พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,022 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทชกต่อยและใช้อาวุธปืนยิงต่อเนื่อง ถือเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อนตามกฎหมายอาญา
จำเลยมีเรื่องวิวาทชกต่อยกับผู้เสียหายที่ร่วมโต๊ะรับประทานอาหาร ด้วยกัน มีผู้ห้าม แล้วจำเลยกลับไปเอาอาวุธปืนย้อนกลับมายิงกราด ผู้เสียหายผู้ตายกับพวกหลังจากนั้นประมาณ 10 นาที จำเลยมีเวลาพอ ที่จะได้สติคิดพิจารณาไตร่ตรองแล้ว จึงเป็นการกระทำโดยมีการ ไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประมาทเลินเล่อจากการใช้อาวุธปืน เสี่ยงต่ออันตราย และการแก้ไขโทษตามมาตรา 78
จำเลยถืออาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนไว้แล้วจ่อไปทาง ส.เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เป็นการเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้น มิใช่วิสัยที่ปกติชนจะพึงกระทำ เมื่อ ส. ตกใจใช้มือปัดเป็นเหตุให้อาวุธปืนลั่น กระสุนปืนถูก ส. บาดเจ็บสาหัส การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสแม้ข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องเป็นการกระทำผิดโดยเจตนาขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาเป็นเรื่องประมาทซึ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 บัญญัติมิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญทั้งจำเลยไม่หลงต่อสู้ดังนี้ ศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความรับผิดชอบหลังการช่วยเหลือผู้กระทำผิด
อาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธประจำตัวของพลตำรวจ ธ. ที่จะนำติดตัวไปได้โดยชอบ การที่จำเลยสะพายปืนดังกล่าวซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่พลตำรวจ ธ. เป็นผู้ขับไปด้วยกัน น่าจะเป็นไปเพื่อความสะดวกต่อการขับขี่รถจักรยานยนต์ จำเลยเป็นเพียงถือไว้แทนเท่านั้น การครอบครองอาวุธปืน ยังคงอยู่กับพลตำรวจ ธ. ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีส่วนร่วมกับการมีอาวุธปืนอันจะเป็นความผิดในช่วงนี้ แต่มีข้อเท็จจริงต่อมาว่า หลังจากเกิดเหตุไปกรรโชกผู้เสียหาย แล้ว ระหว่างจำเลยและพลตำรวจ ธ. หลบหนีจำเลยได้รับฝากอาวุธปืนของกลางซุกซ่อนไว้ในบ้านของตนจนเจ้าพนักงานติดตามยึดคืนมาได้ พฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลยในตอนหลัง ถือได้ว่าจำเลยมามีส่วนกับการครอบครองอาวุธปืนดังกล่าว โดยไม่ชอบ อันเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่: พฤติการณ์ไม่ใช่การถือวิสาสะ
จำเลยกับพวกอีก 1 คนเข้าไปนอนเล่นในบ้านผู้เสียหายซึ่งเป็น พี่เขยของจำเลยอยู่ก่อน แล้วจำเลยจึงขึ้นไปบนบ้านหยิบเอาวิทยุเทปของผู้เสียหายไป ป. บุตรชายของผู้เสียหายห้าม จำเลยกลับชักอาวุธปืนออกมาเป็นทำนองขู่บังคับมิให้ขัดขวาง พฤติการณ์ที่จำเลยเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยใช้อาวุธปืนขู่บังคับนั้นหาใช่การถือวิสาสะไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขกฎหมายอาญาหลังกระทำผิดและผลกระทบต่อโทษจำคุก: กรณีจำเลยกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปืน
ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานมีและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อลดโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกตลอดชีวิต จำคุก 8 เดือน และจำคุก 4 เดือนตามลำดับ เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก 50 ปีตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมจำคุก 51 ปี แต่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ออกใช้บังคับ อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดและเป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด ซึ่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดไม่ว่าในทางใด จึงลงโทษจำคุกจำเลย 50 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ที่แก้ไขใหม่หมายเหตุ โปรดดูฎีกาที่ 3703/2526 ซึ่งวินิจฉัยแตกต่างกับฎีกาฉบับนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3045/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กำลังป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุของเจ้าพนักงาน การใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้ที่ไม่มีอาวุธ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่จับกุม พ. เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน ระหว่างทางผู้เสียหายกับพวกรุมทำร้าย พ. ครั้นจำเลยห้ามปรามผู้เสียหายกลับชกจำเลยล้มลง จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 1 นัด ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เมื่อฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายมีอาวุธ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย นับได้ว่าเป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพกพาอาวุธปืนโดยไม่จำเป็นเร่งด่วน แม้เก็บไว้ในรถ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าถือว่าพกพาอาวุธ
จำเลยเก็บปืนและเงิน 70,000 บาท ไว้ในลิ้นชักรถ เมื่อจำเลยนั่งรถไปด้วย ถือได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไป และการที่จำเลยขับรถไปส่งผู้เสียหายกับพวกแล้วพากันไปนั่งดื่มสุราและเบียร์ โดยทิ้งเงินไว้ในรถซึ่งจอดอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ 5 - 6 วา แสดงว่าจำเลยมิได้ห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน การที่จำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปจึงถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุจำเป็นและความรับผิดชอบต่อทรัพย์สิน
จำเลยเก็บปืนและเงิน 70,000 บาท ไว้ในลิ้นชักรถ เมื่อจำเลยนั่งรถไปด้วย ถือได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไป และการที่จำเลยขับรถไปส่งผู้เสียหายกับพวกแล้วพากันไปนั่งดื่มสุราและเบียร์ โดยทิ้งเงินไว้ในรถซึ่งจอดอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ 5-6 วา แสดงว่าจำเลยมิได้ห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน การที่จำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปจึงถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2925/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อถูกทำร้ายและถูกไล่ติดตามด้วยอาวุธปืน
ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุชกต่อยและยิงจำเลยก่อน จำเลยวิ่งหนีก็ยังติดตามจะใช้อาวุธปืนยิงอีก การที่จำเลยหันกลับมายิงผู้ตายในขณะนั้นถือได้ว่าเป็นการป้องกันสิทธิของตนพอสมควรแก่เหตุ ซึ่งเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายจำเลยไม่มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาวุธปืน: การมีอาวุธและเครื่องกระสุนที่ผิดกฎหมาย และพาอาวุธติดตัว
จำเลยมีอาวุธปืนพกชนิดประกอบขึ้นใช้กับกระสุนปืนขนาด .223 โดยเฉพาะและกระสุนปืน 1 นัด ขนาด .223 ซึ่งบรรจุอยู่ในอาวุธปืนนั้น แม้จะฟังได้ว่ากระสุนปืนนั้นเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวง ส่วนอาวุธปืนตามฟ้องและทางพิจารณาของโจทก์ไม่ปรากฏว่าเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้หรือไม่ ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเจตนาของจำเลยในการมีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้น เป็นการมีไว้เพื่อประสงค์อันเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท