คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนาฆ่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 771 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า vs. ผลแห่งการกระทำ: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าเมื่อพลาดเป้าหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนยิงนายทองหล่อเขียนกันให้ถึงแก่ความตาย แต่นายทองหล่อรู้ตัวและหลบบังนายรอดหรือบุญรอด หุ่นเสือ กระสุนปืนจึงพลาดไปถูกนายรอดถึงแก่ความตาย แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่า จำเลยมิได้เจตนาฆ่านายทองหล่อ หากเจตนาฆ่านายรอด กระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงก็ถูกนายรอดถึงแก่ความตายจำเลยมีความผิดฐานฆ่านายรอดหรือบุญรอด หุ่นเสือ ตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
กรณีเช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง อันเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและป้องกันตัว: ศาลลดโทษจำเลยจากคำรับสารภาพ แม้ต่อสู้ว่าทำเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288 ให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต. ส่วนมีดของกลางไม่ริบ.โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์. ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245. ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามศาลชั้นต้น. แต่พิพากษาแก้ให้ริบมีดของกลางด้วย. ดังนี้ ไม่ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 คดียังไม่ถึงที่สุด. ฎีกาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การทำร้ายด้วยอาวุธมีดต่อเนื่อง แม้บาดเจ็บสาหัส แต่ยังฟังไม่ได้ว่ามีเจตนาฆ่า
แม้อาวุธที่จำเลยใช้จะเป็นมีดพร้าขอขนาดใหญ่และตัวมีดยาว 45 เซนติเมตรก็ตาม แต่จำเลยก็ได้ฟันผู้เสียหายตามโอกาสที่จะอำนวย คือขณะผู้เสียหายก้มอยู่ จำเลยก็ฟันที่กลางหลังเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีได้ 2 ก้าว จำเลยก็ฟันถูกต้นคอ เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีต่อไป จำเลยยังวิ่งไล่กวดจะฟันผู้เสียหายซ้ำอีก บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็รักษาหายในระยะเวลา 2 เดือน เพียงเท่านี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การทำร้ายด้วยอาวุธมีด แม้บาดเจ็บสาหัส แต่ยังฟังไม่ได้ว่ามีเจตนาฆ่า
แม้อาวุธที่จำเลยใช้จะเป็นมีดพร้าขอขนาดใหญ่และตัวมีดยาว 45 เซนติเมตรก็ตามแต่จำเลยก็ได้ฟันผู้เสียหายตามโอกาสที่จะอำนวย คือขณะผู้เสียหายก้มอยู่ จำเลยก็ฟันที่กลางหลังเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีได้ 2 ก้าว จำเลยก็ฟันถูกต้นคอเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีต่อไป จำเลยยังวิ่งไล่กวดจะฟันผู้เสียหายซ้ำอีก บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็รักษาหายในระยะเวลา 2 เดือน เพียงเท่านี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การทำร้ายด้วยอาวุธมีดต่อเนื่อง แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์
แม้อาวุธที่จำเลยใช้จะเป็นมีดพร้าขอขนาดใหญ่และตัวมีดยาว 45 เซนติเมตรก็ตาม. แต่จำเลยก็ได้ฟันผู้เสียหายตามโอกาสที่จะอำนวย คือขณะผู้เสียหายก้มอยู่. จำเลยก็ฟันที่กลางหลังเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีได้ 2 ก้าว จำเลยก็ฟันถูกต้นคอ. เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีต่อไป. จำเลยยังวิ่งไล่กวดจะฟันผู้เสียหายซ้ำอีก. บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็รักษาหายในระยะเวลา 2 เดือน เพียงเท่านี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้เป็นการวิวาทแต่มีเจตนาฆ่า ถือเป็นตัวการ
จำเลยที่ 1 และผู้ตายสมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันไม่ถือว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยที่ 1 ร้องให้ช่วย. จำเลยที่ 2 จึงเอาเหล็กงัดยางกว้าง 2 นิ้ว หนา 1 กระเบียด ยาวศอกเศษ ตีผู้ตายที่ศีรษะและดั้งจมูกโดยแรง จนผู้ตายล้มฟุบลงแล้วจำเลยที่ 1 ก็เอามีดซึ่งหลุดจากมือผู้ตายมาแทงผู้ตายและผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและจำเลยที่ 2 ก็เป็นตัวการในการกระทำความผิดนั้นด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 2 ไม่ถือว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของจำเลยที่ 1 โดยชอบด้วยกฎหมายเพราะจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นว่าจำเลยที่ 1 และผู้ตายสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการเพิ่มโทษในชั้นอุทธรณ์: อุทธรณ์ในทำนองขอให้เพิ่มเติมโทษหนักขึ้นได้ แม้ข้อเท็จจริงเดิมไม่มีเจตนาฆ่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่มีเจตนาฆ่า โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา ถือได้ว่าเป็นอุทธรณ์ในทำนองขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลยให้หนักขึ้นอยู่ในตัว ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาเพิ่มโทษจำเลยให้หนักขึ้นได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยในชั้นอุทธรณ์ แม้โจทก์ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่า แต่ศาลเห็นว่าไม่มีเจตนา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส. แต่ไม่มีเจตนาฆ่า. โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา. ถือได้ว่าเป็นอุทธรณ์ในทำนองขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลยให้หนักขึ้นอยู่ในตัว. ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาเพิ่มโทษจำเลยให้หนักขึ้นได้.ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38-39/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ถูกประทุษร้าย ศาลลดโทษจากเจตนาฆ่าเหลือป้องกันตัว
ผู้ตายเมาสุราส่งเสียงดัง. จำเลยตั้งใจจะไปตามตำรวจมาจับ. และไปเอาจักรยานยนต์ที่จอดไว้จะขี่ไป. พอปลดเกียร์จะไสรถออก.จำเลยได้ยินเสียงแกร๊กหันไปดูเห็นผู้ตายยืนอยู่ห่างจำเลย 4 วา. ในมือผู้ตายถือปืนจ้องมาทางจำเลย. ดังนี้ เรียกได้ว่าเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง. จำเลยจึงจำต้องใช้ปืนยิงไปเพื่อป้องกันสิทธิแห่งชีวิตตน. หากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ยินเสียงดังเฉียะ จึงยิงสวนไปนัดหนึ่ง. แล้วก็มิได้มีเสียงปืนของผู้ตายดังอีก. แต่จำเลยยังยิงไปอีก 4-5 นัด จนผู้ตายถึงแก่ความตาย. ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการเกินสมควรแก่เหตุที่จะป้องกันตามนัยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 69.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พฤติการณ์โกรธเคือง, เตรียมอาวุธ, และวางแผน
จำเลยโกรธผู้ตายซึ่งเป็นแม่ยายของจำเลยเพราะเคยหาว่าจำเลยลักเงิน และเคยให้จำเลยกับภริยาแยกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นคืนเกิดเหตุตอนหัวค่ำ จำเลยเอามีดไปซ่อนไว้ครั้นตอนดึกจำเลยกลับมาได้ใช้มีดที่ซ่อนไว้ไปฟันผู้ตายขณะนอนหลับทั้งจำเลยเคยให้การในชั้นสอบสวนว่าจำเลยได้หาโอกาสจะฆ่าผู้ตายมาก่อน และจำเลยเคยจ้างผู้มีชื่อฆ่าผู้ตายด้วย เช่นนี้ เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
of 78