คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความผิดอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 671 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตนเกินเหตุ ทำร้ายซ้ำจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายเป็นคนอันธพาลและก่อเรื่องขึ้นก่อน ผู้ตายหยิบขวานจะลุกขึ้นทำร้ายจำเลยที่ 1 จึงแย่งขวานได้แล้วฟันผู้ตาย 1 ที และเรียกให้คนช่วย จำเลยอื่น ๆ ได้เข้ามาช่วยทำร้ายผู้ตายถึงตายเช่นนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการป้อง กันตน ส่วนจำเลยนอกนั้นทำไปเพื่อป้องกันชืวิตจำเลยที่ 1 แต่จำเลยทำร้ายซ้ำ ๆจนผู้ตายถึงตาย จึงเป็นการเกิน สมควรแก่เหตุ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวนความผิดอาญา แม้เปลี่ยนฐานความผิดระหว่างสอบสวนก็ถือว่าสมบูรณ์
การสอบสวนความผิดทางอาญานั้นแม้เดิมจะตั้งข้อหาฐานหนึ่ง แต่เมื่อสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นความผิดฐานอื่นด้วยก็เรียกได้ว่า ได้มีการสอบสวนในความผิดฐานอื่นนั้นด้วยแล้วไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อหาในความผิดฐานอื่นนั้นแก่ผู้ต้องหาอีกก็ถือว่าการสอบสวนนั้นสมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1313/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การแจ้งความเท็จและการจับกุม – ไม่เป็นความผิดอาญา
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจำเลยฐานละเมิดโดยอ้างว่าจำเลยให้คนไปแจ้งความว่าโจทก์ทำผิดทางอาญาเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนจับกุมคุมขังโจทก์ไว้สอบสวน ทั้งนี้โดยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยที่เชื่อถ้อยคำของผู้มาบอก ดังนี้ เป็นการฟ้องหาว่าละเมิดตามธรรมดา ไม่ใช่ละเมิดในมูลอันเป็นความผิดทางอาญา จึงมีอายุความฟ้องร้องเพียง 1 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบรรดาลโทสะ จากการถูกทำร้ายก่อน
ผู้ตายใช้มีดแทงจำเลยก่อนโดยจำเลยมิได้ทำอะไรผู้ตายเลย จำเลยจึงบรรดาลโทษะเข้ายื้อแย่งมีดจากผู้ตายแล้ว แทงผู้ตาย ตายนั้นเรียกได้ว่าจำเลยกระทำไปเพราะบรรดาลโทษะ โดยผู้ตายเป็นผู้กดขี่ข่มเหงจำเลยโดยไม่เป็น ธรรมก่อนการกระทำของจำเลยจึงควรได้รับการลดหย่อนโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 55./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในเคหะสถาน แม้ผู้เฝ้าบ้านชวนลักทรัพย์ แต่หากมิได้รับอนุญาตเข้าห้องเก็บทรัพย์ ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถาน
เจ้าทรัพย์ให้จำเลยเฝ้าบ้านแต่ห้องเก็บทรัพย์เจ้าทรัพย์ใส่กุญแจไว้ จำเลยชวนผู้อื่นมาทำการลักทรัพย์โดยใช้เชือกคล้องถอดหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเขาทางช่องหน้าต่าง ซึ่งมิใช่ช่องทางสำหรับให้คนไปมา และลักทรัพย์ในห้องเก็บทรัพย์ ดังนี้ ถือได้ว่ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักจำเลยจึงย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามมาตรา 255(1) ด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 (1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า "เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป" ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นทีอยู่อาศัย (เคหะสถาน)ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว
ฟ้องของโจทก์กล่าวในครั้งแรกว่า จำเลยบังอาจเข้าไปโดยใช้เชือก คล้อง(ถอด) กลอนหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเข้าไปในทางช่องหน้าต่างอันมิใช่ช่องทางสำหรับคนไปมา และในครั้งหลังต่อต่อมาก็ว่า บังอาจเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์นี้ โดยปีนป่ายเข้าไปทางช่องหน้าต่าง อันมิใช่างสำหรับให้คนไปมาเช่นกัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า ถ้าเป็นการเข้าไปโดยได้รับอนุญาต ก็คงไม่ต้องบังอาจปีนป่ายเข้าทางช่องทางหน้าต่างเช่นนั้น จึงพอเข้าใจได้ว่าเป็นการเข้าไปในโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องจึงสมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้วว่า ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยสมคบกันลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294(1)
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2495

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ผู้ใหญ่บ้านทำบัญชีลูกคอกสัตว์พาหนะ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ผู้ใหญ่บ้านทำบัญชีลูกคอกสัตว์พาหนะเท็จจะเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 230 หรือไม่นั้น อยู่ที่ว่าผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่ทำบัญชีลูกคอกสัตว์พาหนะหรือไม่ ถ้ามีหน้าที่ก็เป็นความผิดตามมาตรา 230
พระราชบัญญัติปกครองท้องที่(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2486 มาตรา 6 เพิ่มหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านเข้าไว้อีกตามข้อ 18 ว่าผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของกำนันหรือทางราชการฯลฯ ฉะนั้นเมื่อทางราชการสั่งให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านที่จะทำบัญชีลูกคอกสัตว์พาหนะก็ย่อมต้องถือว่า การทำบัญชีลูกคอกสัตว์เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฐานยักยอกทรัพย์จากการเป็นตัวแทน: การรับเงินค่าขายแทนเจ้าของแล้วเบียดบัง
ฟ้องว่าจำเลยได้รับมอบแหวนเพ็ชรของผู้เสียหายไป 1 วง โดยจำเลยรับว่าจะเอาไปขายให้ ถ้าขายไม่ได้ก็จะเอามาคืนให้ ครั้นแล้วจำเลยได้มีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกแหวนเพ็ชรหรือเงินค่าแหวนนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ดังนี้เป็นฟ้องที่จำเลยสามารถเข้าใจข้อหาได้ดี จำเลยย่อมรู้สึกอยุ่แก่ตนว่า ยักยอกแหวนหรือยักยอกเงินค่าแหวนที่ขายได้ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
รับแหวนของเขาไปเพื่อจะนำไปขายตามคำสั่งขอผู้มอบหมายนั้น ผู้รับมอบมีฐานะเป็นตัวแทน ฉะนั้นเมื่อได้รับเงินค่าขายแหวนไว้ ก็หมายความว่ารับไว้ในฐานเป็นตัวแทนเขาด้วย และมีหน้าที่จะต้องนำส่งเงินนี้แก่ผู้มอบหมาย ถ้ายักยอกเอาเงินนี้ไว้เสียโดยทุจริต ก็เป็นความผิดฐานยักยอกในทางอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 61/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าหรือไม่: การฟันพลาดทำให้เด็กเสียชีวิต
เมียน้อยโกรธเมียหลวงเพราะเมียหลวงพูดถ้อยคำบาดหู จึงเอามีดฟันเมียหลวงไปในทันทีทันใดนั้น โดยหมายฟันตรงแขนเมียหลวง แต่เมียหลวงเบนหนี มีดที่ฟันลงจึงไปถูกกลางศีร์ษะเด็หญิงอายุ 7 เดือนที่เมียหลวงอุ้มพาดตักและแขนเข้า กะโหลกศีร์ษะแตกตาย ดังนี้ วินิจฉัยว่าหายเมียหลวงไม่เบนหนี มีดที่ฟันก็จะถูกแขนเมียหลวงและเมียหลวงก็ไม่ถึงตาย ฉะนั้นเมื่อเกิดพลาดไปถูกเด็กจนถึงตายขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ชี้ขาดว่าเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้ คงเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฉุดดึงบุตรบุญธรรมเพื่อพาไปอยู่ด้วย ไม่ถือเป็นการประทุษฐร้ายร่างกาย
ยกบุตรของตนอายุ 7 ขวบให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่นไปแล้ว ภายหลงไปฉุดแขนบุตรคนนั้นในขณะที่กำลังกลับจากโรงเรียน เพื่อจะพาไปอยู่ด้วย ดังนี้ไม่เป็นการบังอาจประทุษฐร้ายร่างกายบุตรของตน จึงยังไม่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 338 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฉุดแขนบุตรหลังยกให้เป็นบุตรบุญธรรม ไม่เป็นประทุษร้ายร่างกาย
ยกบุตรของตนอายุ 7 ขวบให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่นไปแล้ว ภายหลังไปฉุดแขนบุตรคนนั้นในขณะที่กำลังกลับจากโรงเรียน เพื่อจะพาไปอยู่ด้วย ดังนี้ ไม่เป็นการบังอาจประทุษร้ายร่างกายบุตรของตน จึงยังไม่เป็นผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 338(3)
of 68