พบผลลัพธ์ทั้งหมด 648 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของไวยาวัจกรต้องมีเอกสารมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ปิดอากรแสตมป์) จึงจะสมบูรณ์
ไวยาวัจกรฟ้องคดีในนามของวัดผู้เป็นเจ้าของทรัพย์พิพาทโดยอาศัยหนังสือซึ่งเจ้าอาวาสวัดแต่งตั้งให้เป็นไวยาวัจกรมีอำนาจหน้าที่จัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดและดำเนินคดีแทนวัดหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากรเมื่อไม่ปิดอากรแสตมป์ไวยาวัจกรก็ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงลายมือชื่อในฟ้องคดีอาญา: ทนายไม่สามารถลงแทนโจทก์ได้ แม้มีมอบอำนาจ
ทนายความซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนายโจทก์และให้มีอำนาจ "ดำเนินกระบวนพิจารณา ประนีประนอมยอมความ ถอนฟ้อง สละสิทธิหรือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา" ได้ลงลายมือชื่อในฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาแทนโจทก์ เช่นนี้ คำฟ้องคดีส่วนอาญาจึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(7) โจทก์ชอบที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 163,164 จะถือว่าการที่โจทก์ได้สาบานตัวเบิกความต่อศาลยืนยันว่าโจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยและในชั้นอุทธรณ์โจทก์ลงชื่อในท้ายอุทธรณ์นั้น เป็นการให้สัตยาบันว่า โจทก์มอบอำนาจให้ทนายความฟ้องคดีส่วนอาญาแล้วไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจถอนฟ้องของโจทก์ร่วม: การมอบอำนาจตามเสียงข้างมากของคณะกรรมการมัสยิด
หากคณะกรรมการมัสยิดซึ่งมีเสียงข้างมากมอบอำนาจให้บุคคลใดถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดอันยอมความได้แล้ว บุคคลนั้นก็ย่อมมีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ได้แม้จะมีกรรมการส่วนข้างน้อยคัดค้านการมอบอำนาจนั้นอยู่ก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยการมอบอำนาจให้ผู้เยาว์ และการพิสูจน์การยกที่ดินให้ผู้อื่น
ยายยกที่ดินให้หลาน โดยทำใบมอบอำนาจให้หลานไปทำนิติกรรมแทน แม้หลานนั้นจะยังไม่บรรลุนิติภาวะก็เป็นผู้รับมอบอำนาจได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาช่วง-มอบอำนาจ: ความรับผิดของคู่สัญญาต่อค่าใช้จ่ายตามสัญญา
โจทก์ทำสัญญาเช่าโรงมหรศพจากเจ้าของเพื่อจัดการแสดงมหาศพและการบันเทิงต่าง ๆ โดยมีข้อห้ามมิให้เช่าช่วง แต่โจทก์มาทำสัญญากับจำเลยยินยอมมอบอำนาจให้จำเลยดำเนินการฉายภาพยนต์หรือจัดรายการบันเทิงอื่นใดโรงมหรศพนี้ โดยจำเลยต้องให้เงินโจทก์เป็นรายเดือน สัญญานี้ใช้บังคับได้ระหว่างโจทก์กับจำเลย ส่วนข้อที่ว่าเป็นการให้เช่าช่วงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่เจ้าของจะว่ากล่าวแก่โจทก์ จำเลยจะยกขึ้นปัดความรับผิดของตนไม่ได้
เมื่อสัญญามอบอำนาจนั้นมีข้อตกลงให้จำเลยรับภาระค่าเช่าโทรศัพท์ด้วย ถ้าจำเลยยังไม่ได้ชำระ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกเอาแก่จำเลยได้ มิใช่ต้องให้องค์การโทรศัพท์เป็นผู้ฟ้อง เพราะองค์การนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจำเลย ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับจำเลย
ค่าโทรศัพท์นี้ จำเลยมีหน้าที่จ่ายให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระแก่โจทก์ตามสัญญา จำเลยก็ต้องรับผิดในดอกเบี้ยด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ถึงแม้ว่าโจทก์เองจะยังไม่ได้ชำระให้องค์การโทรศัพท์ก็ตาม
เมื่อจำเลยยอมรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริงตามฟ้อง แต่ต่อสู้ว่าได้ชำระหนี้ค่าภาระติดพันต่าง ๆ แก่โจทก์ตามข้อสัญญาครบถ้วนแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบก่อน
คดีที่มีการสืบพยานเสร็จสิ้นไปแล้วทั้งสองฝ่ายและในฎีกาของจำเลยก็มิได้ขอให้ศาลสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่ ทั้งพยานหลักฐานที่ได้สืบกันมาก็ไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาคัดค้านการกำหนดหน้าที่นำสืบอีก ย่อมฟังไม่ขึ้น
เมื่อสัญญามอบอำนาจนั้นมีข้อตกลงให้จำเลยรับภาระค่าเช่าโทรศัพท์ด้วย ถ้าจำเลยยังไม่ได้ชำระ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกเอาแก่จำเลยได้ มิใช่ต้องให้องค์การโทรศัพท์เป็นผู้ฟ้อง เพราะองค์การนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจำเลย ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับจำเลย
ค่าโทรศัพท์นี้ จำเลยมีหน้าที่จ่ายให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระแก่โจทก์ตามสัญญา จำเลยก็ต้องรับผิดในดอกเบี้ยด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 ถึงแม้ว่าโจทก์เองจะยังไม่ได้ชำระให้องค์การโทรศัพท์ก็ตาม
เมื่อจำเลยยอมรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริงตามฟ้อง แต่ต่อสู้ว่าได้ชำระหนี้ค่าภาระติดพันต่าง ๆ แก่โจทก์ตามข้อสัญญาครบถ้วนแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบก่อน
คดีที่มีการสืบพยานเสร็จสิ้นไปแล้วทั้งสองฝ่ายและในฎีกาของจำเลยก็มิได้ขอให้ศาลสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่ ทั้งพยานหลักฐานที่ได้สืบกันมาก็ไม่ทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป ดังนี้ จำเลยจะฎีกาคัดค้านการกำหนดหน้าที่นำสืบอีก ย่อมฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความหลังเลิกบริษัท: ยังมีสิทธิดำเนินคดีได้จนกว่าผู้ชำระบัญชีจะถอนมอบอำนาจ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249 มีความหมายว่า แม้บริษัทได้เลิกแล้ว แต่กฎหมายก็ให้ถือว่ายังคงตั้งอยู่ในระหว่างเวลาที่จำเป็นแก่การชำระบัญชี. ฉะนั้น ทนายความที่ได้รับแต่งตั้งจากบริษัทก็ยังคงถือว่าเป็นบริษัทอยู่ในขณะชำระบัญชี และยังคงมีสิทธิดำเนินคดีได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1259(1) เป็นบทให้อำนาจแก่ผู้ชำระบัญชีที่จะว่าต่างแก้ต่างในนามของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท มิใช่เป็นบทระงับสิทธิของทนายความที่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทได้แต่งตั้งไว้แล้ว ทนายที่แต่งตั้งไว้จะหมดอำนาจดำเนินคดีก็ต่อเมื่อผู้ชำระบัญชีถอนการมอบอำนาจ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1259(1) เป็นบทให้อำนาจแก่ผู้ชำระบัญชีที่จะว่าต่างแก้ต่างในนามของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท มิใช่เป็นบทระงับสิทธิของทนายความที่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทได้แต่งตั้งไว้แล้ว ทนายที่แต่งตั้งไว้จะหมดอำนาจดำเนินคดีก็ต่อเมื่อผู้ชำระบัญชีถอนการมอบอำนาจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเฉลี่ยเงินจากการยึดทรัพย์ ต้องแสดงหลักฐานการมอบอำนาจที่ชัดเจนและนำสืบ หากคู่ความไม่ติดใจสืบพยาน ศาลจะไม่รับฟังพยานนอกเหนือจากที่นำสืบ
นายอร่ามผู้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยกับโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยาน ขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามคำร้องขอเฉลี่ย กับคำคัดค้านของโจทก์ เมื่อคำร้องขอเฉลี่ยไม่ได้ระบุว่าได้รับมอบอำนาจจากผู้ใด (โดยกล่าวลอย ๆ แต่ว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจ) ทั้งไม่มีหนังสือมอบอำนาจด้วย ก็ถือไม่ได้ว่านายอร่ามเป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้อื่น
แม้จะกล่าวในคำร้องว่าจำเลยเป็นลูกนี้ผู้ร้องในคดีแดงที่ 354/2504 แต่โจทก์ก็ปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้นายอร่ามผู้ร้อง เมื่อนายอร่ามไม่นำสืบ ก็รับฟังไม่ได้
การที่ศาลจะนำข้อเท็จจริงในคดีที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยมาวินิจฉัยคดีนี้หรือคู่ใบมอบอำนาจในคดีดังกล่าวนั้นย่อมเป็นการรับฟังสำนวนหรือเอกสารในสำนวนนั้นเป็นพยาน เมื่อคู่ความแถลงไว้ว่าไม่ติดใจสื่บพยาน ทั้งขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามคำร้องและคำคัดค้านด้วย ศาลก็จะรับฟังพยานดังกล่าวไม่ได้.
แม้จะกล่าวในคำร้องว่าจำเลยเป็นลูกนี้ผู้ร้องในคดีแดงที่ 354/2504 แต่โจทก์ก็ปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้นายอร่ามผู้ร้อง เมื่อนายอร่ามไม่นำสืบ ก็รับฟังไม่ได้
การที่ศาลจะนำข้อเท็จจริงในคดีที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยมาวินิจฉัยคดีนี้หรือคู่ใบมอบอำนาจในคดีดังกล่าวนั้นย่อมเป็นการรับฟังสำนวนหรือเอกสารในสำนวนนั้นเป็นพยาน เมื่อคู่ความแถลงไว้ว่าไม่ติดใจสื่บพยาน ทั้งขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามคำร้องและคำคัดค้านด้วย ศาลก็จะรับฟังพยานดังกล่าวไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของภริยา: สินส่วนตัว vs สินบริคณห์ และการมอบอำนาจ
ทรัพย์สินของภริยาซึ่งไม่ปรากฏว่าเป็นสินส่วนตัว ย่อมสันนิษฐานว่าเป็นสินบริคณห์ สามีจึงมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย สามีมีสิทธิฟ้องคดีกล่าวหาว่าผู้อื่นทำให้ทรัพย์สินนั้น ๆ เสียหายได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของโจทก์ และมอบอำนาจให้ภริยาโจทก์ฟ้องคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีของสามีในทรัพย์สินของภริยา: สินบริคณห์และการมอบอำนาจ
ทรัพย์สินของภริยาซึ่งไม่ปรากฏว่าเป็นสินส่วนตัว ย่อมสันนิษฐานว่าเป็นสินบริคณห์สามีจึงมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย สามีมีสิทธิฟ้องคดีกล่าวหาว่าผู้อื่นทำให้ทรัพย์สินนั้นๆ เสียหายได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของโจทก์ และมอบอำนาจให้ภริยาโจทก์ฟ้องคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เอกสารมอบอำนาจ: ต้นฉบับสำคัญกว่าสำเนา
ต้นฉบับใบมอบอำนาจฟ้องคดีมีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือ 2คนครบถ้วน แต่สำเนาที่ส่งแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้น ปรากฏว่าตกพยานไปคนหนึ่ง ดังนั้น ต้องถือต้นฉบับที่ยื่นต่อศาลเป็นสำคัญ