พบผลลัพธ์ทั้งหมด 709 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1807/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทนายรับเงินแทนความมีหน้าที่ส่งคืน แม้จะอ้างงานอื่น หากมิได้ทำงานตามสัญญาไม่มีสิทธิรับค่าจ้าง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้รับเงินราคาที่ดินของโจทก์มาแม้ข้อเท็จจริงจะฟังว่าจำเลยได้รับเงินของโจทก์มานั้นเป็นเงินค่าสละสิทธิไม่ซื้อที่ดินคืน ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ทนายความรับเงินมาในฐานะแทนตัวความ มีหน้าที่ต้องมอบเงินคืนแก่ตัวความ
โจทก์ตกลงให้จำเลยซึ่งเป็นทนายซื้อที่ดินคืน ในคดีที่โจทก์ฟ้องบุคคลอื่นเป็นจำเลย แล้วให้จำเลยขายที่ดินนั้นต่อไป แต่จำเลยกลับตกลงกับบุคคลอื่นนั้น โดยจำเลยสละสิทธิไม่ซื้อที่ดินคืนและรับเงินค่าสละสิทธิมา ถือว่าจำเลยมิได้ทำงานตามที่จ้าง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง
ทนายความรับเงินมาในฐานะแทนตัวความ มีหน้าที่ต้องมอบเงินคืนแก่ตัวความ
โจทก์ตกลงให้จำเลยซึ่งเป็นทนายซื้อที่ดินคืน ในคดีที่โจทก์ฟ้องบุคคลอื่นเป็นจำเลย แล้วให้จำเลยขายที่ดินนั้นต่อไป แต่จำเลยกลับตกลงกับบุคคลอื่นนั้น โดยจำเลยสละสิทธิไม่ซื้อที่ดินคืนและรับเงินค่าสละสิทธิมา ถือว่าจำเลยมิได้ทำงานตามที่จ้าง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ชำระหนี้จากการกู้ยืม - อำนาจการให้กู้เป็นเรื่องภายในของบริษัท
เมื่อจำเลยกู้เงินของบริษัทโจทก์ไป ถึงกำหนดชำระคืนก็มีหน้าที่ต้องใช้เงินให้ จะโต้เถียงอำนาจของผู้ให้กู้ไม่ได้
การที่บริษัทจำกัดใดจะมีอำนาจให้จำเลยกู้ได้หรือไม่เป็นเรื่องของทางราชการจะว่ากล่าว ไม่เกี่ยวกับผู้กู้เงินไปจากบริษัท
การที่บริษัทจำกัดใดจะมีอำนาจให้จำเลยกู้ได้หรือไม่เป็นเรื่องของทางราชการจะว่ากล่าว ไม่เกี่ยวกับผู้กู้เงินไปจากบริษัท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711-1714/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่า ผู้โอนต้องพิสูจน์สิทธิหากอ้างสิทธิภายหลัง
ผู้รับโอนตึกแถวย่อมได้รับทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนรวมทั้งการเช่าระหว่างผู้โอนและผู้เช่าเดิมด้วย
ผู้โอนอ้างว่าตนกลับมีสิทธิในตึกนั้นใหม่อีก ก็ต้องนำสืบแสดงตามที่อ้าง.
ผู้โอนอ้างว่าตนกลับมีสิทธิในตึกนั้นใหม่อีก ก็ต้องนำสืบแสดงตามที่อ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1432/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความและเสนอข่าวตามหน้าที่ ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท แม้จะทำให้เสียชื่อเสียง
การที่จำเลยกล่าวต่อโจทก์ด้วยความเชื่อ ว่าโจทก์จ้างคนจะมาฆ่าจำเลย แล้วจำเลยไปแจ้งความต่อตำรวจขอความคุ้มครองดั่งนี้ การกระทำของจำเลยไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท
การพิมพ์โฆษณาเสนอข่าวไปตามธรรมดาโดยได้ข่าวมาจากที่มีผู้ไปแจ้งความต่อสถานีตำรวจ และการเสนอข่าวมิได้จงใจจะใส่ร้ายดั่งนี้ ย่อมไม่เป็นผิดฐานประมาทเช่นกัน
คดีหมิ่นประมาทที่โจทก์อ้างว่า การกระทำของจำเลยอาจทำให้คนดูหมิ่นเกลียดชังโจทก์นั้น เมื่อศาลชั้นต้นมิได้ยืนยันว่ามีพฤติการณ์ขึ้นดังนั้น ถือได้ว่าโจทก์อ้างข้อกฎหมายโดยปราศจากข้อเท็จจริงสนับสนุน
การพิมพ์โฆษณาเสนอข่าวไปตามธรรมดาโดยได้ข่าวมาจากที่มีผู้ไปแจ้งความต่อสถานีตำรวจ และการเสนอข่าวมิได้จงใจจะใส่ร้ายดั่งนี้ ย่อมไม่เป็นผิดฐานประมาทเช่นกัน
คดีหมิ่นประมาทที่โจทก์อ้างว่า การกระทำของจำเลยอาจทำให้คนดูหมิ่นเกลียดชังโจทก์นั้น เมื่อศาลชั้นต้นมิได้ยืนยันว่ามีพฤติการณ์ขึ้นดังนั้น ถือได้ว่าโจทก์อ้างข้อกฎหมายโดยปราศจากข้อเท็จจริงสนับสนุน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1405/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่โจทก์ขอหมายเรียกพยาน การตัดพยานที่ไม่มาศาลโดยไม่ใช่ความผิดโจทก์
โจทก์ขอหมายเรียกพยานทุกนัด พยานบางคนไม่มาศาลไม่แจ้งเหตุขัดข้อง บางคนเซ็นทราบวันนัดไว้ที่ศาลแล้วก็ยังไม่มาศาล ที่พยานไม่มาศาลเช่นนี้ไม่ใช่ความผิดของโจทก์ การที่พยานขัดหมายศาลเช่นว่านี้ ศาลอาจใช้อำนาจออกหมายจับพยานก็ได้ การที่ศาลไม่ใช้อำนาจออกหมายจับเอง จะว่าเป็นความผิดของโจทก์ไม่ได้ และจะว่าโจทก์ประวิงคดีให้ล่าช้าก็ไม่ได้ ในกรณีเช่นนี้ ศาลจะตัดพยานโจทก์เสียไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286-1288/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่ทุจริตยักยอกเงินผลประโยชน์ของรัฐ การรับเงินจากผู้ขอรับบริการเป็นหน้าที่นำส่งไม่ใช่การฝากส่วนตัว
จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมตำรวจ ตำแหน่ง เสมียนยานพาหนะมีหน้าที่รับเงินจากผู้ยื่นคำร้องหรือเงินเสียภาษี จำเลยจะรับไว้จากสถานที่ใด (แม้ที่บ้านของจำเลยเองก็เป็นเงินผลประโยชน์ของรัฐ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องนำส่ง กรมตำรวจจึงเป็นผู้เสียหาย หาใช่เป็นการมอบฝากกันเป็นส่วนตัวไม่ เพราะถ้าจำเลยไม่ใช่เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะบุคคลผู้เกี่ยวข้องก็จะไม่มอบส่งเงินให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286-1288/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่รับเงินของประชาชนแล้วยักยอก เป็นความผิดต่อรัฐ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมตำรวจ ตำแหน่งเสมียนยานพาหนะมีหน้าที่รับเงินจากผู้ยื่นคำร้องหรือเงินเสียภาษี จำเลยจะรับไว้จากสถานที่ใด (แม้ที่บ้านของจำเลยเอง) ก็เป็นเงินผลประโยชน์ของรัฐ ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องนำส่งกรมตำรวจจึงเป็นผู้เสียหาย หาใช่เป็นการมอบฝากกันเป็นส่วนตัวไม่ เพราะถ้าจำเลยไม่ใช่เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะบุคคลผู้เกี่ยวข้องก็จะไม่มอบส่งเงินให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ซื้อขายสินค้าไม่ตรงตามสภาพ/จำนวน - การนำสืบหลักฐาน/การชำระราคา - หน้าที่ของผู้ซื้อ/ผู้ขาย
สัญญาซื้อขายแว่นตาระบุลักษณะของแว่นตาไว้และมีข้อความกล่าวถึงกรณีที่สินค้าส่งมาไม่เหมือนตัวอย่าง หรือลักษณะที่ตกลงกันไว้อีกด้วย คู่ความจึงนำสืบพยานบุคคลตีความในสัญญานั้นได้ ว่าก่อนทำสัญญาได้ดูตัวอย่างเป็นที่พอใจแล้ว จึงให้สั่งแว่นตานั้นมาอันเป็นสัญญาซื้อขายตามตัวอย่าง ไม่ใช่ซื้อตามคำพรรณนา
การเรียกให้ผู้ขายรับของที่ส่งมอบไม่ตรงตามตัวอย่างคืนและหักเงินที่ชำระราคาล่วงหน้าไปแล้วผู้ซื้อฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบ คดีขาดอายุความ
จำเลยให้การและฟ้องแย้งให้โจทก์รับของที่โจทก์ส่งมอบไม่ตรงตามตัวอย่างคืนทั้ง 5 งวด และหักเงินราคาให้จำเลยแต่ได้ความว่าคดีของจำเลยขาดอายุความเสีย 4 งวดจำเลยสืบพยานถึงจำนวนของแต่ละงวดโดยประมาณ ซึ่งรับฟังไม่ได้ศาลให้จำเลยแถลงเพิ่มเติมว่าจำนวนและราคาแน่นอนเท่าใดเมื่อเสร็จสำนวนแล้ว คำแถลงนี้รับฟังไม่ได้
การเรียกให้ผู้ขายรับของที่ส่งมอบไม่ตรงตามตัวอย่างคืนและหักเงินที่ชำระราคาล่วงหน้าไปแล้วผู้ซื้อฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบ คดีขาดอายุความ
จำเลยให้การและฟ้องแย้งให้โจทก์รับของที่โจทก์ส่งมอบไม่ตรงตามตัวอย่างคืนทั้ง 5 งวด และหักเงินราคาให้จำเลยแต่ได้ความว่าคดีของจำเลยขาดอายุความเสีย 4 งวดจำเลยสืบพยานถึงจำนวนของแต่ละงวดโดยประมาณ ซึ่งรับฟังไม่ได้ศาลให้จำเลยแถลงเพิ่มเติมว่าจำนวนและราคาแน่นอนเท่าใดเมื่อเสร็จสำนวนแล้ว คำแถลงนี้รับฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสอบสวนผู้ต้องหา, การแจ้งข้อหา, และความผิดของเจ้าพนักงาน, รวมถึงการกระทำหน้าที่พ้นตำแหน่ง
ป.วิ.อาญา ม.134 ที่บัญญัติให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทราบก่อนทำการสอบสวน หมายความว่า กฎหมายต้องการให้ผู้ต้องหารู้ตัวก่อนสอบสวนว่าตนต้องถูกสอบสวนเรื่องอันใดเป็นประธานที่ต้องทำการสอบสวน มิได้หมายความว่าจะต้องแจ้งทุก ๆ กะทงความผิดแม้เดิมจะตั้งข้อหาฐานหนึ่ง แต่เมื่อสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นความผิดฐานอื่นด้วย ก็เรียกว่าได้มีการสอบสวนในความผิดนั้นด้วยแล้ว
เดิมพยานโจทก์ถูกสอบสวนในฐานผู้ต้องหา ต่อมาอัยการผู้สอบสวนพูดว่าจะให้การตามความจริงได้ไหม ถ้าให้การตามความจริงจะเอาเป็นพยาน ๆ โจทก์ปากนี้เกรงว่าจะตกเป็นผู้ต้องหาจึงให้การใหม่ และกลับให้การใหม่เปลี่ยนข้อเท็จจริงโยนบรรดาการกระทำผิดทั้งหลายที่ให้การไว้เดิมอันเป็นข้อพิรุธของตนนั้นให้เป็นการกระทำของจำเลยโดยสิ้นเชิง เช่นนี้เป็นการไม่ชอบด้วยวิธีการสอบสวนตาม ป.วิ.อาญา ม.133
จำเลยเป็นอัยการแต่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับคดี แม้จะฟังว่าจำเลยเป็นผู้บอกให้พยานกลับ เมื่อพยานนั้นเป็นพยานที่ศาลหมายเรียกมา ไม่ใช่อัยการนำไปให้ศาลสืบ ดังนั้นการที่จะให้พยานรอเพื่อเบิกความหรือให้กลับย่อมเป็นเรื่องของศาล ทั้งได้ความจากพยานโจทก์ว่าการบอกให้พยานกลับไม่จำเป็นต้องเฉพาะอัยการเป็นผู้บอกทั้งไม่ได้ความว่าจำเลยแสดงต่อพยานนั้นว่าจำเลยเป็นอัยการคงทำหน้าที่นั้นอยู่ ดังนี้จึงเรียกไม่ได้ว่าจำเลยยังขืนกระทำการตามตำแหน่งหน้าที่อัยการอันเป็นความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.127 วรรค 2.
เดิมพยานโจทก์ถูกสอบสวนในฐานผู้ต้องหา ต่อมาอัยการผู้สอบสวนพูดว่าจะให้การตามความจริงได้ไหม ถ้าให้การตามความจริงจะเอาเป็นพยาน ๆ โจทก์ปากนี้เกรงว่าจะตกเป็นผู้ต้องหาจึงให้การใหม่ และกลับให้การใหม่เปลี่ยนข้อเท็จจริงโยนบรรดาการกระทำผิดทั้งหลายที่ให้การไว้เดิมอันเป็นข้อพิรุธของตนนั้นให้เป็นการกระทำของจำเลยโดยสิ้นเชิง เช่นนี้เป็นการไม่ชอบด้วยวิธีการสอบสวนตาม ป.วิ.อาญา ม.133
จำเลยเป็นอัยการแต่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับคดี แม้จะฟังว่าจำเลยเป็นผู้บอกให้พยานกลับ เมื่อพยานนั้นเป็นพยานที่ศาลหมายเรียกมา ไม่ใช่อัยการนำไปให้ศาลสืบ ดังนั้นการที่จะให้พยานรอเพื่อเบิกความหรือให้กลับย่อมเป็นเรื่องของศาล ทั้งได้ความจากพยานโจทก์ว่าการบอกให้พยานกลับไม่จำเป็นต้องเฉพาะอัยการเป็นผู้บอกทั้งไม่ได้ความว่าจำเลยแสดงต่อพยานนั้นว่าจำเลยเป็นอัยการคงทำหน้าที่นั้นอยู่ ดังนี้จึงเรียกไม่ได้ว่าจำเลยยังขืนกระทำการตามตำแหน่งหน้าที่อัยการอันเป็นความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.127 วรรค 2.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินผลประโยชน์ในฐานะผู้ช่วยสมุหบัญชีถือเป็นการรับเงินในทางราชการ แม้ไม่มีหน้าที่โดยตรง
ผู้ช่วยสมุหบัญชีแม้จะไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับเงินผลประโยชน์ที่มีผู้ส่งมาก็ดี แต่เมื่อรับเงินในระหว่างที่รักษาการในตกแหน่งสมุหบัญชี หรือระหว่างปฏิบัติการรับเงินแทนสมุหบัญชี เช่นนี้ย่อมถือได้ว่ารับเงินไว้โดยหน้าที่
การที่ผู้ช่วยสมุหบัญชีลงชื่อรับเงินในฐานะสมุหบัญชีแล้วเสนอนายตำรวจลงชื่อในฐานะแทนผู้กำกับการเช่นนี้ย่อมเป็นการรับเงินในทางราชการนั่นเอง หาใช่ส่วนตัวไม่
การที่ผู้ช่วยสมุหบัญชีลงชื่อรับเงินในฐานะสมุหบัญชีแล้วเสนอนายตำรวจลงชื่อในฐานะแทนผู้กำกับการเช่นนี้ย่อมเป็นการรับเงินในทางราชการนั่นเอง หาใช่ส่วนตัวไม่