พบผลลัพธ์ทั้งหมด 267 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1417/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อจากการฝ่าฝืนสัญญาณจราจรทำให้เกิดอุบัติเหตุและทรัพย์สินเสียหาย
ถนนซึ่งจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกมามีป้ายสัญญาณจราจรให้หยุดก่อนที่จะขับรถผ่านสี่แยกที่เกิดเหตุ จำเลยที่ 1 ต้องปฏิบัติตามป้ายสัญญาณจราจรดังกล่าวด้วยการหยุดรอ แต่จำเลยที่ 1 มิได้ปฏิบัติตามป้ายสัญญาณจราจรกลับขับรถยนต์บรรทุกผ่านสี่แยกที่เกิดเหตุด้วยความเร็วสูงเป็นการฝ่าฝืนสัญญาณจราจรที่ให้หยุดรถก่อนเข้าสู่ทางร่วมทางแยก ทำให้ชนรถยนต์ซึ่งจำเลยที่ 5 ขับที่บริเวณสี่แยกแล้วเสียหลักไปชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานเสพยาเสพติดและขับรถภายใต้อิทธิพลยาเสพติด: ศาลฎีกาแก้ไขเป็นกรรมเดียว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานเสพวัตถุออกฤทธิ์และฐานปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถโดยสารเสพวัตถุออกฤทธิ์เป็นความผิดสองกรรมโดยในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถโดยเสพวัตถุออกฤทธิ์ศาลชั้นต้นมิได้ปรับบทลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯมาตรา157ทวิวรรคหนึ่งซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดศาลอุทธรณ์ภาค1จึงพิพากษาแก้โดยปรับบทลงโทษฐานปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถโดยเสพวัตถุออกฤทธิ์ให้ถูกต้องเท่านั้นแสดงว่าศาลอุทธรณ์ภาค1ยังคงลงโทษจำเลยเป็นความผิดสองกรรมดังนั้นที่โจทก์ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสองกรรมนั้นจึงเป็นการฎีกาในข้อกฎหมายที่ไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค1เป็นฎีกาที่ไม่ชอบและแม้โจทก์จะบรรยายฟ้องมาว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันแต่ฟ้องโจทก์ระบุวันเวลากระทำความผิดฐานต่างๆเป็นวันเวลาเดียวกันทั้งมิได้บรรยายว่าวัตถุออกฤทธิ์ที่จำเลยเสพก่อนขับรถกับที่จำเลยเสพขณะขับรถนั้นเป็นคนละจำนวนกันดังนั้นการเสพวัตถุออกฤทธิ์กับการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถโดยเสพวัตถุออกฤทธิ์เป็นการกระทำหลายอันที่เป็นผลต่อเนื่องกันจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทหาใช่เป็นความผิดสองกรรมดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยไม่ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นอุทธรณ์หรือฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา195วรรคสองประกอบมาตรา225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประมาทขับรถ ชนกัน เสียชีวิต ศาลลดโทษ พิจารณาชดใช้ค่าเสียหายและประวัติผู้กระทำผิด
จ่าสิบตำรวจ ส. ขับรถจักรยานยนต์ออกจากซอยแล้วเลี้ยวขวาตัดหน้ารถคันที่จำเลยขับจำเลยหักหลบแล้วแตะเบรกแต่ก็ยังชนกันและรถจำเลยเสียหลักแล่นขึ้นไปบนสะพานลอยแล้วชนรถยนต์สามล้อสาธารณะที่แล่นสวนทางมาแล้วไปชนราวสะพานไปพลิกคว่ำอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตายเมื่อจุดชนถึงที่รถพลิกคว่ำเป็นระยะทางประมาณ40ถึง50เมตรแสดงว่าจำเลยขับรถด้วยความเร็วทั้งที่รู้ว่าฝนตกและถนนลื่นซึ่งจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังโดยลดความเร็วลงได้แต่จำเลยหาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ถือว่าจำเลยขับรถโดยประมาทแต่เมื่อจ่าสิบตำรวจ ส. มีส่วนประมาทอยู่ด้วยประกอบกับจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจแล้วและจำเลยไม่เคยได้รับ โทษจำคุกมาก่อนสมควรวางโทษใหม่ให้เหมาะสมแก่รูปคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7231/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถชนคนข้ามถนน ผู้ขับมีหน้าที่ต้องระมัดระวังและให้สิทธิคนเดินเท้า
จำเลยขับรถโดยสารมาติดสัญญาณจราจรไฟสีแดงหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นคันแรกโดยจอดอยู่ช่องขวาสุดริมเกาะกลางถนนเพื่อเลี้ยวขวาไปทางท่าช้าง เวลาเดียวกันส.และผู้ตายกำลังจะข้ามถนนเมื่อส. และผู้ตายก้าวลงจากทางเท้าข้ามถนนตรงทางข้ามนั้นเป็นจังหวะเดียวกับสัญญาณไฟจราจรซึ่งอยู่ข้างหน้าจำเลยเปลี่ยนเป็นไฟสีเขียว จำเลยจึงเร่ง ออกรถโดยไม่ทันดูว่าส. และผู้ตายกำลังข้ามถนนในทางข้ามอยู่ ถึงแม้จำเลยจะเลี้ยงขวาเมื่อสัญญาณจราจรไฟสีเขียว จำเลยก็จะต้องขับรถด้วยความระมัดระวังและต้องให้สิทธิแก่คนเดินเท้าในทางข้ามด้วยตามมาตรา 22(4) วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 จำเลยมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว จึงเป็นการขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ ส. ได้รับอัตราสาหัสและผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291,300 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 22(4),43(4),152 และ 157
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7194/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียว: การเสพเมทแอมเฟตามีนและการขับรถภายใต้ฤทธิ์ยา
คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2537เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมาย (ก) จำเลยได้เสพเมทแอมเฟตามีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เข้าสู่ร่างกายโดยวิธีรับประทานอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย (ข) จำเลยซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประจำรถโดยเป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกไปตามทางหลวงและถนนสาธารณะโดยขณะขับรถได้เสพเมทแอมเฟตามีนตามคำฟ้องข้อ (ก) เข้าสู่ร่างกายโดยวิธีรับประทาน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยเสพเมทแอม-เฟตามีนต่างเวลาและต่างจำนวนกัน แต่กลับยอมรับว่าเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยเสพตามฟ้อง ข้อ (ก) กับที่จำเลยเสพขณะขับรถยนต์บรรทุกตามฟ้อง ข้อ (ข) เป็นจำนวนเดียวกันและเสพในครั้งหนึ่งคราวเดียวกัน แม้การเสพเมทแอมเฟตามีนเพียงอย่างเดียวจะเป็นความผิดสำเร็จในตัวเอง แต่ความผิดฐานขับรถยนต์บรรทุกไปตามทางหลวงและทางสาธารณะโดยขณะขับรถได้เสพเมทแอมเฟตามีนก็เป็นกรรมเดียวที่เกิดจากการกระทำหลายอันเพราะต้องอาศัยองค์ประกอบความผิดคือการเสพเมทแอมเฟตามีนประกอบกับการขับรถไปตามทางหลวงหรือทางสาธารณะด้วยจึงจะเป็นความผิดดังนั้น การกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7194/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การเสพยาแล้วขับรถบรรทุก ศาลฎีกาวินิจฉัยเป็นกรรมเดียว
คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่าเมื่อวันที่16พฤศจิกายน2537เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมาย(ก)จำเลยได้เสพเมทแอมเฟตามีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท2เข้าสู่ร่างกายโดยวิธีรับประทานอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย(ข)จำเลยซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกได้ปฎิบัติหน้าที่ผู้ประจำรถโดยเป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกไปตามทางหลวงและถนนสาธารณะโดยขณะขับรถได้เสพเมทแอมเฟตามีนตามคำฟ้องข้อ(ก)เข้าสู่ร่างกายโดยวิธีรับประทานอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนต่างเวลาและต่างจำนวนกันแต่กลับยอมรับว่าเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยเสพตามฟ้องข้อ(ก)กับที่จำเลยเสพขณะขับรถยนต์บรรทุกตามฟ้องข้อ(ข)เป็นจำนวนเดียวกันและเสพในครั้งหนึ่งคราวเดียวกันแม้การเสพเมทแอมเฟตามีนเพียงอย่างเดียวจะเป็นความผิดสำเร็จในตัวเองแต่ความผิดฐานขับรถยนต์บรรทุกไปตามทางหลวงและทางสาธารณะโดยขณะขับรถได้เสพเมทแอมเฟตามีนก็เป็นกรรมเดียวที่เกิดจากการกระทำหลายอันเพราะต้องอาศัยองค์ประกอบความผิดคือการเสพเมทแอมเฟตามีนประกอบกับการขับรถไปตามทางหลวงหรือทางสาธารณะด้วยจึงจะเป็นความผิดดังนั้นการกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6973/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การขับรถขณะเสพยา
จำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนในขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถยนต์ซึ่งตามลักษณะและสภาพความผิดการกระทำของจำเลยไม่สามารถแยกออกจากกันได้การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6973/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: เสพยาขณะขับรถ – ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
แม้ความผิดฐานเสพวัตถุออกฤทธิ์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่เสพวัตถุออกฤทธิ์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายจะเป็นการกระทำความผิดต่างฐานกัน แต่ความมุ่งหมายในการกระทำเป็นอย่างเดียวกัน คำฟ้องได้ความเพียงว่าจำเลยเสพวัตถุออกฤทธิ์ขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถยนต์จึงเป็นที่เห็นได้ชัดแจ้งว่าตามลักษณะและสภาพความผิดการกระทำของจำเลยไม่สามารถอกยกออกจากกันได้จึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6973/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การเสพยาขณะขับรถ ความผิดฐานเสพยาและขับรถประมาทเป็นกรรมเดียว
จำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนในขณะปฎิบัติหน้าที่ขับรถยนต์ซึ่งตามลักษณะและสภาพความผิดการกระทำของจำเลยไม่สามารถแยกออกจากกันได้การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อในการขับรถตัดหน้าและอำนาจรับฟังสำเนาเอกสารทางการแพทย์
เมื่อช่องว่างระหว่างเกาะกลางถนนมีรูปเป็นส่วนโค้งและส่วนเว้าที่แสดงว่าเป็นช่องกลับรถของรถที่สวนทางมา แต่ไม่ใช่ช่องกลับรถของรถจำเลยที่สวนทางไป และยังมีป้ายเครื่องหมายจราจรห้ามกลับรถปักไว้ตรงหัวเกาะ การที่ ว.ขับรถบรรทุกของจำเลยเคลื่อนออกจากไหล่ทาง แล้วเลี้ยวขวาตัดหน้ารถทางตรงที่แล่นตามมาเพื่อจะกลับรถข้ามไปยังอีกถนนหนึ่งนั้น โดยปกติวิสัยจะต้องใช้ความระมัดระวังดูแลให้รถที่แล่นตามมาได้ผ่านพ้นไปให้ปลอดภัยเสียก่อน ว. ขับรถบรรทุกเลี้ยวขวาตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของโจทก์ในระยะกระชั้นชิดโดยไม่ระมัดระวังดูแลดังกล่าวเป็นเหตุให้รถเฉี่ยวชนกัน จึงเป็นความประมาทเลินเล่อของ ว. แต่ฝ่ายเดียว
การที่ต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลหายไป หาอยู่2 - 3 วัน ก็ไม่พบ กรณีจึงถือได้ว่าต้นฉบับเอกสารสูญหาย เมื่อศาลยอมรับฟังสำเนาเอกสารดังกล่าวก็เท่ากับศาลอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบแทนต้นฉบับ ศาลจึงมีอำนาจรับฟังสำเนาเอกสารนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 93(2) และมีอำนาจกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่ารักษพยาบาลแก่โจทก์ตามเอกสารดังกล่าว
การที่ต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลหายไป หาอยู่2 - 3 วัน ก็ไม่พบ กรณีจึงถือได้ว่าต้นฉบับเอกสารสูญหาย เมื่อศาลยอมรับฟังสำเนาเอกสารดังกล่าวก็เท่ากับศาลอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบแทนต้นฉบับ ศาลจึงมีอำนาจรับฟังสำเนาเอกสารนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 93(2) และมีอำนาจกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่ารักษพยาบาลแก่โจทก์ตามเอกสารดังกล่าว