พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานเพื่อพิสูจน์ว่าที่ดินเป็นที่สาธารณะย่อมทำได้ แม้จะมีการทำสัญญาซื้อขายแล้ว เพราะเป็นเหตุให้บังคับตามสัญญาไม่ได้
จำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญาขายบ้านเลขที่ 281 พร้อมที่ดิน 16 ตารางวา แก่โจทก์จริง แต่ที่ดินเป็นที่สาธารณะอยู่ในความครอบครองของเทศบาล ได้บอกโจทก์ให้ทราบแล้ว.
ดังนี้ แม้สัญญาดังกล่าวจะทำเป็นหนังสือจำเลยก็อาจนำสืบได้ เพราะว่าถ้าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะจริง ศาลก็ไม่อาจบังคับจำเลยให้ไปโอนให้แก่โจทก์ได้ การสืบดังนี้หาเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารไม่ แต่เป็นการสืบให้เห็นว่าหนี้นั้นบังคับไม่ได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ. แพ่ง มาตรา 94.
ดังนี้ แม้สัญญาดังกล่าวจะทำเป็นหนังสือจำเลยก็อาจนำสืบได้ เพราะว่าถ้าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะจริง ศาลก็ไม่อาจบังคับจำเลยให้ไปโอนให้แก่โจทก์ได้ การสืบดังนี้หาเป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารไม่ แต่เป็นการสืบให้เห็นว่าหนี้นั้นบังคับไม่ได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ. แพ่ง มาตรา 94.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกพยานตำรวจเพื่อประโยชน์แก่จำเลย ไม่เป็นการเพิ่มเติมพยานหลักฐานโจทก์
ศาลชั้นต้นได้เรียกนายตำรวจผู้หนึ่งมาเป็นพยานของศาลเพราะปรากฏตามหลักฐานของโจทก์ที่เกี่ยวโยงมาถึงนายตำรวจผู้นั้น ก็เฉพาะเหตุที่นายตำรวจผู้นั้นไปร่วมอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอื่นในขณะที่กำลังจับกุมจำเลย โจทก์ก็ได้สืบเจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบกับบันทึกการจับกุมไว้แล้วการที่สืบนายตำรวจเป็นพยานของศาลจึงมิใช่ลักษณะที่จะเพิ่มเติมคำพยานโจทก์เพื่อลงโทษจำเลย เป็นลักษณะที่ให้ความยุติธรรมแก่จำเลยจึงเป็นการชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้เรื่องครอบครองปรปักษ์: แม้ไม่ได้ใช้คำว่า 'เจตนาเป็นเจ้าของ' ก็มีประเด็นให้สืบได้
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินเมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่า "จำเลยครอบครองที่ดินติดต่อกันมากว่า 10 ปี ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยทางครอบครองอันชอบด้วยกฎหมาย" ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ต่อสู้ว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของแล้ว จำเลยจึงย่อมมีประเด็นที่จะสืบในข้อนี้ โดยไม่จำต้องระบุถึงข้อความว่า จำเลยได้ครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของไว้ในคำให้การ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: การสืบพยานเรื่องคัดค้านเพื่อสนับสนุนการครอบครองโดยสงบและเปิดเผยไม่ถือเป็นนอกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยอาศัยขอให้ขับไล่จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของจำเลยที่พิพาทเดิมเป็นของบรรพบุรุษของสามีจำเลยได้ครอบครองโดยสงบเปิดเผยตกทอดสืบมาจนถึงจำเลย
ดังนี้ชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบถึงนางเผื่อนว่า (มารดาสามีจำเลย)ได้เคยร้องคัดค้านเกี่ยวกับที่พิพาทไว้อย่างไรนั้นย่อมสืบได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นเพราะการสืบถึงเรื่องคัดค้านในกรณีนี้ก็คือการสืบถึงเหตุที่มาแห่งการครอบครองโดยสงบและเปิดเผยนั้นเอง
ดังนี้ชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบถึงนางเผื่อนว่า (มารดาสามีจำเลย)ได้เคยร้องคัดค้านเกี่ยวกับที่พิพาทไว้อย่างไรนั้นย่อมสืบได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นเพราะการสืบถึงเรื่องคัดค้านในกรณีนี้ก็คือการสืบถึงเหตุที่มาแห่งการครอบครองโดยสงบและเปิดเผยนั้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์มรดกและการสืบพยานนอกประเด็น การปิดบังเอาเปรียบในเชิงคดี
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าเป็นของจำเลยแต่ลงชื่อผู้ตายไว้ในฐานะนิติกรรมอำพรางและปรากฏตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำให้การว่าจำเลยออกเงินซื้อ ในชั้นนำสืบจำเลยสืบว่าที่ทำเช่นนี้เพื่อปกปิดสามี ดังนี้ไม่เป็นการสืบนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์บางอย่างเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าทรัพย์เช่นนั้นไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่ชั้นนำสืบจำเลยนำสืบว่าทรัพย์เหล่านี้ผู้ตายยกให้บุตรจำเลย เช่นนี้ฟังไม่ได้เพราะเป็นการปิดบังเอาเปรียบโจทก์ในเชิงคดีทั้ง ๆ ที่จำเลยรู้ดีแล้ว่าทรัพย์อยู่ที่ไหน.
โจทก์ฟ้องว่าทรัพย์บางอย่างเป็นมรดกของผู้ตาย จำเลยให้การว่าทรัพย์เช่นนั้นไม่มีอยู่ที่จำเลย แต่ชั้นนำสืบจำเลยนำสืบว่าทรัพย์เหล่านี้ผู้ตายยกให้บุตรจำเลย เช่นนี้ฟังไม่ได้เพราะเป็นการปิดบังเอาเปรียบโจทก์ในเชิงคดีทั้ง ๆ ที่จำเลยรู้ดีแล้ว่าทรัพย์อยู่ที่ไหน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ระบุพยานตามกำหนดและผลกระทบต่อการนำสืบพยาน รวมถึงการแบ่งกรรมสิทธิในทรัพย์สิน
จำเลยมิได้ระบุพยานตาม ป.วิ.แพ่ง ม.88 วรรค 1 โดยอ้างว่าเพิ่งไปหาทนายว่าต่างและขอระบุพยานในวันสืบพยาน ศาลสั่งว่าไม่มีเหตุสมควร ไม่อนุญาตตาม ม.88 วรรค 3 เมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นตาม ป.วิ.แพ่ง ม.226 แต่ประการใด ดังนี้ จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานร่วมและการวินิจฉัยข้อพิพาทเมื่อพยานเบิกความไม่ตรงตามข้อตกลง
โจทก์จำเลยตกลงสืบพยานร่วมปากเดียว ถ้าพยานมีความว่าในการกู้ยืมได้ระบุที่พิพาทเป็นประกันเงินกู้ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ระบุที่รายพิพาทเป็นประกันเงินกู้แล้ว จำเลยยอมแพ้ พยานเบิกความว่าในการกู้เงินได้ระบุที่สวนของจำเลยประกันเงินกู้ ดังนี้ จำเลยจะมีที่ดินแปลงเดียวหรืออย่างไรไม่ทราบชัด เห็นได้ว่าพยานไม่ได้เบิกความว่า ได้ระบุที่พิพาทเป็นประกัน ฉะนั้นจะชี้ขาดให้ฝ่ายใดชนะคดีเพราะคำพยานร่วมไม่ได้ศาลต้องวินิจฉัยตามท้องสำนวนเท่าที่มีอยู่ว่า คู่กรณีฝ่ายใดควรชนะคดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย จำเลยยอมเป็นฝ่ายนำสืบพยานก่อน เมื่อพยานร่วมเบิกความไม่สมจำเลย จำเลยก็ต้องแพ้คดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย จำเลยยอมเป็นฝ่ายนำสืบพยานก่อน เมื่อพยานร่วมเบิกความไม่สมจำเลย จำเลยก็ต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังนัดสืบพยาน - ศาลใช้ดุลพินิจตามมาตรา 87
ในคดีแพ่ง จำเลยเพิ่งขอระบุพยานจำเลยในวันนัดสืบพยานโจทก์(นัดแรก) โดยอ้างว่าจำเลยป่วยเป็นไข้ไม่สามารถมาระบุพยานตามกำหนดได้ นั้น เมื่อศาลพิจารณาเหตุผลทั่วๆ ไปแล้วเห็นว่า มิใช่เรื่องจงใจฝ่าฝืนเพื่อให้โจทก์เสียเปรียบในทางคดี แล้วศาลก็อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 ให้รับบัญชีระบุพยานของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้ซุง: ข้อตกลงเพิ่มเติมที่ไม่ปรากฏในสัญญา และการจ่ายเงินวางศาล
เมื่อข้อสัญญามีความชัดว่าการนำไม้จากป่ามากรุงเทพฯเป็นหน้าที่ของจำเลย จำเลยกลับจะขอนำสืบว่า ก่อนทำสัญญาโจทก์ได้ตกลงด้วยวาจาเป็นผู้จัดหาช้างงัดไม้ลงน้ำให้ ดังนี้ แม้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เมื่อสืบตัวจำเลยแล้วศาลเห็นว่าไม่สมเหตุผลก็สั่งงดสืบพยานอื่นของจำเลยที่เป็นเพียงพยานประกอบได้
เงินที่วางศาลไว้ในระหว่างคดียังไม่ถึงที่สุดไม่มีกฎหมายให้ศาลต้องจ่ายให้แก่ผู้ชนะทันทีในเมื่ออีกฝ่ายยังคัดค้านอยู่
เงินที่วางศาลไว้ในระหว่างคดียังไม่ถึงที่สุดไม่มีกฎหมายให้ศาลต้องจ่ายให้แก่ผู้ชนะทันทีในเมื่ออีกฝ่ายยังคัดค้านอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพาทเรื่องการครอบครองที่ดิน และความผิดทางอาญา: การพิจารณาคดีอาญาควบคู่กับข้อพิพาททางแพ่ง
คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันลักตัดฟันต้นไม้ในที่ดินของโจทก์ เมื่อได้ความเพียงว่า ที่ดินนั้นโจทก์จำเลยได้เคยนำเจ้าพนักงานรังวัดเถียงสิทธิครอบครองกันอยู่ ดังนี้ศาลไม่ควรงดสืบพะยานโจทก์โดยเห็นไปว่าเป็นคดีแพ่ง ควรให้โอกาสโจทก์สืบให้สมฟ้องเพราะอาจเป็นความผิดทางอาญาได้