คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บอกเลิกสัญญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,021 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3149/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อยังไม่ส่งมอบรถยนต์คืน
โจทก์เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลย หากโจทก์จะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อก็อาจทำได้ด้วยการส่งมอบรถยนต์คืนแก่จำเลย ดังนั้น เมื่อโจทก์บอกกล่าวเลิกสัญญาโดยยังครอบครองรถยนต์คันที่เช่าซื้ออยู่ การบอกเลิกสัญญาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3149/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากผู้เช่าซื้อยังครอบครองทรัพย์สิน
โจทก์ผู้เช่าซื้อจะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อก็อาจทำได้ด้วยการส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อกลับคืนให้แก่จำเลย การที่โจทก์บอกเลิกสัญญาโดยโจทก์ยังครอบครองรถยนต์คันที่เช่าซื้ออยู่ การบอกเลิกสัญญาจึงไม่ชอบด้วย ป.พ.พ. มาตรา 573.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3149/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อยังไม่คืนรถ
โจทก์เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลย หากโจทก์จะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อก็อาจทำได้ด้วยการส่งมอบรถยนต์คืนแก่จำเลย ดังนั้นเมื่อโจทก์บอกกล่าวเลิกสัญญาโดยยังครอบครองรถยนต์คันที่เช่าซื้ออยู่ การบอกเลิกสัญญาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของคนต่างด้าว, อายุความค่าสิทธิประดิษฐ์, การบอกเลิกสัญญา, และการเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ
การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ช.ซึ่งเป็นคนต่างด้าวมีอำนาจดำเนินคดีแก่จำเลย หาใช่เป็นการมอบอำนาจให้ประกอบธุรกิจบริการ โดยการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนการค้าไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 281 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2515 ข้อ 4 และตามบัญชี ก.ท้ายประกาศ หมวด 3(5)
ค่าสิทธิประดิษฐ์ในการให้ความช่วยเหลือ แนะนำ ฝึกสอนวิธีการประดิษฐ์กระเบื้องซีรามิคตามสัญญา ซึ่งมีการตกลงจ่ายเป็นงวด ๆ โดยคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย นั้น ไม่เข้าลักษณะการเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) (7) จึงมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164
หนังสือของจำเลยตอบหนังสือของโจทก์ที่ถามความเห็นเกี่ยวกับการต่ออายุสัญญาว่าจำเลยตกลงใจไม่ต่อสัญญาความช่วยเหลือทางเทคนิคกับโจทก์และโจทก์แจ้งให้จำเลยทราบว่า โจทก์ตกลงตามที่จำเลยตัดสินใจ ดังนี้ หนังสือของจำเลยดังกล่าวไม่ใช่หนังสือบอกเลิกสัญญากับโจทก์ แต่เป็นหนังสือที่มีลักษณะเป็นการสนองตอบตามที่โจทก์ขอความเห็นหรือหารือล่วงหน้าก่อนครบกำหนดต่ออายุสัญญาว่า จะมีการต่ออายุสัญญาต่อไปหรือไม่โจทก์กลับมีหนังสืออันมีข้อความในลักษณะเป็นการตกลงตามที่จำเลยสนองตอบข้อหารือของโจทก์นั้น จึงเท่ากับตกลงที่จะไม่ต่ออายุสัญญากันด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย จำเลยมิได้เป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนด
สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความว่า ข้อขัดแย้งหรือข้อเรียกร้องใดซึ่งเกิดขึ้นหรือเกี่ยวเนื่องกับสัญญานี้หรือการประพฤติปฏิบัติผิดสัญญานี้ คู่สัญญาจะทำความตกลงกันด้วยสันติวิธี ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้จะต้องชี้ขาดโดยอนุญาโตตุลาการ ดังนี้ สัญญามิได้บังคับเด็ดขาดว่าต้องตั้งอนุญาโตตุลาการให้ชี้ขาดข้อพิพาทเสียก่อน จึงจะฟ้องได้ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้เสนอให้มีการตั้งอนุญาโตตุลาการ โจทก์จึงฟ้องคดีได้โดยไม่ต้องเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการพิจารณาก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการคิดดอกเบี้ยหลังบอกเลิกสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี
ศาลให้โอกาสจำเลยเลื่อนสืบ ส. พยานจำเลยปากสุดท้ายมา 2 นัด นัดแรกที่ขอเลื่อนจำเลยแถลงรับรองว่าถ้าไม่ได้พยานปากนี้มาสืบก็ให้ศาลตัดพยานปากนี้ได้ ถึงวันนัด ส.ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นให้โอกาสจำเลยเลื่อนสืบพยานปากนี้ต่อไปอีกในนัดที่สามจำเลยบอก ส.ว่าไม่ต้องมาเบิกความที่ศาลโดยอ้างว่ากำลังเจรจาขอลดดอกเบี้ยกับโจทก์ ก็ปรากฏว่า การลดดอกเบี้ยนี้ต้องให้กรรมการของโจทก์พิจารณาเสียก่อน และมีผลเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะไม่นำพยานมาสืบ และมีพฤติการณ์ส่อไปในทางที่จะประวิงคดี ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานอีกต่อไปได้
จำเลยมีหนังสือนัดหมายโจทก์ไปทำการไถ่ถอนจำนองและรับชำระหนี้จากจำเลยที่สำนักงานที่ดิน โดยจำเลยจะขอชำระหนี้ให้โจทก์เพียงบางส่วน ไม่ครบถ้วนตามจำนวนที่จะต้องชำระให้โจทก์ โจทก์ย่อมปฏิเสธที่จะไม่รับชำระหนี้ดังกล่าวได้ การที่โจทก์ไม่รับชำระหนี้และไปไถ่ถอนจำนองให้ จะถือว่าโจทก์ผิดนัดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดี, การบอกเลิกสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี, สิทธิคิดดอกเบี้ยหลังบอกเลิกสัญญา, การชำระหนี้ไม่ครบถ้วน
ศาลชั้นต้นได้ให้โอกาสจำเลยเลื่อนสืบ ส. พยานจำเลยมา 2 นัดแล้ว นัดแรกที่ขอเลื่อนจำเลยแถลงรับรองว่าถ้า ไม่ได้พยานปากนี้มาสืบก็ให้ศาลตัดพยานปากนี้ได้ ในนัดที่สามจำเลยควรนำ ส. มาสืบให้ได้ จำเลยกลับบอก ส. ให้ระงับไม่ต้องมาศาล ที่จำเลยอ้างว่ากำลังเจรจาขอลดดอกเบี้ยกับโจทก์อยู่นั่นก็เป็นเรื่องที่ต้องให้กรรมการของโจทก์พิจารณาเสียก่อนและมีผลเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น พฤติการณ์จำเลยส่อไปในทางที่จะประวิงคดีให้ชักช้า ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีไปสืบ ส. และถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานอีกต่อไป จึงชอบแล้ว จำเลยมีหนังสือนัดหมายโจทก์ขอปฏิบัติการชำระหนี้ แต่หนี้ที่ระบุในหนังสือดังกล่าวไม่ครบถ้วนตามจำนวนที่จะต้องชำระให้โจทก์โจทก์ย่อมปฏิเสธที่จะไม่รับชำระหนี้ได้และไม่ถือว่าโจทก์ตก เป็นผู้ผิดนัด จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ย ขอให้ยกฟ้องส่วนที่เป็นดอกเบี้ย จำเลยต้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาตามจำนวนทุนทรัพย์เฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น กรณีซื้อสินค้าชนิดเดียวกันแต่ไม่ตรงตามที่ตกลง
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายครุภัณฑ์ฝึกฝีมือให้แก่โจทก์ซึ่งมีฉากตายรวมอยู่ด้วย สัญญาข้อ 8 วรรคสอง มีว่า ถ้าจำเลยที่ 1 (ผู้ขาย) ไม่ส่งมอบสิ่งของหรือส่งไม่ถูกต้องหรือส่งไม่ครบจำนวนตามสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และถ้าโจทก์ซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะส่วนที่ขาดส่งภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันบอกเลิกสัญญา จำเลยที่ 1 ยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญา เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและสงวนสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 8 วรรคสอง ต่อมาโจทก์ได้จัดซื้อฉากตายใหม่ โดยทำสัญญาซื้อขายภายในกำหนดเวลาตามสัญญาข้อ 8 วรรคสองแล้วจำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น กรณีหาจำต้องรอให้การซื้อขายรายหลังมีการส่งมอบสิ่งของและชำระราคาที่ซื้อขายกันตามสัญญาเสียก่อนไม่ แต่การจัดซื้อสิ่งของตามสัญญาข้อ 8 วรรคสองนั้นหมายถึงซื้อสิ่งของชนิดเดียวกันกับสิ่งของที่ทำสัญญาซื้อจากจำเลยที่ 1 กล่าวคือ ต้องเป็นยี่ห้อและขนาดเดียวกัน มิใช่ว่าจะเลือกซื้อสิ่งของใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่าอย่างไรก็ได้ เพราะจะเป็นการได้เปรียบและไม่เป็นธรรมแก่คู่กรณี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขายเมื่อสินค้าไม่เป็นไปตามสัญญา การซื้อสินค้าทดแทนต้องเป็นชนิดเดียวกัน
จำเลยที่1ทำสัญญาขายครุภัณฑ์ฝึกฝีมือให้แก่โจทก์ซึ่งมีฉากตายรวมอยู่ด้วยสัญญาข้อ8วรรคสองมีว่าถ้าจำเลยที่1(ผู้ขาย)ไม่ส่งมอบสิ่งของหรือส่งไม่ถูกต้องหรือส่งไม่ครบจำนวนตามสัญญาโจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และถ้าโจทก์ซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะส่วนที่ขาดส่งภายในกำหนด3เดือนนับแต่วันบอกเลิกสัญญาจำเลยที่ 1ยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญาเมื่อจำเลยที่1ผิดสัญญาโจทก์บอกเลิกสัญญาและสงวนสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่1ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ8วรรคสองต่อมาโจทก์ได้จัดซื้อฉากตายใหม่โดยทำสัญญาซื้อขายภายในกำหนดเวลาตามสัญญาข้อ8วรรคสองแล้วจำเลยที่1ก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นกรณีหาจำต้องรอให้การซื้อขายรายหลังมีการส่งมอบสิ่งของและชำระราคาที่ซื้อขายกันตามสัญญาเสียก่อนไม่แต่การจัดซื้อสิ่งของตามสัญญาข้อ8วรรคสองนั้นหมายถึงซื้อสิ่งของชนิดเดียวกันกับสิ่งของที่ทำสัญญาซื้อจากจำเลยที่1กล่าวคือต้องเป็นยี่ห้อและขนาดเดียวกันมิใช่ว่าจะเลือกซื้อสิ่งของใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่าอย่างไรก็ได้เพราะจะเป็นการได้เปรียบและไม่เป็นธรรมแก่คู่กรณี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3636/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่านาต้องทำตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด (พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517) มิเช่นนั้นการบอกเลิกไม่ชอบ
การเช่านาและการบอกเลิกการเช่านาพิพาทอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่านาพิพาทก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่านา โดยจำเลยรับทราบและไม่ประสงค์จะเช่านาพิพาทเช่นกัน จึงเป็นการแสดงเจตนาของทั้งสองฝ่ายว่า ผู้ให้เช่านากับผู้เช่านาตกลงเลิกการเช่านาพิพาท ซึ่งกรณีนี้มาตรา 31 (3) ของพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 ให้ทำเป็นหนังสือต่อหน้านายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย การเช่านาจึงจะสิ้นสุดลงก่อนกำหนดระยะเวลาเช่านา ดังนั้น เมื่อหนังสือบอกเลิกการเช่านาพิพาทไม่ได้ทำต่อหน้านายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายจึงไม่เป็นผลให้การเช่านาพิพาทสิ้นสุดลงก่อนกำหนดระยะเวลาเช่า การบอกเลิกสัญญาเช่าของโจทก์จึงไม่ชอบ
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 เป็นกฎหมายพิเศษ นอกเหนือกฎหมายธรรมดา จึงต้องบังคับตามกฎหมายพิเศษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3636/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่านาต้องทำตามเงื่อนไขพ.ร.บ.ควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 แม้ทั้งสองฝ่ายตกลงเลิกสัญญา
การเช่านาและการบอกเลิกการเช่านาพิพาทอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่านาพิพาทก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่านา โดยจำเลยรับทราบและไม่ประสงค์จะเช่านาพิพาทเช่นกัน จึงเป็นการแสดงเจตนาของทั้งสองฝ่ายว่า ผู้ให้เช่านากับผู้เช่านาตกลงเลิกการเช่านาพิพาท ซึ่งกรณีนี้มาตรา 31(3) ของพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ. 2517 ให้ทำเป็นหนังสือต่อหน้านายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย การเช่านาจึงจะสิ้นสุดลงก่อนกำหนดระยะเวลาเช่านา ดังนั้น เมื่อหนังสือบอกเลิกการเช่านาพิพาทไม่ได้ทำต่อหน้านายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายจึงไม่เป็นผลให้การเช่านาพิพาทสิ้นสุดลงก่อนกำหนดระยะเวลาเช่า การบอกเลิกสัญญาเช่าของโจทก์จึงไม่ชอบ
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 เป็นกฎหมายพิเศษ นอกเหนือกฎหมายธรรมดา จึงต้องบังคับตามกฎหมายพิเศษ
of 103