คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขู่เข็ญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 141 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4075/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขู่เข็ญทางไสยศาสตร์ไม่ถึงขั้นกรรโชก หากผู้เสียหายเชื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์
จำเลยเพียงแต่ทำนายดวงชะตาผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายกำลังมีเคราะห์ ให้สะเดาะ เคราะห์โดยเสียเงินค่ายกครูให้แก่จำเลยดังนี้หาใช่เป็นการขู่เข็ญตามความหมายของมาตรา 337 แห่ง ป.อ. ไม่ แม้จำเลยพูดขู่ว่าถ้า ไม่ ให้เงินจะให้พ่อปู่ มาทำอันตรายผู้เสียหายทางไสยศาสตร์ และผู้เสียหายยอมให้เงิน ก็เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายเชื่อ ตามคำทำนายว่าจะมีเคราะห์ มิใช่เพราะกลัวคำขู่เข็ญของจำเลยการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานกรรโชก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4075/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขู่เข็ญทางไสยศาสตร์ไม่ถึงขั้นกรรโชก หากผู้เสียหายเชื่อเป็นการทำนายดวงชะตา
จำเลยเพียงแต่ทำนายดวงชะตาแก่ผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายกำลังมีเคราะห์ให้สะเดาะเคราะห์โดยเสียเงินค่ายกครูให้แก่จำเลยหาใช่เป็นการขู่เข็ญตามความหมายของมาตรา 337 แห่งประมวลกฎหมายอาญาไม่ดังนั้น แม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยพูดขู่ว่าถ้าไม่ให้เงินจะให้พ่อปู่มาทำอันตรายผู้เสียหายทางไสยศาสตร์และผู้เสียหายยอมให้เงิน ก็เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายเชื่อตามคำทำนายว่าจะมีเคราะห์ มิใช่เพราะกลัวคำขู่เข็ญของจำเลย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานกรรโชก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารโดยอาศัยความเบาปัญญาของผู้เสียหาย ไม่ถือเป็นการขู่เข็ญจนขัดขืนไม่ได้
ผู้เสียหาย 4 คนมีอายุกว่า 13 ปี แต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะส่วนผู้เสียหายอีก 3 คนมีอายุไม่เกิน 13 ปี ผู้เสียหายไปพบจำเลยโดยจำเลยทำอุบายทำนายว่าผู้เสียหายดวงชะตาไม่ดี จะต้องให้จำเลยสะเดาะเคราะห์ให้เมื่อจำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดเข้าไปในทวารหนักของผู้เสียหายผู้เสียหายบ่นเจ็บ จำเลยบอกให้อดทน ที่จำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดเข้าไปในทวารหนักของผู้เสียหายได้นั้นก็โดยอาศัยความเบาปัญญาของผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ที่หลงเชื่อว่า กรณีที่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายเป็นการสะเดาะเคราะห์จึงไม่เป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนให้จำยอมให้จำเลยกระทำอนาจาร การกระทำของจำเลยต่อผู้เสียหายที่มีอายุกว่า 13 ปี จึงไม่เป็นความผิด คงมีความผิดเฉพาะที่กระทำต่อผู้เสียหายที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารต่อผู้เยาว์โดยอาศัยความหลงเชื่อ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่เข้าข่ายขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้าย
ผู้เสียหาย4คนมีอายุกว่า13ปีแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะส่วนผู้เสียหายอีก3คนมีอายุไม่เกิน13ปีผู้เสียหายไปพบจำเลยโดยจำเลยทำอุบายทำนายว่าผู้เสียหายดวงชะตาไม่ดีจะต้องให้จำเลยสะเดาะเคราะห์ให้เมื่อจำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดเข้าไปในทวารหนักของผู้เสียหายผู้เสียหายบ่นเจ็บจำเลยบอกให้อดทนที่จำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดเข้าไปในทวารหนักของผู้เสียหายได้นั้นก็โดยอาศัยความเบาปัญญาของผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ที่หลงเชื่อว่ากรณีที่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายเป็นการสะเดาะเคราะห์จึงไม่เป็นการขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนให้จำเลยกระทำอนาจารการกระทำของจำเลยต่อผู้เสียหายที่มีอายุกว่า13ปีจึงไม่เป็นความผิดคงมีความผิดเฉพาะที่กระทำต่อผู้เสียหายที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกิน13ปีตามป.อ.มาตรา279วรรคแรก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3892/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวจากการบุกรุกและขู่เข็ญเพื่อขับไล่ผู้อื่นออกจากเคหสถาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญ คดีได้ความว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปขับไล่ให้ผู้เสียหายออกไปเสียจากขนำของผู้เสียหาย ครั้นผู้เสียหายขัดขืน จำเลยจึงใช้ปืนที่ติดตัวไปยิงขู่จนผู้เสียหายตกใจกลัวออกไปจากขนำ การกระทำของจำเลยมีเจตนาขู่เข็ญเพื่อขับไล่ผู้เสียหายให้ออกไปจากขนำเป็นข้อสำคัญ จึงเป็นความผิดกรรมเดียว อันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3892/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวในการบุกรุกและขู่เข็ญ: การกระทำมีเจตนาขับไล่เป็นสำคัญ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญ คดีได้ความว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปขับไล่ ให้ผู้เสียหายออกไปเสียจากขนำของผู้เสียหายครั้นผู้เสียหายขัดขืน จำเลยจึงใช้ปืนที่ติดตัวไปยิงขู่จนผู้เสียหายตกใจกลัวออกไปจากขนำ การกระทำของจำเลยมีเจตนาขู่เข็ญเพื่อขับไล่ผู้เสียหายให้ออกไป จากขนำเป็นข้อสำคัญ จึงเป็นความผิดกรรมเดียว อันเป็นความผิด ต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3892/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานบุกรุกและขู่เข็ญ: พิจารณาความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญคดีได้ความว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปขับไล่ให้ผู้เสียหายออกไปเสียจากขนำของผู้เสียหายครั้นผู้เสียหายขัดขืนจำเลยจึงใช้ปืนที่ติดตัวไปยิงขู่จนผู้เสียหายตกใจกลัวออกไปจากขนำการกระทำของจำเลยมีเจตนาขู่เข็ญเพื่อขับไล่ผู้เสียหายให้ออกไปจากขนำเป็นข้อสำคัญจึงเป็นความผิดกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ขู่เข็ญเรียกเงินจากผู้ประกอบการ และข่มขู่เรียกเงินซ้ำ
การที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้นายตรวจสรรพสามิตแยกกันออกตรวจร้านค้าสุราในท้องที่ตามเขตที่กำหนดนั้นเป็นเรื่องของการแบ่งงานเพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติราชการเท่านั้น หาเป็นการจำกัดอำนาจหน้าที่ในการตรวจร้านค้าสุราในท้องที่เขตอื่นไม่และการตรวจร้านค้าสุราก็มิใช่การปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ราชการ ซึ่งโดยปกติจะกระทำในระหว่างเวลาราชการทั้งไม่ปรากฏว่านายตรวจสรรพสามิตจะต้องปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเวลาราชการดังนั้นการที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3ซึ่งเป็นนายตรวจสรรพสามิตได้ไปที่ร้านค้าสุราของผู้เสียหายซึ่งอยู่นอกเขตท้องที่ที่ตนได้รับมอบหมายให้ไปตรวจและไปหลังเวลาราชการ โดยเรียกผู้เสียหายออกจากร้านมาพบที่รถยนต์ แล้วพูดว่าจะจับสุราของผู้เสียหายไปนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นการกระทำของเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่นั่นเองหาใช่เป็นการกระทำส่วนตัวไม่และเมื่อจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันเรียกร้องให้ผู้เสียหายจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนเพื่อจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 จะไม่จับ ทั้งที่ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายทำผิดกฎหมายอย่างไรนั้น ย่อมเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 แล้ว
ส่วนที่พวกจำเลยพูดกับผู้เสียหายว่า ถ้าไม่จ่ายเงินจะจับสุราที่ร้านค้าของผู้เสียหายและจะจับเดือนละ 2 ครั้งโดยได้ความว่าก่อนเกิดเหตุพวกของจำเลยได้มาขู่เอาเงินไปแล้ว 2 ครั้งและผู้เสียหายพูดต่อรองไม่ให้จับ เพราะกลัวลูกค้าจะเข้าใจผิดว่าขายสุราผิดกฎหมายแล้วผู้เสียหายจ่ายเงินให้พวกจำเลยไปนั้นเป็นการจ่ายเงินให้ไปด้วยความกลัวที่เกิดจากถูกพวกจำเลยขู่เข็ญว่าจะแกล้งจับสุราในร้านนั่นเองมิใช่ผู้เสียหายจะไม่มีมูลเหตุต้องกลัวเพราะไม่ได้มีสุราผิดกฎหมาย การกระทำของพวกจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนใจให้ผู้อื่นออกจากที่ดินโดยขู่เข็ญด้วยอาวุธ การกระทำผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309
จำเลยกับพวก 5 คนนั่งรถยนต์ปิคอัพมาที่ไร่ของผู้เสียหายแล้ว จำเลยลงมาพูดขู่บังคับผู้เสียหายให้ออกไปจากไร่ของผู้เสียหายภายใน 2 เดือน ถ้าไม่ยอมออก จะให้ลูกปืนกินหรือใช้ปืนยิง ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้หนีออกจากไร่ของตนเพราะกลัวจะถูกทำร้ายตามที่จำเลยพูดขู่ไว้ การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ซึ่งลงโทษได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2682/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปล้นทรัพย์ด้วยการใช้กำลังขู่เข็ญและมีอาวุธ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง
จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันใช้กำลังเข้ายื้อแย่งเอาเงินจากผู้เสียหายโดยจำเลยที่1ใช้สังกะสีปลายแหลมคล้ายมีดที่พกติดตัวไปขู่จะแทงเจ้าทรัพย์การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการปล้นทรัพย์โดยผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วยตามป.อ.มาตรา340วรรคสอง.
of 15