คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข้อตกลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการพิจารณาคดีไว้เพื่อรอผลคดีอาญา และการยอมรับผลคดีอาญาเป็นข้อตัดสินในคดีแพ่ง
ในระหว่างพิจารณาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลรอการพิจารณาคดีไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลในคดีอาญา โดยให้ถือเอาผลของคดีอาญาที่ถึงที่สุดเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อม ในวันนัดพร้อมคู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงรับค่าเสียหายกันตามฟ้อง และโจทก์มิได้คัดค้านคำเสนอท้าของจำเลย คงตกลงกันให้รอการพิจารณาคดีนี้ไว้เพื่อรอฟังผลคดีอาญาตามที่จำเลยร้องขอ ต่อมาจำเลยยื่นคำแถลงว่าคดีอาญาถึงที่สุดแล้วขอให้ศาลนำคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาและพิพากษาให้เป็นไปตามที่คู่ความแถลงรับไว้ก่อนรอคดีด้วย ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อม ถึงวันนัดโจทก์แถลงรับว่าคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว และคู่ความแถลงต่อศาลชั้นต้นว่า ไม่ติดใจสืบพยานต่อไปขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีไปตามคำท้าของจำเลยซึ่งโจทก์เห็นชอบด้วยเช่นนี้ จึงฟังได้ว่าคู่ความทั้งสองฝ่ายได้ท้ากันให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีไปตามคำท้าที่จำเลยเสนอไว้ศาลจึงต้องพิจารณาพิพากษาคดีไปตามคำท้านั้น และถือว่าคู่ความทั้งสองฝ่ายต่างสละประเด็นข้อพิพาทอื่นนอกจากคำท้าโดยสิ้นเชิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับข้อเสนอคำท้าของจำเลยหลังรอผลคดีอาญา ศาลต้องพิจารณาพิพากษาตามข้อตกลง
ในระหว่างพิจารณาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลรอการพิจารณาคดีไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลในคดีอาญา โดยให้ถือเอาผลของคดีอาญาที่ถึงที่สุดเป็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อมในวันนัดพร้อมคู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงรับค่าเสียหายกันตามฟ้อง และโจทก์มิได้คัดค้านคำเสนอท้าของจำเลย คงตกลงกันให้รอการพิจารณาคดีนี้ไว้เพื่อรอฟังผลคดีอาญาตามที่จำเลยร้องขอต่อมาจำเลยยื่นคำแถลงว่าคดีอาญาถึงที่สุดแล้วขอให้ศาลนำคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาและพิพากษาให้เป็นไปตามที่คู่ความแถลงรับไว้ก่อนรอคดีด้วย ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อม ถึงวันนัดโจทก์แถลงรับว่าคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว และคู่ความแถลงต่อศาลชั้นต้นว่า ไม่ติดใจสืบพยานต่อไปขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีไปตามคำท้าของจำเลยซึ่งโจทก์เห็นชอบด้วยเช่นนี้ จึงฟังได้ว่าคู่ความทั้งสองฝ่ายได้ท้ากันให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีไปตามคำท้าที่จำเลยเสนอไว้ศาลจึงต้องพิจารณาพิพากษาคดีไปตามคำท้านั้น และถือว่าคู่ความทั้งสองฝ่ายต่างสละประเด็นข้อพิพาทอื่นนอกจากคำท้าโดยสิ้นเชิง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมผูกพันทายาท การยกเลิกข้อตกลงโดยฝ่ายเดียวทำไม่ได้หากทายาทไม่ยินยอม
โจทก์และบิดาจำเลยถือกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกัน ต่อมาได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมต่อเจ้าพนักงานที่ดินโดยบันทึกข้อตกลงแบ่งแยกให้บิดาจำเลยได้เนื้อที่ 1 ใน 5 ส่วน โจทก์และบิดาจำเลยลงชื่อไว้ บันทึกนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และเป็นข้อตกลงเรื่องแบ่งกรรมสิทธิ์รวมระหว่างเจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1364 จึงผูกพันโจทก์และบิดาจำเลย เมื่อบิดาจำเลยตายจำเลยรับมรดกที่ดินมาก็ย่อมผูกพันจำเลยด้วย การที่โจทก์อ้างว่าต้องแบ่งตามที่โจทก์ครอบครอง เป็นการขัดกับข้อความในบันทึกข้อตกลง ส่วนที่โจทก์ยื่นคำขอยกเลิกคำขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมโดยกระทำไปฝ่ายเดียวอ้างว่าบิดาจำเลยตายแล้วนั้น ไม่มีผลทำให้ข้อตกลงเรื่องแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมระงับไปเพราะจำเลยซึ่งเป็นทายาทมิได้ยินยอม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงซื้อขายเพชรแบบเสนอขายเผื่อชอบ ไม่ถือเป็นยักยอกหากเพชรสูญหายหรือไม่ได้ชำระราคา
การที่ผู้เสียหายกับจำเลยตกลงกันว่า ให้จำเลยเก็บเพชรไว้ดูก่อน จำเลยจะซื้อเพชรที่เข้ากับตัวเรือนได้และจะคืนเพชรที่ใช้ไม่ได้แก่ผู้เสียหายใน 1 สัปดาห์ เป็นการเสนอขายเผื่อชอบ เมื่อเพชรรายการหนึ่งหายไปและจำเลยไม่ชำระราคาเพชรรายการนี้ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องไปฟ้องร้องกันในทางแพ่ง จำเลยไม่มีความผิดฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยเกินอัตราตามประเพณีการค้า: ข้อตกลงคิดดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นโมฆะ แม้โจทก์ยินยอม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 655 วรรคสอง เป็นข้อยกเว้นให้คิดดอกเบี้ยทบต้นตามประเพณีการค้าได้เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา จำเลยจะยกความในมาตรานี้เป็นข้ออ้างเพื่อคิดดอกเบี้ยเกินอัตราหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระเงินค่าข้าวโพดส่วนหนึ่งที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์จำเลยให้การว่าเงินดังกล่าวเป็นต้นเงินและดอกเบี้ยที่จำเลยมีสิทธิหักได้ ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นพิพาทว่า 'จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องหรือไม่เพียงใด' ดังนี้การวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวต้องวินิจฉัยด้วยว่าจำเลยมีสิทธิหักดอกเบี้ยไว้หรือไม่ปัญหาดอกเบี้ยเกินอัตราจึงเป็นเรื่องที่ได้ว่ากล่าวมาแล้วในศาลชั้นต้น นอกจากนี้ปัญหาเรื่องดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้มิได้ว่ากล่าวในศาลชั้นต้น คู่ความก็มีสิทธิยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5889/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการซื้อหุ้นโดยใช้เงินทุนสะสมของพนักงาน และเงื่อนไขการคืนหุ้นกรณีออกจากงานเนื่องจากทุจริต
เงินทุนสะสมไม่ใช่เงินที่หักจากเงินเดือนของโจทก์แต่เป็นเงินที่ธนาคาร ฯ จำเลยจ่ายเข้าบัญชีเงินทุนสะสมของโจทก์ตามระเบียบของธนาคาร ฯ ธนาคาร ฯ จำเลยให้โจทก์ซื้อหุ้นของธนาคาร ฯ จำเลยโดยนำเงินทุนสะสมของโจทก์ดังกล่าวชำระเป็นค่าหุ้นโดยมีข้อตกลงในหนังสือส่งมอบใบหุ้นว่าให้ธนาคาร ฯ จำเลยยึดใบหุ้นไว้จนกว่าโจทก์จะพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และหากโจทก์ถูกออกจากงานเพราะทุจริตต่อหน้าที่แล้วโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับใบหุ้น ยินยอมให้นำหุ้นทั้งหมดออกจำหน่ายเพื่อนำเงินคืนเงินทุนสะสม ดังนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นเงื่อนไขของการได้สิทธิในหุ้นประการหนึ่งที่มีผลใช้บังคับได้ หาเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5889/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการซื้อหุ้นโดยใช้เงินทุนสะสมของพนักงาน และผลกระทบต่อสิทธิในหุ้นกรณีทุจริต
เงินทุนสะสมไม่ใช่เงินที่หักจากเงินเดือนของโจทก์แต่เป็นเงินที่ธนาคาร ฯ จำเลยจ่ายเข้าบัญชีเงินทุนสะสมของโจทก์ตามระเบียบของธนาคาร ฯ ธนาคาร ฯ จำเลยให้โจทก์ซื้อหุ้นของธนาคาร ฯ จำเลยโดยนำเงินทุนสะสมของโจทก์ดังกล่าวชำระเป็นค่าหุ้นโดยมีข้อตกลงในหนังสือส่งมอบใบหุ้นว่าให้ธนาคาร ฯ จำเลยยึดใบหุ้นไว้จนกว่าโจทก์จะพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และหากโจทก์ถูกออกจากงานเพราะทุจริตต่อหน้าที่แล้วโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับใบหุ้น ยินยอมให้นำหุ้นทั้งหมดออกจำหน่ายเพื่อนำเงินคืนเงินทุนสะสม ดังนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นเงื่อนไขของการได้สิทธิในหุ้นประการหนึ่งที่มีผลใช้บังคับได้ หาเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5402/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเข้าร่วมฆ่า: การกระทำร่วมกันแม้ไม่มีข้อตกลงชัดเจน
ผู้ตายด่า ล. และจำเลยก่อน ล. จึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแม้จำเลย จะไม่ได้พูดจาตกลงกับ ล. ในการที่จะฆ่าผู้ตายแต่เมื่อ ล. ยิงผู้ตาย ล้มลงแล้ว จำเลยได้วิ่งเข้ามาใช้มีดแทงผู้ตายที่หน้าอกระหว่างนม เป็นบาดแผลกว้าง 1เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร ครึ่ง ในเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่ผู้ตายถูกยิง และพูดในลักษณะที่มี ความประสงค์จะให้ผู้ตายถึงแก่ความตายแสดงว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับล. ในการที่จะฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกับล. ฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5021/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเรื่องเงินเพิ่มพิเศษในการรับโอนพนักงาน: ความยินยอมเป็นผลผูกพัน
จำเลยรับโอนโจทก์จากหน่วยงานอื่นมาเป็นลูกจ้าง โดยจะให้โจทก์ได้รับอัตราเงินเดือนในขั้นใกล้เคียงที่ต่ำกว่าแต่ไม่เกินอัตราขั้นสูงสุดของแต่ละตำแหน่ง ส่วนเงินจำนวนที่ขาดไปนั้นจำเลยจะจ่ายให้เท่าที่เคยได้รับมาก่อน ซึ่งเรียกว่า "เงินเพิ่มพิเศษ" โดยมีหลักเกณฑ์ว่าจะจ่ายให้เป็นการชั่วคราวในระยะเวลาเพียง 6 เดือนโจทก์ตกลงยินยอมตามนั้น ความยินยอมของโจทก์จึงเป็นข้อตกลงที่มีผลผูกพันโจทก์จำเลยโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อครบ 6 เดือนแล้วภายหลังจากนั้นโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษจากจำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5021/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเรื่องเงินเพิ่มพิเศษมีผลผูกพันลูกจ้างได้ หากลูกจ้างยินยอมรับข้อตกลงนั้นโดยชัดแจ้ง
จำเลยรับโอนโจทก์จากหน่วยงานอื่นมาเป็นลูกจ้างโดยจะให้โจทก์ได้รับอัตราเงินเดือนในขั้นใกล้เคียงที่ต่ำกว่าแต่ไม่เกินอัตราขั้นสูงสุดของแต่ละตำแหน่งส่วนเงินจำนวนที่ขาดไปนั้นจำเลยจะจ่ายให้เท่าที่เคยได้รับมาก่อน ซึ่งเรียกว่า "เงินเพิ่มพิเศษ"โดยมีหลักเกณฑ์ว่าจะจ่ายให้เป็นการชั่วคราวในระยะเวลาเพียง 6 เดือน โจทก์ตกลงยินยอมตามนั้น ความยินยอมของโจทก์จึงเป็นข้อตกลงที่มีผลผูกพันโจทก์จำเลยโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อครบ 6 เดือนแล้ว ภายหลังจากนั้นโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษจากจำเลยอีก
of 118