พบผลลัพธ์ทั้งหมด 993 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่รับมอบสินค้าเป็นสถานที่ที่มูลคดีซื้อขายเกิดขึ้น การอนุญาตฟ้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล และการโต้แย้งคำสั่งศาลต้องกระทำทันที
สถานที่รับมอบสินค้าที่สั่งซื้อเป็นสถานที่ที่มูลคดีผิดสัญญาซื้อขายเกิดขึ้นด้วย
การที่ศาลใดจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลนั้น ศาลย่อมจะใช้ดุลพินิจสั่งตั้งแต่ชั้นพิจารณาคำร้องของโจทก์ที่ยื่นพร้อมคำฟ้อง เมื่อได้อนุญาตให้โจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลนั้นแล้ว แม้ต่อมาจะปรากฏว่าการพิจารณาคดีที่ศาลนั้นมิได้เป็นการสะดวก ก็ไม่ทำให้การสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นฟ้องกลายเป็นการสั่งอนุญาตโดยไม่มีอำนาจ
คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจำเลยต้องโต้แย้งคัดค้านคำสั่งไว้จึงจะมีสิทธิอุทธรณ์ได้
จำเลยเคยยื่นคำร้องคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง แต่ต่อมาจำเลยได้แถลงต่อศาลว่าจำเลยไม่ติดใจคัดค้านการแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์ตามคำร้องดังกล่าวต่อไป ดังนี้ ถือว่าจำเลยมิได้คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง
การที่ศาลใดจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลนั้น ศาลย่อมจะใช้ดุลพินิจสั่งตั้งแต่ชั้นพิจารณาคำร้องของโจทก์ที่ยื่นพร้อมคำฟ้อง เมื่อได้อนุญาตให้โจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลนั้นแล้ว แม้ต่อมาจะปรากฏว่าการพิจารณาคดีที่ศาลนั้นมิได้เป็นการสะดวก ก็ไม่ทำให้การสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นฟ้องกลายเป็นการสั่งอนุญาตโดยไม่มีอำนาจ
คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาจำเลยต้องโต้แย้งคัดค้านคำสั่งไว้จึงจะมีสิทธิอุทธรณ์ได้
จำเลยเคยยื่นคำร้องคัดค้านการที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง แต่ต่อมาจำเลยได้แถลงต่อศาลว่าจำเลยไม่ติดใจคัดค้านการแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์ตามคำร้องดังกล่าวต่อไป ดังนี้ ถือว่าจำเลยมิได้คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956-1958/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินต้องฟ้องภายใน 1 ปี แม้จำเลยสละข้อต่อสู้เรื่องอายุความ ศาลก็วินิจฉัยได้
การฟ้องเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองจะต้องฟ้องภายในปีหนึ่งนับแต่เวลาถูกแย่ง การครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรคสอง ซึ่งกำหนดเวลานี้ไม่ใช่อายุความ ถึงแม้จำเลยมิได้ยกขึ้นสู้ ศาลก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้ ดังนั้น แม้เดิมจำเลยจะให้การ ต่อสู้สนเรื่องอายุความไว้ แต่จำเลยก็ได้สละข้อต่อสู้เรื่องอายุความนี้เสียซึ่งมีผลเท่ากับจำเลยมิได้ยกปัญหานี้ขึ้นต่อสู้ ศาลก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ: ฟ้องห้างฯ นิติบุคคลโดยตรง หากจำเลยทำหน้าที่แทน ห้างฯ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าของปั้มน้ำมัน "ทองคำบริการ" รับรถยนต์ของโจทก์ไว้อัดฉีดแล้วประมาทเลินเล่อปล่อยให้บุคคลอื่น ซึ่งมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์เอารถคันดังกล่าวของโจทก์ไป ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นเพียงหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองคำบริการ ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากรับทำการอัดฉีดรถของโจทก์ จำเลยเป็นเพียงผู้ทำแทนห้างฯ มิได้ทำในฐานะส่วนตัว เมื่อฟ้องโจทก์มิได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และไม่ได้ระบุว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลย ดังนี้ โจทก์จะขอให้จำเลยรับผิดในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างดังกล่าวไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ: ฟ้องห้างฯ หรือฟ้องผู้จัดการส่วนตัว?
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน "ทองคำบริการ"รับรถยนต์ของโจทก์ไว้อัดฉีดแล้วประมาทเลินเล่อปล่อยให้บุคคลอื่นซึ่งมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์เอารถคันดังกล่าวของโจทก์ไป ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นเพียงหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองคำบริการซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากรับทำการอัดฉีดรถของโจทก์ จำเลยเป็นเพียงผู้ทำแทนห้างฯ มิได้ทำในฐานะส่วนตัวเมื่อฟ้องโจทก์มิได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และไม่ได้ระบุว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลย ดังนี้ โจทก์จะขอให้จำเลยรับผิดในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างดังกล่าวไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารสัญญากู้เพื่อฟ้องร้องเรียกเงิน และเบิกความเท็จต่อศาล
กรอกข้อความลงในเอกสารที่มีลายมือชื่อของโจทก์โดยโจทก์มิได้ยินยอมให้กรอก แล้วนำเอกสารมาฟ้องเรียกเงินกู้เป็นการปลอมเอกสารตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรค 2 โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดที่ตำบลมะขามหย่ง แต่โจทก์เบิกความว่าเหตุเกิดที่บ้านจำเลย ตำบลบางปลาสร้อย เมื่อจำเลยรับว่าเป็นผู้กรอกข้อความและตำบลทั้งสองอยู่อำเภอเดียวกัน ไม่ถือว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3297/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าโจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานปลอมเอกสารครบถ้วน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลรักษาเอกสารเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินของวัด ได้บังอาจร่วมกันปลอมเอกสารคือใบเสร็จรับเงินของคณะกรรมการวัดขึ้นทั้งฉบับ เพื่อรับเงินบำรุงวัดไปโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น และจำเลยกับพวกได้บังอาจร่วมกันเบียดบังเอาเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตนเองโดยทุจริต อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กรรมการวัด และเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงศึกษาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาชนทั่วไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 และ161ดังนี้ ถือได้ว่า โจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 ไว้ครบถ้วน และประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดดังกล่าวด้วย เมื่อได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องไว้ จึงลงโทษจำเลยตามมาตราดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3234/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแพ่ง: การฟ้องบริษัทต่างด้าวที่มีสำนักงานสาขาในไทย
ในคำฟ้องช่องคู่ความ โจทก์ระบุชื่อจำเลยว่า สายเดินเรือเมอสค์สาขากรุงเทพฯ และบรรยายในฟ้องว่า จำเลยอันหมายถึงบริษัทดัมป์สกิปเซลสกาเบ็ทอาฟ1912อักตีเซลสกาปจำกัด และบริษัทอักตีเซลสกาเบ็ทดัมป์สกิปเซลสกาเบ็ทสเว็นด์บอร์ก จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของราชอาณาจักรแห่งประเทศเดนมารค์ ดำเนินธุรกิจในการขนส่งทางทะเลและจดทะเบียนพาณิชย์ต่อสำนักงานทะเบียนพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์ และใช้ชื่อในการประกอบการพาณิชยกิจว่า "สายเดินเรือเมอสค์สาขากรุงเทพฯ" โดยมีสำนักทำการงานเพื่อดำเนินกิจการดังกล่าว สำนักงานแห่งใหญ่อยู่เลขที่ 231/2 ถนนสาธรใต้ ตำบลยานนาวา อำเภอยานนาวา กรุงเทพมหานคร เป็นที่เห็นได้ว่า โจทก์ฟ้องบริษัทดัมป์สกิปเซลสกาเบ็ทอาฟ1912อักตีเซลสกาป จำกัด และบริษัทอักตีเซลสกาเบ็ทดัมป์สกิปเซลสกาเบ็ทสเว็นด์บอร์ก จำกัด ซึ่งใช้ชื่อในการประกอบกิจการพาณิชย์ด้านรับส่งสินค้าในประเทศไทยว่า "สายเดินเรือเมอสค์ สาขากรุงเทพฯ" หาใช่ฟ้องสายเดินเรือเมอสค์ สาขากรุงเทพฯ ให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนตามลำพังตนเองไม่ และดังนั้นสายเดินเรือเมอสค์ สาขากรุงเทพฯจึงอยู่ในฐานะเป็นสำนักทำการงาน อันเกิดจากการประกอบกิจการร่วมกันของบริษัททั้งสองดังกล่าว มิใช่กิจการและบุคคลต่างหากออกไป ถือได้ว่าสายเดินเรือเมอสค์ สาขากรุงเทพฯเป็นสำนักงานสาขาของบริษัททั้งสอง เมื่อบริษัททั้งสองมีสำนักงานสาขาอยู่ในประเทศไทย ซึ่งตามกฎหมายถือว่าถิ่นที่มีสาขาสำนักงานเป็นภูมิลำเนาในส่วนกิจการอันทำ ณ ที่นั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71 โจทก์จึงฟ้องจำเลยต่อศาลแพ่งได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2945/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการฟ้องเพิกถงมติคณะกรรมการ แม้จะได้รับประโยชน์จากมติดังกล่าวแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งอ้างว่าเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและทำให้โจทก์เสียหายเพราะถูกเดินรถทับเส้นทาง เมื่อได้ความว่ามติที่ประชุมดังกล่าวคณะกรรมการอนุมัติให้จำเลยที่ 3 เพิ่มจำนวนรถและจำนวนเที่ยวรถ ขณะเดียวกันก็อนุมัติให้โจทก์เพิ่มจำนวนรถกับเพิ่มเที่ยวรถจากเดิมด้วย โจทก์ได้ถือเอาประโยชน์จากมติครั้งนี้ตลอดมา มิได้โต้แย้งแต่อย่างใดว่ามติไม่ชอบ คงให้เพิกถอนเฉพาะส่วนที่ไม่เป็นประโยชน์แก่โจทก์ เพื่อโจทก์จะได้รับผลจากมติการประชุมนั้นแต่เพียงฝ่ายเดียวเช่นนี้ ย่อมเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ภาษีอากรถึงที่สุด เมื่อลูกหนี้ไม่ยื่นฟ้องภายในกำหนดตามกฎหมาย แม้มีการอุทธรณ์ก่อนหน้า
หนี้ค่าภาษีอากรซึ่งเจ้าพนักงานประเมินได้แจ้งจำนวนที่จะต้องชำระเพิ่มไปยังลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้มิได้อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หรือลูกหนี้อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้ยกอุทธรณ์ลูกหนี้ทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ แล้วไม่ยื่นฟ้องต่อศาลภายในกำหนดตามมาตรา 30 แห่งประมวลรัษฎากร ถือว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินยุติแล้ว ลูกหนี้หมดสิทธิที่จะรื้อฟื้นการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินขึ้นโต้แย้งต่อไป และต้องรับผิดชำระหนี้ค่าภาษีนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2192/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารกู้หลายฉบับถือเป็นความผิดหลายกระทง แม้กระทำในวันเดียวกัน และการใช้เอกสารปลอมฟ้องผู้อื่นเป็นความผิดเพิ่มเติม
ปลอมเอกสารกู้ 4 ฉบับว่าโจทก์ 4 คนกู้แต่ละฉบับในวันเวลาเดียวกัน เป็นการกระทำแยกกันได้แต่ละฉบับ จำเลยนำเอกสารปลอมทั้ง 4 ฉบับไปแสดงต่อกรรมการสอบสวน เป็นความผิดตาม มาตรา 265,268 กระทงหนึ่ง จำเลยนำเอกสารปลอมไปฟ้องโจทก์แต่ละคนเป็น 4 สำนวนเป็นความผิดอีก 4 กระทง ศาลเรียงกระทงลงโทษ 5 กระทงตาม มาตรา 265,268