทก์ได้ซื้อโกดังจากเจ้าของเดิม ดังนี้จำเลยย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ และโจทก์ฟ้องจำเลยได้โดยอาศัยอำนาจทางกรรมสิทธิ์เป็นหลัก ไม่ได้อาศัยสัญญาเช่า
นิติบุคคลเช่าสถานที่ให้พนักงานของนิติบุคคลอยู่ ย่อมถือว่าเป็นกิจการส่วนหนึ่งเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในทางการค้าของนิติบุคคล จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
อ้างฎีกาที่ 82/2494)
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินรายนี้จริงหรือไม่จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ ถือว่าไม่ใช่คำให้การปฏิเสธ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบถึงความข้อนี้
นิติบุคคลเช่าสถานที่ให้พนักงานของนิติบุคคลอยู่ ย่อมถือว่าเป็นกิจการส่วนหนึ่งเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในทางการค้าของนิติบุคคล จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
อ้างฎีกาที่ 82/2494)
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินรายนี้จริงหรือไม่จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ ถือว่าไม่ใช่คำให้การปฏิเสธ จึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องสืบถึงความข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1493/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่ โดยระยะเวลาบอกเลิกสัญญาเพียงพอต่อระยะเวลาชำระค่าเช่า
สัญญาเช่ามีข้อความว่าผู้เช่าจะชำระค่าเช่าในวันที่ 7 ของทุกๆ เดือน ผู้เช่าได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเป็นเวลา 1 เดือนเศษแล้วจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่า ดังนี้ผู้เช่าได้รู้ตัวมีกำหนดเวลาค่าเช่าระยะหนึ่ง คือ 1 เดือน ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ไม่ขัดกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1454/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพิเศษของบริวารเช่าช่วงหลังขับไล่ และความหมายของ 'บริวาร' ตาม ป.วิ.แพ่ง
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้นคู่ความจะต้องได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
ข้อที่โจทก์ยังไม่ได้ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญายอมความจะบังคับบริวารของจำเลยได้หรือยังนั้นไม่เกี่ยวความสงบเรียบร้อยของประชาชนตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 249
อำนาจพิเศษซึ่งวงศ์ญาติและบริวารจำเลยที่อยู่บนอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์จะใช้บันโจทก์ได้ภายหลังที่ศาลได้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ของโจทก์แล้วนั้นต้องเป็นอำนาจที่จะใช้ยันตัวโจทก์ได้เอง
คำว่า "บริวาร" ตามป.วิ.แพ่ง.ม.142(1) กับ "ครอบครัว" นั้นต่างกัน "บริวาร" ตรงกับคำว่า "+" หมายถึงผู้ที่อาศัยสิทธิของผู้อื่น อาจจะเป็นบุคคลในหรือนอกครอบครัวของผู้นั้นก็ได้
ข้อที่โจทก์ยังไม่ได้ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญายอมความจะบังคับบริวารของจำเลยได้หรือยังนั้นไม่เกี่ยวความสงบเรียบร้อยของประชาชนตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 249
อำนาจพิเศษซึ่งวงศ์ญาติและบริวารจำเลยที่อยู่บนอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์จะใช้บันโจทก์ได้ภายหลังที่ศาลได้ พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ของโจทก์แล้วนั้นต้องเป็นอำนาจที่จะใช้ยันตัวโจทก์ได้เอง
คำว่า "บริวาร" ตามป.วิ.แพ่ง.ม.142(1) กับ "ครอบครัว" นั้นต่างกัน "บริวาร" ตรงกับคำว่า "+" หมายถึงผู้ที่อาศัยสิทธิของผู้อื่น อาจจะเป็นบุคคลในหรือนอกครอบครัวของผู้นั้นก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายโดยผ่านตัวแทนอำพราง: สิทธิในการฟ้องขับไล่และผลกระทบต่อฐานะทางกฎหมายของผู้ซื้อ
โจทย์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยต่อสู้ว่าโรงเรือนและที่พิพาทเป็นของจำเลยซื้อมาจากผู้อื่น แต่ทางการไม่อนุญาตให้ทำนิติกรรมเป็นผู้ซื้อได้ เพราะเป็นคนต่างด้าว จึงมอบให้จำเลยเป็นตัวแทนไปทำนิติกรรมแทนจำเลยดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยเสีย แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี เป็นการไม่ชอบเพราะถ้าฟังตามคำให้การของจำเลยแล้ว รูปคดีไม่ใช่เรื่องอาศัย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ จึงต้องฟังพยานต่อไป