คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เบี้ยปรับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 673 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3069/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดสัญญาติดตั้งเครื่องปรับอากาศและการพิจารณาเบี้ยปรับที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อหน่วยงานราชการ
โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่นำเครื่องปรับอากาศส่งมอบให้แก่จำเลยเป็นเวลานานถึง 10 เดือน 5 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานเกินควร ทั้งสถานที่ที่ติดตั้งเป็นสถาบันมะเร็งแห่งชาติที่ตั้งขึ้นเพื่อบำบัดทุกข์แก่ผู้เจ็บป่วยทั่วไปนับว่ามีความสำคัญมากทำให้งานของสถาบันต้องหยุดชะงักไป ไม่อาจดำเนินงานไปได้ จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะลดเบี้ยปรับลงอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2753/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับในสัญญาเหมาช่วง: ชดใช้ค่าเสียหายจริงได้เท่านั้น, ห้ามเรียกซ้ำซ้อน
สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยที่กำหนดเบี้ยปรับไว้นั้นถือว่า เป็นการกำหนดค่าเสียหายที่จะต้องชดใช้แก่กันไว้ล่วงหน้า ความเสียหายของจำเลยนอกจากถูกบริษัทหนึ่งปรับแล้ว ไม่ปรากฏว่าได้รับความเสียหายอย่างอื่นอีกดังนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์รับผิดในค่าเสียหายที่จำเลยถูกปรับเต็มจำนวนที่จำเลยเรียกร้องแล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดชดใช้เบี้ยปรับตามสัญญาอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2584/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาจ้างและการลดเบี้ยปรับ: ดุลพินิจของเจ้าของสัญญาและผลกระทบจากสถานการณ์วัสดุก่อสร้างขาดแคลน
มติคณะรัฐมนตรีที่ให้ส่วนราชการเจ้าของสัญญาใช้ดุลพินิจต่ออายุสัญญาให้ผู้รับจ้างตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องปรับเป็นเพียงนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติเท่านั้นหามีผลแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อสัญญาไม่การที่โจทก์เห็นว่าไม่สมควรต่ออายุสัญญาให้จำเลยที่ 1 ยังถือไม่ได้ว่าการบอกเลิกสัญญาของโจทก์เป็นไปโดยมิชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับตามสัญญาประกัน: ศาลมีอำนาจลดจำนวนหากสูงเกินควร โดยคำนึงถึงพฤติการณ์และผลกระทบ
ค่าปรับตามสัญญาประกันมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ หากมีจำนวนสูงเกินไป ศาลย่อมมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้
จำเลยทำสัญญาประกันผู้ต้องหาความผิดฐานยักยอก เมื่อผิดสัญญาแล้วจำเลยก็มิได้ละเลยทอดทิ้ง ได้ติดตามจนได้ตัวผู้ต้องหามาส่งให้โจทก์ดำเนินคดีผลที่สุดผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ ศาลสั่งจำหน่ายคดีไปแล้วดังนี้ศาลลดค่าปรับตามสัญญาประกันลงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2379/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของทายาทผู้ค้ำประกันต่อหนี้ทุนและเบี้ยปรับจากสัญญาเงินกู้ องค์ประกอบการใช้สิทธิของเจ้าหนี้
พ. ได้รับทุนซึ่งองค์การอนามัยโลกมอบให้รัฐบาลไทยเพื่อไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ จึงถือว่า พ.ได้รับทุนนี้จากรัฐบาลไทยโดยปริยาย เมื่อ พ.ประพฤติผิดสัญญา ต. ย่อมต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้เป็นผู้จัดการมรดกและทายาทของ ต.ได้ แม้ทุนประเภทนี้องค์การอนามัยโลกต้องการให้เปล่าไม้ต้องการเรียกคืนไม่ว่าในกรณีใด ก็ไม่กระทบกระเทือนถึงความผูกพันตามสัญญาระหว่างโจทก์ผู้ขอทุนกับ พ.ผู้ได้ไปศึกษาต่อด้วยทุนซึ่งองค์การอนามัยโลกมอบให้แก่รัฐบาลไทยนั้น
สัญญาระหว่างโจทก์กับ พ.มิได้ระบุระยะเวลาที่ พ. ได้รับอนุมัติไปศึกษาต่อและสัญญาค้ำประกันที่ ต.ให้ไว้แก่โจทก์ก็มิได้ระบุเวลาที่ พ.ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาต่อเช่นกัน ฉะนั้น การที่ พ.ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาเป็นเวลา 2 ปี ครบแล้วได้ขอศึกษาต่ออีก 1 ปี มหาวิทยาลัยโจทก์ทำเรื่องราวขออนุมัติไปตามลำดับจึงได้อนุมัติให้ พ. ศึกษาต่ออีก 1 ปี แม้จะเป็นภาระหนักขึ้นแก่ผู้ค้ำประกันด้วย แต่ก็ไม่เป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงในสัญญา ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี และเป็นคนละเรื่องกับการที่เจ้าหนี้ยอมผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันไม่หลุดพ้นจากความรับผิด
เมื่อปรากฏว่าลูกหนี้คือ พ.มิได้อยู่ในราชอาณาเขต โจทก์ย่อมฟ้องจำเลยผู้เป็นทายาทของผู้ค้ำประกันได้เลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 288 เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยตามสิทธิของโจทก์ ก็ไม่อาจถือว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และเมื่อ พ.ลูกหนี้ของโจกท์ผิดนัดแล้วโจทก์ก็ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกและทายาทผู้ค้ำประกันได้ โดยไม่ต้องทวงถามจำเลยก่อน
แม้ในชั้นอุทธรณ์จำเลยจะมิได้ยกเรื่องขดลดเบี้ยปรับขึ้นว่ามาด้วย เพิ่มมายกขึ้นในชั้นฎีกา แต่เรื่องเบี้ยปรับนี้ถ้าศาลเห็นว่าสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้อยู่แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ศาลฎีกาจึงมีอำนาจวินิจฉัยปัญหานี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2379/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดของทายาทผู้ค้ำประกันต่อเจ้าหนี้ แม้ยังไม่ได้รับส่วนแบ่งมรดก และการลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน
พ. ได้รับทุนซึ่งองค์การอนามัยโลกมอบให้รัฐบาลไทยเพื่อไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ จึงถือว่า พ. ได้รับทุนนี้จากรัฐบาลไทยโดยปริยาย เมื่อ พ.ประพฤติผิดสัญญาด.ย่อมต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน. โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้เป็นผู้จัดการมรดกและทายาทของ ด. ได้. แม้ทุนประเภทนี้องค์การอนามัยโลกต้องการให้เปล่าไม่ต้องการเรียกคืนไม่ว่าในกรณีใด ก็ไม่กระทบกระเทือนถึงความผูกพันตามสัญญาระหว่างโจทก์ผู้ขอทุนกับ พ. ผู้ได้ไปศึกษาต่อด้วยทุนซึ่งองค์การอนามัยโลกมอบให้แก่รัฐบาลไทยนั้น
สัญญาระหว่างโจทก์กับ พ.มิได้ระบุระยะเวลาที่พ.ได้รับอนุมัติไปศึกษาต่อ และสัญญาค้ำประกันที่ ด. ให้ไว้แก่โจทก์ก็มิได้ระบุเวลาที่ พ. ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาต่อเช่นกัน ฉะนั้น การที่ พ. ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาเป็นเวลา 2 ปี ครบแล้วได้ขอศึกษาต่ออีก 1ปี มหาวิทยาลัยโจทก์ทำเรื่องราวขออนุมัติไปตามลำดับจึงได้อนุมัติให้ พ. ศึกษาต่ออีก 1 ปี แม้จะเป็นภาระหนักขึ้นแก่ผู้ค้ำประกันด้วย แต่ก็ไม่เป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงในสัญญา ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี และเป็นคนละเรื่องกับการที่เจ้าหนี้ยอมผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันไม่หลุดพ้นจากความรับผิด
เมื่อปรากฏว่าลูกหนี้คือ พ.มิได้อยู่ในราชอาณาเขตโจทก์ย่อมฟ้องจำเลยผู้เป็นทายาทของผู้ค้ำประกันได้เลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 688 เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยตามสิทธิของโจทก์ก็ไม่อาจถือว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และเมื่อ พ. ลูกหนี้ของโจทก์ผิดนัดแล้วโจทก์ก็ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกและทายาทผู้ค้ำประกันได้ โดยไม่ต้องทวงถามจำเลยก่อน
แม้ในชั้นอุทธรณ์จำเลยจะมิได้ยกเรื่องขอลดเบี้ยปรับขึ้นว่ามาด้วย เพิ่งมายกขึ้นในชั้นฎีกา แต่เรื่องเบี้ยปรับนี้ถ้าศาลเห็นว่าสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้อยู่แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 383 ศาลฎีกาจึงมีอำนาจวินิจฉัยปัญหานี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับกับการบังคับทำสัญญา: เมื่อเรียกเบี้ยปรับแล้วสิทธิในการเรียกร้องให้ทำสัญญาเป็นอันสิ้นสุด
ทำสัญญาตกลงกันว่าผู้ขายตกลงจะทำถนนผ่านที่คืนในส่วนของผู้ขายหลังจากแบ่งแยกโฉนดขายให้แก่ผู้ซื้อแล้ว หากผิดสัญญายอมให้ผู้ซื้อปรับผู้ขายเป็นเงินห้าหมื่นบาท ข้อตกลงดังกล่าวนี้เป็นเรื่องสัญญาว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อไม่ชำระหนี้ เมื่อผู้ซื้อตกลงเรียกเอาเบี้ยปรับมาแล้วจึงไม่มีสิทธิเรียกให้ทำถนนอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2299/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาซื้อขาย: การเลือกใช้สิทธิเรียกร้องค่าปรับ ย่อมสละสิทธิเรียกร้องให้ปฏิบัติตามสัญญา
ทำสัญญาตกลงกันว่าผู้ขายตกลงจะทำถนนผ่านที่ดินในส่วนของผู้ขายหลังจากแบ่งแยกโฉนดขายให้แก่ผู้ซื้อแล้ว หากผิดสัญญายอมให้ผู้ซื้อปรับผู้ขายเป็นเงินห้าหมื่นบาทข้อตกลงดังกล่าวนี้เป็นเรื่องสัญญาว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อไม่ชำระหนี้ เมื่อผู้ซื้อตกลงเรียกเอาเบี้ยปรับแล้ว จึงไม่มีสิทธิเรียกให้ทำถนนอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2025/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับใช้ข้อสัญญาซื้อขาย: การริบเงินประกัน vs. เบี้ยปรับ กรณีผู้ขายผิดสัญญาไม่ส่งมอบสินค้า
สัญญาซื้อขายข้อ 7 ใจความว่า ผู้ขายได้นำเงินจำนวนร้อยละ 10 ของราคาสิ่งของมามอบไว้ให้แก่ผู้ซื้อ ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญา ผู้ซื้อจะริบเงินจำนวนนี้ ข้อ 8 มีความว่าถ้าผู้ขายไม่นำสิ่งของมอบให้แก่ผู้ซื้อเป็นการถูกต้องภายในกำหนด ผู้ขายย่อมให้ผู้ซื้อปรับเป็นเงินร้อยละ 10 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้ส่งมอบ และข้อ 9 ความว่า นอกจากที่กล่าวแล้วในข้อ 8 ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาด้วยเหตุใดๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ซื้อ ผู้ขายยอมรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง เช่นนี้ ข้อ 7 ใช้บังคับในกรณีผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาเลย ข้อ 8 ใช้บังคับในกรณีผู้ขายส่งมอบสิ่งของให้แก่ผู้ซื้อ แต่ส่งมอบไม่ครบถ้วน หรือถูกต้องตามสัญญาส่วนข้อ 9 ถ้าผู้ซื้อได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของผู้ขาย ผู้ขายต้องรับผิดด้วย ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยผู้ขายผิดสัญญาไม่ได้ส่งมอบสิ่งของให้แก่โจทก์ผู้ซื้อเลย โจทก์จึงมีสิทธิเพียงแต่ริบเงินที่จำเลยนำมาวาง ตามสัญญาข้อ 7 เท่านั้นจะเรียกเอาเบี้ยปรับจากจำเลยตามสัญญาข้อ 8 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2025/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับใช้ข้อสัญญาเบี้ยปรับ: การส่งมอบสินค้าไม่ครบถ้วน vs. ไม่ส่งมอบเลย
สัญญาซื้อขายข้อ 7 ใจความว่า ผู้ขายได้นำเงินจำนวนร้อยละ 10 ของราคาสิ่งของมามอบไว้แก่ผู้ซื้อ ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญา ผู้ซื้อ จะริบเงินจำนวนนี้ข้อ 8 มีความว่าถ้าผู้ขายไม่นำสิ่งของมอบให้แก่ผู้ซื้อ เป็นการถูกต้องภายในกำหนด ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นเงินร้อยละ 10 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้ส่งมอบ และข้อ 9 ความว่า นอกจากที่กล่าวแล้วในข้อ 8 ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาด้วยเหตุใด ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ซื้อผู้ขายยอมรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง เช่นนี้ข้อ 7 ใช้บังคับในกรณีผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาเลยข้อ 8 ใช้บังคับในกรณีผู้ขายส่งมอบสิ่งของให้แก่ผู้ซื้อ แต่ส่งมอบไม่ครบถ้วน หรือ ถูกต้องตามสัญญาส่วนข้อ 9 ถ้าผู้ซื้อได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของผู้ขายผู้ขายต้องรับผิดด้วย ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยผู้ขายผิดสัญญาไม่ได้ส่งมอบสิ่งของ ให้แก่โจทก์ผู้ซื้อเลย โจทก์จึงมีสิทธิเพียงแต่ริบเงินที่จำเลยนำมาวาง ตามสัญญาข้อ 7 เท่านั้นจะเรียกเอาเบี้ยปรับจากจำเลยตามสัญญาข้อ 8 ไม่ได้
of 68