พบผลลัพธ์ทั้งหมด 676 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรีดลูกที่เจตนาทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แม้ผู้ตายยินยอม ถือเป็นความผิดฐานฆ่าคนตาย
ผู้ตายมีครรภ์แล้วยอมให้จำเลยรีดลูกให้แท้ง จำเลยบีบกดท้องผู้ตายจนบุตรในครรภ์ศีรษะเหลว โลหิตในมดลูกแตก ผู้ตายคอและสันหลังเขียวเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยย่อมมีผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่เจ้าของมอบครองทรัพย์ให้ผู้อื่น แล้วผู้นั้นยินยอมให้จำเลยเอาไป โดยจำเลยอ้างว่าได้รับอนุญาตจากเจ้าของ ถือเป็นฉ้อโกง ไม่ใช่ลักทรัพย์
หัวผักกาดที่เจ้าทรัพย์มอบให้บุคคลอื่นครอบครอง บุคคลอื่นยินยอมให้จำเลยเอาไปได้โดยดี เพราะหลงเชื่อในถ้อยคำของจำเลยที่อ้างว่าเจ้าของให้มาเอาไปขายและหลงเชื่อในอาการที่จำเลยเป็นคนมาติดต่อขอซื้อและจำเลยเป็นคนพูดจาฝากหัวผักกาดเหล่านั้นไว้ โดยผู้ครอบครองมิได้รู้ถึงความจริงว่าหัวผักกาดเหล่านั้นเป็นของผู้ใดกันแน่กรณีเช่นนี้จะเป็นความผิดอาญาก็เป็นเรื่องฉ้อโกงหาใช่ฐานลักทรัพย์ไม่
ฟ้องว่าลักทรัพย์พิจารณาได้ความว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงต้องยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.192
ฟ้องว่าลักทรัพย์พิจารณาได้ความว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงต้องยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสละสิทธิห้ามเช่าช่วง: แม้สัญญาห้าม แต่หากผู้ให้เช่ายินยอมก็ถือเป็นการสละสิทธิ
แม้หนังสือสัญญาเช่าที่ดินจะมีข้อความห้ามเช่าช่วงเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก็ดี แต่ถ้าข้อเท็จจริงปรากฎว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าให้เช่าช่วงปลูกห้องแถวให้ผู้อื่นเช่าอยู่อาศัยย่อมแสดงเจตนาของผู้ให้เช่าว่าได้สละข้อห้ามในสัญญานั้นแล้ว ผู้เช่าห้องแถวอยู่อาศัยก็ย่อมได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
คดีที่คู่ความฎีกาในข้อ ก.ม. เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในประเด็นก็มีอำนาจให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้สืบพยานแล้วสั่งใหม่ตามรูปคดีได้
คดีที่คู่ความฎีกาในข้อ ก.ม. เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในประเด็นก็มีอำนาจให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้สืบพยานแล้วสั่งใหม่ตามรูปคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาสละสิทธิห้ามเช่าช่วง: แม้ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร หากผู้ให้เช่ายินยอมโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย ก็ถือเป็นเจตนาสละสิทธิ
แม้หนังสือสัญญาเช่าที่ดินจะมีข้อความห้ามเช่าช่วงเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก็ดี แต่ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าให้เช่าช่วงปลูกห้องแถวให้ผู้อื่นเช่าอยู่อาศัยย่อมแสดงเจตนาของผู้ให้เช่าว่าได้สละข้อห้ามในสัญญานั้นแล้ว ผู้เช่าห้องแถวอยู่อาศัยก็ย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คดีที่คู่ความฎีกาในข้อกฎหมายเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในประเด็นก็มีอำนาจให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้สืบพยานแล้วสั่งใหม่ตามรูปคดีได้
คดีที่คู่ความฎีกาในข้อกฎหมายเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นยังมิได้ฟังข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในประเด็นก็มีอำนาจให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้สืบพยานแล้วสั่งใหม่ตามรูปคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมให้ขายทรัพย์สิน สัญญาซื้อขายสมบูรณ์ แม้เจ้าของโต้แย้งภายหลัง
เจ้าของยินยอมให้บุคคลอื่นขายและยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลที่สาม สัญญาซื้อขายและให้นั้นย่อมสมบูรณ์ เจ้าของจะมาโต้เถียงว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของตนบุคคลอื่นไม่มีสิทธิจะขายหรือให้อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมให้ขายทรัพย์สิน สัญญาซื้อขายสมบูรณ์ แม้เจ้าของเดิมจะโต้แย้ง
เจ้าของยินยอมให้บุคคลอื่นขายและยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลที่สามสัญญาซื้อขายและให้นั้นย่อมสมบูรณ์เจ้าของจะมาโต้เถียงว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของตนบุคคลอื่นไม่มีสิทธิจะขายหรือให้อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆียะกรรมสัญญาขายฝากสินบริคณห์: สามีต้องยินยอมหรือสัตยาบัน หากภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินสมรสโดยลำพัง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับตามสัญญาขายฝากที่จำเลย(ภริยาผู้ร้องสอด)ทำไว้กับโจทก์ จำเลยและผู้ร้องสอด(สามีจำเลย) ต่อสู้ยืนยันว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหาย จำเลยทำนิติกรรรมผูกพันสินบริคณหโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ร้องสดและไม่ได้ให้สัตยาบันจึงบอกล้างโมฆียะกรรม เมื่อโจทก์กล่าวแก้แต่เพียงว่าผู้ร้องสอดมิได้เป็นสามีโดยชอบด้วยกฏหมายดังนี้ประเด็นคงมีว่าผู้ร้องสอดกับจำเลย
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นไปถึงเรื่องภริยาร้างในระหว่างภริยาทำนิติกรรมขายฝากให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่,
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัดยาบันสามีจึงบอกล้าง
นิติกรรมนั้นได้
เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่เท่านั้น ไม่มีประเด็นไปถึงเรื่องภริยาร้างในระหว่างภริยาทำนิติกรรมขายฝากให้แก่โจทก์แล้วหรือไม่,
เมื่อภริยาทำนิติกรรมผูกพันสินบริคณห์โดยมิได้รับความยินยอมจากสามีและสามีไม่ได้ให้สัดยาบันสามีจึงบอกล้าง
นิติกรรมนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิติกรรมภริยาต้องได้รับความยินยอมจากสามี หากสามีไม่ยินยอม นิติกรรมเป็นโมฆียะและอาจตกเป็นโมฆะได้
นิติกรรมที่หญิงมีสามีไปทำขึ้นโดยสามีมิได้รู้เห็นยินยอมนั้นย่อมเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างแล้วก็ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.มาตรา 138
่การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้ว ผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ ฟังไม่ได้
่การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมจากกันนั้นเมื่อกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือแล้ว ผู้ใดจะอ้างว่าการนั้นได้รับความยินยอมแล้วโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออันเป็นการฝืนหลักกฎหมายเช่นนี้ ฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายที่ดินสินเดิมโดยภรรยาให้ความยินยอมภายหลัง มิอาจฟ้องเรียกคืนได้
เมื่อขณะสามีทำสัญญาขายที่ดินสินเดิมของภรรยา ๆ ก็อยู่รู้เห็นด้วยแต่มิได้คัดค้านประการใดแล้วต่อมาภายหลังภรรยาจะมาฟ้องเอาที่ดินคืนจากผู้ซื้อไม่ได้เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมโดยปริยายต่อการขายสินเดิมของภรรยา ทำให้ไม่สามารถฟ้องเรียกคืนได้ ถือเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต
เมื่อขณะสามีทำสัญญาขายที่ดินสินเดิมของภรรยา ภรรยาก็อยู่รู้เห็นด้วยแต่มิได้คัดค้านประการใด แล้วต่อมาภายหลังภรรยาจะมาฟ้องเอาที่ดินคืนจากผู้ซื้อไม่ได้ เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต