คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ข่มเหง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 117 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ลดโทษจากฆ่าคนตาย
ผู้ตายใช้อาวุธปืนตบหน้าบุตรจำเลยเป็นบาดแผลมีโลหิตไหลที่ใบหน้าเมื่อบุตรจำเลยวิ่งหนีขึ้นบนบ้าน ผู้ตายซึ่งมีอาวุธปืนยังติดตามเข้าไปในบ้านอีก แล้วเกิดโต้เถียงกับจำเลย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายในขณะนั้น ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง กรณีผู้ตายติดตามบุตรจำเลยเข้าไปในบ้านหลังทำร้ายร่างกาย
ผู้ตายใช้อาวุธปืนตบหน้าบุตรจำเลยเป็นบาดแผลมีโลหิตไหลที่ใบหน้า เมื่อบุตรจำเลยวิ่งหนีขึ้นบนบ้านผู้ตายซึ่งมีอาวุธปืนยังติดตามเข้าไปในบ้านอีก โดยไม่มีความประสงค์จะทำร้ายบุตรจำเลย แล้วเกิดโต้เถียงกับจำเลย จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายในขณะนั้น ดังนี้การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตาม ป.อ. มาตรา 72.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะหลังถูกทำร้ายและข่มเหง
ผู้ตายถือมีดดาบติดตัวเข้าไปในโรงเรียนซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย เมื่อจำเลยห้ามปราม ผู้ตายไม่เชื่อฟังกลับใช้มีดดาบฟันศีรษะจำเลยจนได้รับบาดเจ็บมีโลหิตไหล จำเลยแย่งมีดดาบจากผู้ตายได้แล้วเดินออกจากโรงเรียนเพื่อจะไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้ตายมาดักขอโทษจำเลยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเลยไม่ยอมยกโทษให้ผู้ตาย และได้ใช้มีดดาบที่ถืออยู่ในมือฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่การที่จำเลยใช้มีดฟันผู้ตายหลังจากเกิดเหตุในตอนแรกแล้วประมาณ 3-4 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดในขณะที่โทสะยังรุนแรงอยู่ อันเนื่องมาจากถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะหลังถูกข่มเหง: พ้นวิสัยป้องกันสิทธิแล้ว
ผู้ตายถือ มีดดาบติดตัว เข้าไปในโรงเรียนซึ่ง อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย เมื่อจำเลยห้ามปราม ผู้ตายไม่เชื่อฟังกลับใช้มีดดาบฟันศีรษะจำเลยจนได้รับบาดเจ็บมีโลหิตไหล จำเลยแย่งมีดดาบจากผู้ตายได้ แล้วเดิน ออกจากโรงเรียนเพื่อจะไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้ตายมาดัก ขอโทษจำเลยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเลยไม่ยอมยกโทษให้ผู้ตาย และได้ ใช้ มีดดาบที่ถือ อยู่ในมือฟันผู้ตายถึง แก่ความตายการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่ การที่จำเลยใช้ มีดฟันผู้ตายหลังจากเกิดเหตุในตอนแรกแล้วประมาณ 3-4 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดในขณะที่โทสะยังรุนแรงอยู่ อันเนื่องมาจากถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วย เหตุอันไม่เป็นธรรม เช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดย บันดาลโทสะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกทำร้ายและการข่มเหง: ศาลฎีกายกข้อกฎหมายขึ้นวินิจฉัยเองได้ แม้มิได้ยกขึ้นต่อสู้
การกระทำโดยบันดาลโทสะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
การที่ผู้ตายละทิ้งจำเลยไปมีภรรยาใหม่ แล้วเสพสุรามึนเมามาหาจำเลยที่บ้านเพื่อจะนำบุตรไปอยู่กับภรรยาใหม่ของผู้ตาย เมื่อจำเลยไม่ยินยอม ก็ทำร้ายตบตีจำเลยถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย้างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เมื่อจำเลยใช้มีดพร้าฟันศีรษะผู้ตายในขณะนั้นโดยแรงเพียง 1ครั้ง การที่จำเลยฆ่าผู้ตายจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถานและการทำร้ายร่างกาย ไม่เข้าข่ายบันดาลโทสะ
จำเลยเข้าไปในห้องผู้เสียหายในเวลาวิกาลโดยผู้เสียหายไม่ได้ยินยอม แม้ว่าจำเลยจะเคยอยู่กินกับผู้เสียหายอย่างฉันสามีภริยามาก่อน แต่ก็ได้แยกกันอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุอันควรที่จำเลยจะเข้าไปในลักษณะเช่นนี้ แม้ผู้เสียหายจะพูดขับไล่ให้จำเลยออกไปและด่าจำเลยว่า "เจ๊กแก่ไม่เจียมสังขาร เจ๊กหน้าหนังหี กูไม่ยักกับมึงอีกแล้ว"ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยแทงทำร้ายผู้เสียหายจึงไม่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะทูก ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกดูหมิ่น: การกระทำผิดเนื่องจากคำพูดรุนแรงและข่มเหง
แม้ผู้ตายจะโกรธแค้นที่เคยถูกจำเลยผู้เป็นสามีตบตี ผู้ตายก็ไม่มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะด่าว่าจำเลยในลักษณะดูถูกเหยียดหยามด้วยถ้อยคำหยาบคายพาดพิงถึงวงศ์สกุลของจำเลยในที่ว่าการอำเภอซึ่งมีคนอื่นได้ยินด้วยย่อมทำให้จำเลยรู้สึกอับอายขายหน้าและแค้นเคืองอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงน้ำใจจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นการกระทำผิดโดยบันดาลโทสะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4579/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมวลโทษอาญาที่ถูกต้อง: บุกรุก ทำร้ายร่างกาย และข่มเหงรังแก ศาลฎีกาแก้โทษให้เหมาะสมกับพฤติการณ์
ปัญหาที่ว่าจำเลยกระทำความผิดกรรมใดบ้างนั้น แม้จำเลยมิได้ฎีกาก็เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยได้
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านโจทก์ร่วม แล้วดูหมิ่นโจทก์ร่วมกับชกต่อยโจทก์ร่วมในทันทีทันใดนั้น เป็นการกระทำต่อเนื่องกันโดยมีเจตนาอันแท้จริง เพื่อดูหมิ่นและทำร้ายโจทก์ร่วมการกระทำของจำเลยในตอนนี้จึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 อันเป็นบทหนักที่สุดต่อมาจำเลยฉุดแขนโจทก์ร่วมออกจากเคหสถานลากพาตัวไปยังถนนสาธารณะอันเป็นการทำให้โจทก์ร่วมปราศจากเสรีภาพในร่างกายพร้อมทั้งได้ร่วมกับพวกทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วมจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายทันที ซึ่งถือได้ว่าเป็นการข่มเหงรังแกหรือทำให้โจทก์ร่วมเดือดร้อนรำคาญด้วยนั้นย่อมเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันกับความผิดฐานทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นเอง การกระทำของจำเลยในตอนหลังนี้จึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 อันเป็นบทหนักที่สุด รวมเป็นความผิด 2 กระทง
มูลเหตุแห่งคดีเกิดจากโจทก์ร่วมได้ว่ากล่าวบุตรของจำเลยว่าเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน ความเจ็บร้อนย่อมเกิดขึ้นได้ตามวิสัยปุถุชนจึงมีการต่อว่าต่อขานและเป็นมูลให้ทะเลาะกันอย่างจริงจังในที่สุดบาดแผลของโจทก์ร่วมเป็นบาดแผลที่ไม่รุนแรงกับคำว่า 'อีเหี้ย อีสัตว์'ที่จำเลยด่าโจทก์ร่วมก็เป็นแต่ถ้อยคำที่ผู้ถูกว่าเกิดความระคายเคืองใจไม่มีผู้ใดคิดและเชื่อว่าโจทก์ร่วมจะเป็นเช่นนั้นพิเคราะห์ตามมูลเหตุพฤติการณ์แห่งคดีและบาดแผล เป็นการสมควรที่ศาลจะรอการลงโทษไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4408/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนา แต่ศาลลดโทษเนื่องจากบันดาลโทสะจากพฤติกรรมข่มเหงและไม่เคารพอำนาจปกครอง
ส.อายุ 19 ปี ยังอยู่ในความปกครองของจำเลยและอยู่ร่วมบ้านเดียวกับจำเลยผู้เป็นบิดา ผู้ตายมีโจทก์เป็นภริยาอยู่แล้วมารักใคร่ชอบพอถึงขั้นได้เสียกับ ส.จนส.ตั้งครรภ์ต้องไปทำแท้ง ต่อมามีเรื่องทะเลาะวิวาทระหว่างโจทก์กับ ส.จนจำเลยห้ามผู้ตายไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับส.อีกแต่ผู้ตายไม่เชื่อฟังกลับลักลอบมาหลับนอนกับส.ขณะที่จำเลยไม่อยู่บ้าน เป็นการกระทำที่หยามเหยียดปราศจากความยำเกรงจำเลยผู้เป็นบิดาผู้ใช้อำนาจปกครอง การที่ในคืนเกิดเหตุผู้ตายได้ขึ้นไปหลับนอนกับ ส.บนบ้านจำเลย ย่อมเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ที่จำเลยยิงผู้ตายไปในขณะนั้นย่อมถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดเพราะบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแทงผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วยความบันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
ผู้ตายอาละวาดไล่ทำร้ายภริยาจำเลยจนหลบหนีไปแล้ว จำเลยกำลัง จะรับประทานข้าว ผู้ตายได้มายืนร้องเรียกที่ข้างบ้านให้จำเลยออกมาเดี๋ยวนี้จำเลยก็เดินออกมาที่ชานบ้าน ผู้ตายเดินมาถึงหน้าบันไดบ้านพูดว่าวันนี้กูจะลุยมึงและจัดการกับมึงวันนี้จำเลยก็ว่าจะมาจัดการอะไรกัน ไม่เคยทำอะไรผิดผู้ตายก็พูดอีกว่าวันนี้กูต้องเอามึงแน่ จำเลยยกมือไหว้พูดว่า ไม่สู้พี่หรอก มีบุตรและภริยา ถ้าตายไปใครจะเลี้ยง ผู้ตายก็วิ่งขึ้นบันไดตรงเข้าชกต่อยจำเลย จำเลยจึงล้วงมีดพกปลายแหลมจากกระเป๋ากางเกงแทงผู้ตาย1ทีถูกบริเวณลำคอ ผู้ตายเดินเซลงบันไดไป จำเลยได้วิ่งตามไปแทงผู้ตายอีก 2-3 ครั้ง ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำแก่ผู้ตายไปเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
of 12