พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ด้วยกำลังข่มขู่ vs. ปล้นทรัพย์: การประเมินพฤติการณ์และเจตนา
บุตรและบุตรเขยเจ้าทรัพย์พาโคกระบือของเจ้าทรัพย์ไปเลี้ยงโดยบุคคลทั้งสองอยู่ห่างฝูงโคกระบือ 4 เส้น จำเลยกับพวกรวม 4 คนลักโคในฝูง 1 ตัวโดยใช้ปืนยิงโคล้มลงบุคคลทั้งสองได้ยินเสียงปืน เดินไปดูได้ 2 เส้น เห็นจำเลยกับพวกอยู่ใกล้ ๆ โคที่ล้ม ถือปืนยาวทุกคนแต่มิได้ยกปืนขึ้นเล็งมาที่บุคคลทั้งสอง คงปล่อยให้บุคคลทั้งสองต้อนโคกระบือรวมฝูงพากลับบ้านเช่นนี้ จำเลยไม่ผิดฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ใช้มีดทำร้ายร่างกายผู้เสียหายรุนแรง เล็งเห็นผลถึงตาย ศาลตัดสินความผิดฐานพยายามฆ่า
ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่าง จำเลยและผู้เสียหายมิได้วิวาทกันจำเลยใช้มีดดายหญ้ายาวประมาณ 1 ศอกเศษฟันผู้เสียหาย 2 แผลแผลแรกถูกที่ใบหน้าเป็นแผลยาว 11 เซนติเมตร ผู้เสียหายล้มลงจำเลยยังฟันซ้ำเป็นแผลที่สองถูกที่ศีรษะด้านหลังตัดใบหูซ้ายมาถึงเหนือมุมปากซ้ายบาดแผลยาว 17 เซนติเมตร กระดูกคางหักเช่นนี้ เป็นการเลือกหรือกำหนดได้ว่าจะฟันตรงไหน และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80,72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80,72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาซื้อขาย: เงินชำระล่วงหน้า vs. เงินมัดจำ ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์และข้อสัญญา
สัญญาซื้อขาย มีข้อความเกี่ยวกับการชำระเงินว่า ผู้ซื้อได้ชำระเงินในวันทำสัญญา 40,000 บาท ไม่ชัดแจ้งว่าเป็นเงินมัดจำหรือเงินที่ชำระราคาของล่วงหน้า ศาลย่อมฟังคำพยานบุคคลประกอบการแปลสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1832/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยมีด: พิจารณาจากพฤติการณ์, ลักษณะบาดแผล และโอกาสในการกระทำ
จำเลยฟันผู้เสียหายหลายทีด้วยมีดโต้ปลายตัด แต่ฟันด้วยอาการฉุกละหุกดิ้นรนต่อสู้ แม้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บหลายแห่งถึงสาหัสแต่เมื่อพิจารณาถึงโอกาสที่จำเลยจะเลือกฟันทำร้ายประกอบกับลักษณะบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับ ก็ไม่ปรากฏว่าอาจทำให้ถึงตายได้แล้วยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า คงฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายถึงอันตรายสาหัสเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แม้ผลไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลพิจารณาจากแผนการและพฤติการณ์
จำเลยปักใจเชื่อว่าผู้เสียหายฆ่าหลานชายจำเลย จึงวางแผนฆ่าผู้เสียหาย โดยให้น้องชายไปแจ้งตำรวจให้จับผู้เสียหายที่บ้านผู้มีชื่อและจำเลยไปรออยู่ใกล้บ้านนั้น เมื่อตำรวจมาถึงจำเลยรับอาสานำตำรวจไปจับผู้เสียหาย แล้วจำเลยเดินลุยน้ำไปยิงผู้เสียหายทันทีขณะผู้เสียหายนั่งอยู่บนบ้านนั้น กระสุนปืนถูกขาผู้เสียหาย จำเลยยิงแล้วหลบหนีไป เมื่อตำรวจจับได้ก็แก้ตัวว่ายิงเพื่อป้องกันตำรวจเช่นนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 135/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า พิจารณาจากพฤติการณ์ร่วมกัน
จำเลยกับพวกอีกหนึ่งคนมาหาผู้เสียหายที่กระท่อมนาในเวลากลางคืนจำเลยเรียกผู้เสียหายให้ลุกขึ้นแล้วขอน้ำดื่ม พวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายถูกที่ท้อง แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปด้วยกัน พฤติการณ์ดังนี้แสดงว่าจำเลยกับพวกร่วมกระทำผิดด้วยกัน เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขาดไร้อุปการะจากเหตุละเมิด: คำนวณจากพฤติการณ์วันเกิดเหตุ แม้ผู้ตายมีอาชีพและผู้รับผลประโยชน์ทำงานต่อ
ลูกจ้างของจำเลยขับรถในทางการที่จ้างชนสามีโจทก์ถึงแก่ความตายด้วยความประมาท โจทก์ย่อมตกเป็นผู้ต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้
เมื่อสามีโจทก์ยังมีชีวิตอยู่มีอาชีพตั้งปั๊มน้ำมันจำหน่ายน้ำมันเบนซิน แม้โจทก์จะได้เป็นผู้จัดการมรดกเข้าดำเนินการค้าน้ำมันเบนซิน ต่อมาหลังจากสามีโจทก์ตายแล้ว ก็หาเป็นเหตุทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลยไม่
ในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะนั้นย่อมต้องคำนวณโดยอาศัยพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุนั้นเองเป็นหลักพฤติการณ์ทั้งหลายภายหลังวันเกิดเหตุ หาอาจนำมาพิจารณาในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนในการขาดไร้อุปการะของโจทก์ได้ไม่
เมื่อสามีโจทก์ยังมีชีวิตอยู่มีอาชีพตั้งปั๊มน้ำมันจำหน่ายน้ำมันเบนซิน แม้โจทก์จะได้เป็นผู้จัดการมรดกเข้าดำเนินการค้าน้ำมันเบนซิน ต่อมาหลังจากสามีโจทก์ตายแล้ว ก็หาเป็นเหตุทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลยไม่
ในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะนั้นย่อมต้องคำนวณโดยอาศัยพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุนั้นเองเป็นหลักพฤติการณ์ทั้งหลายภายหลังวันเกิดเหตุ หาอาจนำมาพิจารณาในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนในการขาดไร้อุปการะของโจทก์ได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์การยิงและการไม่มีสาเหตุโกรธเคืองเพื่อวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่พยายามฆ่า
จำเลยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายได้ชักปืนลูกซองสั้นขึ้นยิงผู้เสียหายในระดับเอวของจำเลย ในระยะห่างเพียง 1 วาเศษ กระสุนถูกใต้ขาพับของผู้เสียหายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า แต่มีเจตนาเพียงทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น เพราะหากมีเจตนาฆ่าแล้ว ย่อมมีโอกาสยิงถูกร่างกายผู้เสียหายในที่สำคัญได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
ผู้ตายพบจำเลยเดินสวนทางมา จึงใช้ไฟฉายส่องหน้าจำเลยจำเลยโกรธ ใช้มีดปลายแหลม ใบมีดยาว 1 คืบ แทงผู้ตาย 1 ทีถูกที่เหนือราวนมซ้ายเป็นบาดแผลขนาด 2 คูณ 1 เซนติเมตร ลึกแฉลบขึ้น 9 เซนติเมตร เข้าช่องปอดทางซ้ายเลือดตกใน ผู้ตายถึงแก่ความตายหลังจากถูกแทงเพียง 1 ชั่วโมงเศษ เช่นนี้แม้จำเลยจะแทงเพียงทีเดียวแล้ววิ่งหนีไป ก็แสดงว่าจำเลยแทงอย่างแรงถูกที่สำคัญโดยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าต้องพิสูจน์จากพฤติการณ์ บาดแผลและอาวุธที่ใช้ หากไม่ถึงอันตรายสาหัส ฟังได้เพียงทำร้ายร่างกาย
จำเลยทั้งสองเข้าไปที่ลานนวดข้าวของผู้เสียหาย พอผู้เสียหายกำลังเอาข้าวเปลือกให้เป็ดกิน จำเลยทั้งสองก็กระโจนเข้าไปใช้เหล็กแหลมแทงผู้เสียหายถูกที่บริเวณศีรษะ ที่สะบัก ที่หลัง และที่แขน มีบาดแผล 14 แผล แผลมีลักษณะเป็นสามแฉกเป็นส่วนมาก แพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 14 วัน จึงเป็นบาดแผลเพียงบาดเจ็บ ไม่ถึงกับเป็นอันตรายสาหัส และไม่ถูกอวัยวะสำคัญอาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นเพียงเหล็กแหลม ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นชนิด ขนาด ประเภทใด ดังนี้ ยังฟังไม่ได้จำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ