คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลูกหนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 829 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมและลูกหนี้ตามคำพิพากษา: สิทธิในการร้องขอปล่อยจากการยึด และข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดิน
เมื่อจำเลยและผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินพิพาทที่โจทก์นำยึด โดยจำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยจากการยึด จะร้องขอให้ปล่อยได้ก็แต่เฉพาะกรณีที่กล่าวอ้างว่าจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ถูกยึด
การที่พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 28 วรรคแรก บัญญัติว่าภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินตามมาตรา 25 ใช้บังคับ ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายด้วยประการใด ๆ หรือก่อให้เกิดภาระติดพันใด ๆ ซึ่งที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากคณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายนั้นมิได้เป็นการห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด หากแต่มีการผ่อนคลายไว้ว่าถ้าได้รับอนุญาตก็ทำการจำหน่ายได้ ทั้งพระราชบัญญัติดังกล่าวก็มิได้บัญญัติว่าที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี โจทก์จึงมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทมาขายทอดตลาดเพื่อเอาชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมและลูกหนี้ตามคำพิพากษา การยึดทรัพย์ในเขตปฏิรูปที่ดิน
เมื่อจำเลยและผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินพิพาทที่โจทก์นำยึด โดยจำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยจากการยึด จะร้องขอให้ปล่อยได้ก็แต่เฉพาะกรณีที่กล่าวอ้างว่าจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ถูกยึด
การที่พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518มาตรา 28 วรรคแรก บัญญัติว่าภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินตามมาตรา 25 ใช้บังคับ ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายด้วยประการใด ๆ หรือก่อให้เกิดภาระติดพันใด ๆ ซึ่งที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากคณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายนั้น. มิได้เป็นการห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาดหากแต่มีการผ่อนคลายไว้ว่าถ้าได้รับอนุญาตก็ทำการจำหน่ายได้ ทั้งพระราชบัญญัติดังกล่าวก็มิได้บัญญัติว่าที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี โจทก์จึงมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทมาขายทอดตลาดเพื่อเอาชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาจ่ายค่าเลี้ยงชีพลูกหนี้ในคดีล้มละลาย ต้องพิจารณาฐานะปัจจุบันของลูกหนี้และครอบครัว
การจ่ายค่าเลี้ยงชีพลูกหนี้และครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูปตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 121 นั้น เจ้าพนักงานพิทักษืทรัพย์จะต้องพิจารณาถึงฐานะความเป็นอยู่ของลูกหนี้และครอบครัวในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร สมควรจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้ได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใด ซึ่งธรรมดาย่อมทราบได้จากการสอบสวนหรือไต่สวนลูกหนี้เจ้าหนี้โดยตรง ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งจ่ายค่าเลี้ยงชีพไปโดยสั่งในคำร้องของลูกหนี้ที่ขอให้จ่ายค่าเลี้ยงชีพนั้นเอง ไม่ได้พิจารณาถึงฐานะความเป็นอยู่ของลูกหนี้และครอบครัวในปัจจุบันแต่อย่างใด จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ ศาลย่อมให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณาสั่งจ่ายค่างเลี้ยงชีพลูกหนี้ และครอบครัวเสียใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายค่าเลี้ยงชีพลูกหนี้ในคดีล้มละลาย ต้องพิจารณาฐานะความเป็นอยู่ปัจจุบันของลูกหนี้และครอบครัว
การจ่ายค่าเลี้ยงชีพลูกหนี้และครอบครัวตามสมควรแก่ฐานานุรูปตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 121 นั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องพิจารณาถึงฐานะความเป็นอยู่ของลูกหนี้และครอบครัวในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร สมควรจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้ได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใด ซึ่งธรรมดาย่อมทราบได้จากการสอบสวนหรือไต่สวนลูกหนี้เจ้าหนี้โดยตรงดังนั้น การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งจ่ายค่าเลี้ยงชีพไป โดยสั่งในคำร้องของลูกหนี้ที่ขอให้จ่ายค่าเลี้ยงชีพนั้นเอง ไม่ได้พิจารณาถึงฐานะความเป็นอยู่ของลูกหนี้และครอบครัวในปัจจุบันแต่อย่างใด จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบศาลย่อมให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณาสั่งจ่ายค่าเลี้ยงชีพลูกหนี้และครอบครัวเสียใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้ใหม่โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ศาลพิจารณาเจตนาแท้จริงจากการกระทำและเอกสารประกอบคดี
จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้ค่ากระแสไฟฟ้าจำเลยที่ 2 ทำหนังสือตกลงรับชำระหนี้รายนี้และใช้หนี้นั้นไป 3 งวด และขอลดอัตราดอกเบี้ยเป็นการกระทำภายในวัตถุประสงค์ที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดรับโอนกิจการของจำเลยที่ 1 มาทำ จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดโดยการ แปลงหนี้ใหม่ ซึ่งศาลตีความในเอกสารประกอบพฤติการณ์แห่งคดีทั้งมวลโดยเพ่งเล็งเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าตัวอักษร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีถึงที่สุดและการเป็นลูกหนี้ตามประมวลรัษฎากร การไม่อุทธรณ์ทำให้การประเมินมีผลผูกพัน
การที่จำเลยได้รับแจ้งการประเมินภาษีจากกรมสรรพากรแล้ว แต่มิได้ยื่นอุทธรณ์การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา 30 แห่งประมวลรัษฎากร นั้น จำเลยจะมายกขึ้นต่อสู้ในคดีที่ถูกกรมสรรพากรเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ล้มละลายเพราะเป็นหนี้ค่าภาษีดังกล่าวว่าการประเมินของเจ้าพนักงานไม่ชอบ เพราะเงินรายรับไม่ใช่ของจำเลยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักกลบลบหนี้ตามบัญชีธนาคารและการแจ้งยอดหนี้ที่ลูกหนี้ไม่โต้แย้ง ถือเป็นการคิดบัญชีที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ธนาคารคิดดอกเบี้ยลงยอดเงินหักกลบลบหนี้เดือนละครั้งตามประเพณีของธนาคาร แล้วแจ้งให้ลูกหนี้ทราบ ลูกหนี้ไม่โต้แย้งอย่างใดถือว่ามีการหักทอนบัญชีกัน ไม่ขัดต่อมาตรา856 ไม่ต้องให้เจ้าหนี้ลูกหนี้ร่วมตรวจสอบคิดบัญชีกันอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของลูกหนี้จากการค้ำประกันและการประเมินราคาที่ดินที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง
โจทก์ซื้อเชื่อปุ๋ยจาก ก. มาขายแก่จำเลยที่ 1 โจทก์ขอให้ธนาคารจำเลยที่ 2 ค้ำประกันโจทก์ต่อ ก. จำเลยที่ 1 จำนองที่ดินแก่ธนาคารประกันหนี้ของโจทก์และของจำเลยที่ 1 เองต่อธนาคาร โจทก์ไม่ใช้ราคาปุ๋ยแก่ ก. ธนาคารใช้เงินแก่ ก.ไป 800,000บาทตามวงเงินที่ค้ำประกัน ดังนี้ โจทก์ต้องใช้เงินนี้แก่ธนาคาร ที่ดินที่จำเลยที่ 1 จำนองราคาจริง 120,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารประเมินไว้ 2 ล้านบาท โจทก์สืบรู้เอง ไม่ใช่ธนาคารแจ้งแก่โจทก์โจทก์อ้างว่าเสียหายเพราะเข้าใจราคาที่ดินที่จำนองผิด จึงให้ธนาคารค้ำประกันโจทก์ไม่ได้ แม้คนของธนาคารทุจริตโจทก์ ก็ไม่พ้นความรับผิดต่อธนาคาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินมีฐานะเป็นลูกหนี้ชั้นต้น อายุความสะดุดหยุดเมื่อมีการผ่อนชำระ
การที่ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินยอมผ่อนเวลาให้กับผู้ออกตั๋วนั้นไม่เป็นเหตุให้ผู้รับอาวัลหลุดพ้นจากความรับผิด เพราะผู้รับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกันกับบุคคลซึ่งตนประกันจึงอยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ชั้นต้นเช่นเดียวกับผู้ออกตั๋ว และไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ค้ำประกันตามหลักทั่วไปในเรื่องค้ำประกัน
ผู้รับอาวัลสั่งจ่ายเช็คจำนวนหนึ่งผ่อนชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรงตั๋วสัญญาใช้เงินเป็นการรับสภาพหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น และย่อมเป็นเหตุให้อายุความสดุดหยุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เพิกถอนจำนองที่ดิน: เจ้าหนี้ซื้อที่ดินจากลูกหนี้ แล้วลูกหนี้จำนองที่ดินนั้นให้ผู้อื่น โดยผู้รับจำนองทราบถึงการเสียเปรียบของเจ้าหนี้
จำเลยที่ 1 จัดสรรที่ดิน โจทก์ซื้อที่ดินแปลงหนึ่งไว้จึงอยู่ในฐานะเจ้าหนี้ที่จะเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขาย เมื่อจำเลยที่ 1 เอาที่ดินแปลงที่ขายให้โจทก์ไปจำนองแก่จำเลยที่ 2 ทั้งที่รู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ และจำเลยที่ 2 รับจำนองที่ดินไว้โดยทราบแล้วว่าจำเลยที่ 1 จัดสรรขายให้บุคคลอื่นไปแล้ว ซึ่งเป็นการรู้ถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบนั้นด้วย โจทก์จึงชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนเสียได้ซึ่งนิติกรรมจำนองดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237
ก่อนครบหนึ่งปีนับแต่วันที่โจทก์ทราบถึงการจำนอง ได้มีคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติให้อายัดที่ดินของจำเลยที่ 1 และให้ตกเป็นของรัฐ แต่ให้โจทก์มีสิทธิยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่แสดงสิทธิในที่ดินของโจทก์ได้ เมื่อโจทก์ได้ยื่นเอกสารแสดงสิทธิของโจทก์แล้ว ย่อมถือเสมือนหนึ่งว่าโจทก์ทำการอื่นใดอันนับว่ามีผลเป็นอย่างเดียวกับการฟ้องคดี อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173
of 83