คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผลผูกพัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 804 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาเดิม: คดีกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านที่เคยพิพาทแล้วย่อมผูกพันคู่ความเดิม
โจทก์จำเลยได้พิพาทกันมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยโจทก์ได้ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ ว. ยกบ้านและที่ดินพิพาทให้แก่จำเลย ซึ่งในคดีนั้นจำเลยต่อสู้ว่าทรัพย์พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของ ค. และจำเลยศาลฎีกาพิพากษาว่าทรัพย์พิพาทเป็นของค. ซึ่งได้จดทะเบียนยกให้โจทก์และน้องแล้ว สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่าง ว. และจำเลยฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 ไม่มีผลผูกพันโจทก์ คำพิพากษาในคดีก่อนได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วว่าบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ จึงผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนแล้วด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาอาศัยร่วมและผลผูกพันตามสัญญา แม้ไม่จดทะเบียนก็มีผลบังคับใช้ได้
มารดาโจทก์จำเลยซื้อที่ดินและตึกพิพาทให้โจทก์ แต่ก่อนจดทะเบียนซื้อขายลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญากันไว้ว่าโจทก์ยอมให้จำเลยกับสามีได้อยู่อาศัยร่วมกับโจทก์ในที่ดินตลอดไปจนกว่าจำเลยไม่ต้องการจะอยู่อาศัย ทั้งนี้เพราะเป็นความประสงค์ของมารดาโจทก์จำเลย และเพราะจำเลยยินยอมให้โจทก์ลงชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกพิพาทคนเดียว สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนธรรมดาที่มีผลผูกพันกัน และแม้ไม่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ก็บังคับกันได้ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2526/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การมอบอำนาจไม่ชอบทำให้สัญญาไม่มีผลผูกพัน
การทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851 บัญญัติว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนให้ไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความจึงต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย
ตัวการมอบอำนาจโดยมิได้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือให้ตัวแทนไปตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความ แม้ในชั้นพิจารณาตัวการจะได้มาเบิกความว่าให้สัตยาบันรับรองการทำสัญญาดังกล่าวก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าตัวการปฏิเสธความรับผิดตลอดมา จึงถือไม่ได้ว่าตัวการได้ให้สัตยาบันสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว
จำเลยที่ 1 ขับรถชนรถของโจทก์โดยประมาท จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างได้มอบอำนาจ โดยมิได้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือให้จำเลยที่ 3 ไปเจรจาตกลงค่าเสียหายกับโจทก์และบันทึกไว้ตามเอกสารหมาย จ.3 แล้วมาเบิกความต่อศาลว่าให้สัตยาบันรับรองการทำสัญญา แม้จะฟังว่าเอกสารดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความแต่การมอบอำนาจไม่ชอบ และตามพฤติการณ์ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ให้สัตยาบัน ย่อมไม่ทำให้สัญญาประนีประนอมยอมความมีผล ความรับผิดในมูลละเมิดของจำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างยังไม่ระงับสิ้นไป โจทก์จึงยังมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันข้อตกลงการพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในเอกสารกู้ - โจทก์มีสิทธิเรียกร้องได้
โจทก์จำเลยตกลงให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในเอกสารกู้ที่โจทก์ส่งศาลแล้ว ผู้เชี่ยวชาญตรวจแล้วเห็นว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือจำเลย จำเลยต้องแพ้คดีตามคำท้า จะยกเหตุว่าโจทก์ส่งเอกสารไม่ถูกต้องขึ้นโต้แย้งอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการพิพากษาคดีอาญาฐานปลอมเอกสารมีผลผูกพันในคดีขับไล่ที่ดิน
คดีขับไล่จากที่ดินอ้างว่าจำเลยออก น.ส.3 ทับที่ดินของโจทก์ศาลได้พิพากษาในคดีอาญาฐานปลอมเอกสารที่โจทก์ฟ้องจำเลยแล้วว่าเอกสารในการออก น.ส.3 ไม่ปลอม ข้อนี้ผูกพันโจทก์ในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่งเกี่ยวเนื่อง และการชำระหนี้โดยการส่งมอบทรัพย์
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาฐานฉ้อโกง ศาลฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยซื้อหยกไปจากโจทก์ โจทก์ส่งมอบให้จำเลยแล้วจำเลยยังไม่ชำระราคา เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่ผิดฐานฉ้อโกง พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด โจทก์มาฟ้องทางแพ่งให้จำเลยชำระราคาหยก ในคดีอาญาดังกล่าวศาลได้ยกประเด็นว่าจำเลยซื้อหยกไปจากโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ขึ้นวินิจฉัยก่อน เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยซื้อหยกไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระราคา จึงวินิจฉัยต่อไปว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือไม่ ประเด็นว่าจำเลยซื้อหยกไปจากโจทก์ตามฟ้องหรือไม่จึงเป็นประเด็นโดยตรงที่ศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยในคดีอาญา ฉะนั้นในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาว่าจำเลยได้ซื้อหยกไปจริงและยังไม่ได้ชำระราคาให้โจทก์ตามฟ้อง
แม้ว่าการซื้อขายหยกจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่โจทก์มอบหยกให้จำเลยรับไปแล้ว ถือได้ว่ามีการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 แล้วจึงไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกราคาหยกจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1609/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทวงถามหนี้โดยการส่งหนังสือทางไปรษณีย์มีผลเมื่อถึงมือผู้รับ
หนังสือทวงถามให้ชำระเงินกู้ส่งทางไปรษณีย์มีผู้เซ็นรับมีผลเป็นการทวงถามตั้งแต่เวลาที่ไปถึง คือเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งถึงสถานที่อยู่ของผู้กู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1440/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาเดิมกับคู่ความที่ไม่ใช่โจทก์โดยตรง และการครอบครองปรปักษ์
โจทก์ฟ้องขอให้ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ จำเลยกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ แต่เมื่อศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้ววินิจฉัยว่าโจทก์มิใช่บุคคลภายนอกอันจะกล่าวอ้างพิสูจน์สิทธิใหม่ และพิพากษายกฟ้อง ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในข้อกฎหมาย อันทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 การอุทธรณ์คำสั่งนี้และฎีกาต่อมา จึงเป็นการอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 227 ตามบัญญัติไว้ในตาราง 1 ข้อ 2 ข. ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ต้องเสียค่าขึ้นศาล 50 บาท
สามีเคยให้ความยินยอมแก่ภริยาต่อสู้คดีกับจำเลย และให้ฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่พิพาทมาแล้ว คดีถึงที่สุด โดยศาลพิพากษาว่าภริยามีสิทธิรับมรดกที่ดินเท่าที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าที่พิพาทอยู่นอกพินัยกรรม สามีจะรื้อฟื้นมาฟ้องจำเลยอีกว่าที่พิพาทเป็นของสามี ได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ มิใช่ที่ดินของเจ้ามรดกผู้ทำพินัยกรรมหาได้ไม่ เพราะสามีต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกับภริยา คำพิพากษาคดีดังกล่าวย่อมผูกพันสามีด้วย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 699/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาเดิม: โจทก์ฟ้องซ้ำไม่ได้หากเคยถูกตัดสินแล้วว่าที่ดินพิพาทไม่อยู่ในโฉนด
จำเลยเคยยื่นคำร้องในคดีก่อนอ้างว่าที่พิพาทเป็นที่ดินในโฉนดของโจทก์ ซึ่งจำเลยได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปกปักษ์ขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านว่าจำเลยมิได้ครอบครองรุกล้ำเข้ามาในที่ดินโฉนดของโจทก์ ความจริงจำเลยเข้าไปอาศัยและทำนาโดยอาศัยสิทธิการเช่าของบุคคลอื่นที่เช่าที่ดินไปจากโจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดว่าจำเลยมิได้ครอบครองรุกล้ำเข้าไปในเขตโฉนดของโจทก์ โดยต่างคนต่างครอบครองตามแนวเขตที่ดินของตนไม่ปรปักษ์กัน ดังนี้ คำพิพากษาคดีก่อนจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์จึงต้องผูกพันในคำพิพากษานั้นว่า ที่พิพาทไม่ได้อยู่ในเขตโฉนดของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 การที่โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีหลังและนำสืบว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายจึงรับฟังไม่ได้
แม้ศาลจะพิพากษายกฟ้อง แต่เมื่อคำพิพากษาวินิจฉัยมีผลกระทบกระเทือนถึงสิทธิของจำเลย จำเลยย่อมอุทธรณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการเสนอสัญญาใหม่: สิทธิและผลผูกพัน
โจทก์จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต่อมาโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาและจำเลยได้มีหนังสือตอบรับการบอกเลิกสัญญาดังกล่าว เมื่อมีการบอกเลิกสัญญา โจทก์จำเลยก็กลับคืนสู่ฐานะเดิม ดังนั้น การกระทำใด ๆ ของโจทก์จำเลยเกี่ยวกับสัญญานี้ในเวลาต่อมา จึงเป็นเพียงคำเสนอขึ้นใหม่ เมื่อไม่มีการสนองตอบ ย่อมไม่ก่อให้เกิดผลแต่อย่างใด
of 81