คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค้ำประกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 610 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันที่ครอบคลุมหนี้ตามสัญญาจำนอง แม้สัญญาจำนองจะไม่ได้ระบุภาระการชำระหนี้เพิ่มเติม
ผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันการจำนองว่า ถ้าผู้จำนองผิดสัญญาไม่ชำระเงินต้นตามสัญญาผู้ค้ำประกันยอมให้ผู้รับจำนองฟ้องร้องเรียกเงินตามสัญญาจำนองของผู้จำนอง โดยผู้ค้ำประกันยอมใช้เงินตามสัญญาจำนองและค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนี้ แม้ตามสัญญาจำนองจะไม่มีกล่าวไว้ว่า ถ้าบังคับจำนองแล้วยังขาดเงินอยู่เท่าใด ผู้จำนองต้องใช้อีกจนครบก็ดี ในเมื่อมีการบังคับจำนองขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ของผู้รับจำนอง ผู้ค้ำประกันย่อมต้องรับผิดต่อผู้รับจำนองในจำนวนเงินที่ยังขาดอยู่ตามสัญญาค้ำประกันนั่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันจำนอง: กรณีจำนองบังคับแล้วยังขาดเงิน
สัญญาจำนอง ซึ่งมีผู้ค้ำประกันอีกต่างหากว่า ถ้าผู้จำนองผิดสัญญาไม่ชำระต้นเงินตามสัญญา ผู้ค้ำประกันยอมให้ผู้รับจำนองฟ้องเรียกเงินตามสัญญาจำนอง โดยผู้ค้ำประกันยอมใช้เงินตามสัญญาจำนองและค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้นดังนี้ ย่อมหมายความว่า ถ้าบังคับจำนองแล้วยังขาดเงินอยู่เท่าใด ผู้ค้ำประกันก็ต้องใช้จนครบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาไม่เป็นค้ำประกัน แต่เป็นสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย อายุความ 10 ปี
จำเลยขอให้โจทก์ค้ำประกันบุคคลผู้ส่งข้าวไปขายต่างประเทศต่อกระทรวงเศรษฐการ โดยจำเลยยอมรับผิดต่อโจทก์ ถ้าโจทก์ต้องเสียหายอย่างใด ๆ ในการค้ำประกันนั้น ดังนี้ ไม่ใช่เป็นสัญญาค้ำประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 แต่เป็นสัญญาธรรมดาระหว่างโจทก์ จำเลย เมื่อโจทก์ต้องชำระหนี้ค่าข้าวแทนบุคคลนั้นโดยสุจริต ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยใช้เงินนั้นได้โดยต้องใช้อายุความ 10 ปีตามมาตรา 164 ไม่ใช่ 5 ปีตามมาตรา 165

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกัน vs. สัญญาธรรมดา: อายุความเรียกร้อง
จำเลยขอให้โจทก์ค้ำประกันบุคคลผู้ส่งข้าวไปขายต่างประเทศต่อกระทรวงเศรษฐการ โดยจำเลยยอมรับผิดต่อโจทก์ ถ้าโจทก์ต้องเสียหายอย่างใดๆ ในการค้ำประกันนั้น ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นสัญญาค้ำประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 แต่เป็นสัญญาธรรมดาระหว่างโจทก์จำเลย เมื่อโจทก์ต้องเสียหายโดยชำระหนี้ค่าข้าวแทนบุคคลนั้นไปโดยสุจริต ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยใช้เงินนั้นได้ภายใน 10 ปีตามมาตรา 164 ไม่ใช่ 5 ปี ตามมาตรา 165

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารยินยอมผัดชำระหนี้ของผู้ค้ำประกัน ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
หนังสือที่เป็นคำรับรองที่ผู้ค้ำประกันยินยอมในการที่ผู้กู้ขอผัดชำระหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับรองผัดชำระหนี้ ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
หนังสือที่เป็นคำรับรองที่ผู้ค้ำประกันยินยอมในการที่ผู้กู้ขอผัดชำระหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนความประสงค์จากสัญญาซื้อขายเป็นสัญญากู้และค้ำประกัน การนำสืบต้องไม่ขัดต่อสัญญาใหม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในฐานะผู้ค้ำประกันจำเลยต่อสู้ว่า ผู้ซื้อผู้ขายไม่ต้องการทำสัญญาซื้อขายต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ซื้อคือโจทก์ เกรงว่าผู้ขายจะกลับถ้อยคืนคำผู้ซื้อให้ทำเป็นสัญญากู้ จำเลยเป็นผู้ค้ำประกัน ดังนี้ เป็นเรื่องคู่สัญญาเปลี่ยนความประสงค์เดิม เมื่อข้อต่อสู้ของจำเลยเป็นเรื่องคู่สัญญาสมัครใจเปลี่ยนทำสัญญากู้และค้ำประกันแทนสัญญาซื้อขายเสียแล้วการที่จำเลยจะนำสืบตามข้อต่อสู้เป็นการขัดต่อสัญญากู้และค้ำประกัน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันจำนองเกินวงเงินสัญญา
ทำสัญญาค้ำประกันไม่เกิน 100,000 บาท โดยมอบโฉนดและเซ็นชื่อในแบบพิมพ์ ในมอบอำนาจให้ไว้เพื่อเจ้าหนี้จะได้นำไปขอจดทะเบียน จำนองแล้วต่อมาฝ่ายเจ้าหนี้ ได้ไปจัดการทำจำนองเป็นจำนวนเงินสู้ขึ้นอีกนั้น เป็นการทำนอกเหนือจากสัญญาค้ำประกันและมอบอำนาจ ผู้ค้ำประกันคงต้องรับผิดไม่เกินจำนวน 100,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองเกินอำนาจค้ำประกัน: ผู้ค้ำประกันรับผิดเฉพาะจำนวนที่ตกลงในสัญญา
ทำสัญญาค้ำประกันไม่เกิน 100,000 บาท โดยมอบโฉนดและเซ็นชื่อในแบบพิมพ์ใบมอบอำนาจให้ไว้ เพื่อเจ้าหนี้จะได้นำไปขอจดทะเบียนจำนอง แล้วต่อมาฝ่ายเจ้าหนี้ได้ไปจัดการทำจำนองเป็นจำนวนเงินสูงขึ้นอีกนั้น เป็นการทำนอกเหนือจากสัญญาค้ำประกันและการมอบอำนาจ ผู้ค้ำประกันคงต้องรับผิดไม่เกินจำนวน 100,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตวัตถุประสงค์การค้ำประกัน: การตีความ “ประกันตัวบุคคลตามกฎหมาย” ครอบคลุมการค้ำประกันหนี้ในอนาคต
ข้อความในวัตถุประสงค์ที่จดทะเบียนของสำนักงานจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลมีว่า "รับประกันผู้ต้องหาชั้นสอบสวนและประกันจำเลยชั้นศาลและประกันตัวบุคคลตามกฎหมายบัญญัติไว้"นั้นคำว่า "ประกันตัวบุคคลตามกฎหมายบัญญัติไว้"ย่อมหมายความว่าเป็นการประกันตามที่มีกฎหมายบัญญัติให้ประกันได้เมื่อกรณีที่โจทก์ฟ้องเป็นการที่จำเลยเข้าค้ำประกันตัวบุคคลในการที่จะไปก่อความเสียหายให้กับโจทก์กล่าวคือเป็นการประกันหนี้ในอนาคตที่บุคคลนั้นอาจไปก่อขึ้นซึ่งมี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 681 วรรคสอง บัญญัติไว้ให้ประกันได้ จำเลยก็ต้องรับผิดในฐานที่ได้เข้าเป็นผู้ค้ำประกันตามนั้น
of 61