พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยการส่งมอบข้าวเปลือก และสิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขาย แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อข้าวเปลือกของโจทก์ไป ยังไม่ได้ชำระราคา โดยตกลงจะหักหนี้ที่โจทก์กู้เงินจำเลยไว้ แต่ภายหลังจำเลยกลับเอาสัญญากู้มาฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ โดยไม่หักค่าข้าวเปลือกให้ตามที่ตกลงกันไว้ ดังนี้ แม้การซื้อขายข้าวเปลือกจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ได้มีการส่งมอบข้าวเปลือกกันแล้ว ซึ่งถือได้ว่ามีการชำระหนี้กันแล้ว โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องเรียกให้จำเลยส่งข้าวเปลือกคืน หรือใช้ราคาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกที่ถูกต้องตามประกาศ และความชัดเจนของข้อหาในคำฟ้อง
คำว่า เวลาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) นั้นหมายความถึงวันเดือนปีด้วย ไม่หมายเฉพาะเวลากลางวันหรือกลางคืน
คำฟ้องที่ไม่กล่าวถึงเวลากลางวันหรือกลางคืนนั้น จะเคลือบคลุมหรือไม่ ต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปว่า ฟ้องนั้นกล่าวถึงเวลาพอให้เข้าใจข้อหาได้หรือไม่
ประกาศที่ให้ผู้ครอบคอรงข้าวแต่จำนวนเท่านั้นเกวียนแจ้งปริมาณสถานที่เก็บนั้น ผู้ที่ครอบครองข้าวของผู้อื่นอยู่ด้วยก็ต้องแจ้งปริมาณตามจำนวนที่ครอบครองทั้งหมด จะแก้ตัวว่าแจ้งเฉพาะของตนนั้น ไม่พ้นผิดฐานแจ้งปริมาณเท็จ และข้าวเปลือกของกลางต้องริบทั้งหมด
คำฟ้องที่ไม่กล่าวถึงเวลากลางวันหรือกลางคืนนั้น จะเคลือบคลุมหรือไม่ ต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปว่า ฟ้องนั้นกล่าวถึงเวลาพอให้เข้าใจข้อหาได้หรือไม่
ประกาศที่ให้ผู้ครอบคอรงข้าวแต่จำนวนเท่านั้นเกวียนแจ้งปริมาณสถานที่เก็บนั้น ผู้ที่ครอบครองข้าวของผู้อื่นอยู่ด้วยก็ต้องแจ้งปริมาณตามจำนวนที่ครอบครองทั้งหมด จะแก้ตัวว่าแจ้งเฉพาะของตนนั้น ไม่พ้นผิดฐานแจ้งปริมาณเท็จ และข้าวเปลือกของกลางต้องริบทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการพิจารณาความเข้าใจข้อหาจากคำฟ้อง
คำว่า เวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5)นั้นหมายความถึงวันเดือนปีด้วย ไม่หมายเฉพาะเวลากลางวันหรือกลางคืน
คำฟ้องที่ไม่กล่าวถึงเวลากลางวันหรือกลางคืนนั้น จะเคลือบคลุมหรือไม่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไปว่า ฟ้องนั้นกล่าวถึงเวลาพอให้เข้าใจข้อหาได้ดีหรือไม่
ประกาศที่ให้ผู้ครอบครองข้าวแต่จำนวนเท่านั้นเกวียนแจ้งปริมาณสถานที่เก็บนั้น ผู้ที่ครอบครองข้าวของผู้อื่นอยู่ด้วยก็ต้องแจ้งปริมาณตามจำนวนที่ครอบครองทั้งหมด จะแก้ตัวว่าแจ้งเฉพาะของตนนั้น ไม่พ้นผิดฐานแจ้งปริมาณเท็จและข้าวเปลือกของกลางต้องริบทั้งหมด
คำฟ้องที่ไม่กล่าวถึงเวลากลางวันหรือกลางคืนนั้น จะเคลือบคลุมหรือไม่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไปว่า ฟ้องนั้นกล่าวถึงเวลาพอให้เข้าใจข้อหาได้ดีหรือไม่
ประกาศที่ให้ผู้ครอบครองข้าวแต่จำนวนเท่านั้นเกวียนแจ้งปริมาณสถานที่เก็บนั้น ผู้ที่ครอบครองข้าวของผู้อื่นอยู่ด้วยก็ต้องแจ้งปริมาณตามจำนวนที่ครอบครองทั้งหมด จะแก้ตัวว่าแจ้งเฉพาะของตนนั้น ไม่พ้นผิดฐานแจ้งปริมาณเท็จและข้าวเปลือกของกลางต้องริบทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกผลธรรมดา vs. ดอกผลนิตินัย: ข้าวเปลือกไม่ใช่ดอกผลของนา
ดอกผลธรรมดาตามมาตรา 111(1) นั้นหมายถึงบรรดาสิ่งทั้งปวงซึ่งได้มาเพราะใช้ของนั้น อันเกิดโดยธรรมชาติของมันดังเช่น ผลไม้ น้ำนม ขนและลูกของสัตว์
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนาฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนา เช่นเดียวกัน(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดา โจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น (ประชุมใหญ่ ครั้งที่22/2493)
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนาฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนา เช่นเดียวกัน(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดา โจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น (ประชุมใหญ่ ครั้งที่22/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2059/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองข้าวเปลือกโดยไม่แจ้งปริมาณ: พ.ร.บ.การค้าข้าวใช้บังคับกับกสิกรเช่นกัน
ข้าวเปลือกที่มีไว้ในครอบครองไม่แจ้งปริมาณ ต้องริบทั้งหมด และตาม พ.ร.บ.การค้าข้าวมาตรา 8 ใช้บังคับทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นกสิกรหรือไม่ ไม่เหมือนกับมาตรา 9 ซึ่งมีมาตรา 11 ยกเว้นไว้สำหรับกสิกร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2059/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองข้าวเปลือกโดยไม่แจ้งปริมาณตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว แม้เป็นกสิกรก็ต้องปฏิบัติตาม
ข้าวเปลือกที่มีไว้ในครอบครองไม่แจ้งปริมาณ ต้องริบทั้งหมด และตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว มาตรา 8 ใช้บังคับทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นกสิกรหรือไม่ไม่เหมือนกับมาตรา 9 ซึ่งมีมาตรา 11 ยกเว้น ไว้สำหรับกสิกร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.การค้าข้าว: กสิกรผู้ผลิตข้าวก็ต้องปฏิบัติตาม
พ.ร.บ.การค้าข้าวหาได้บัญญัติควบคุมฉะเพาะผู้ค้าข้าวเท่านั้นไม่ แต่เป็นการควมคุมตลอดถึงกิจการต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการค้าข้าวนั้นด้วย.
จำเลยเป็นกสิกร มีข้าวเปลือก ซึ่งจำเลยทำจากนาของจำเลยเอง แต่จำเลยไปให้ถ้อยคำเท็จในการแจ้งปริมาณ จำเลยย่อมมีผิดตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว
มีข้าวเปลือกไว้ในความครอบครอง 4 เกวียนหลวง แต่แจ้งปริมาณเพียง 1 เกวียนหลวงกับ 50 ถัง ดังนี้ ข้าว 4 เกวียนหลวงของกลางอันเกี่ยวเนื่องกับความผิด ต้องริบ.
จำเลยเป็นกสิกร มีข้าวเปลือก ซึ่งจำเลยทำจากนาของจำเลยเอง แต่จำเลยไปให้ถ้อยคำเท็จในการแจ้งปริมาณ จำเลยย่อมมีผิดตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว
มีข้าวเปลือกไว้ในความครอบครอง 4 เกวียนหลวง แต่แจ้งปริมาณเพียง 1 เกวียนหลวงกับ 50 ถัง ดังนี้ ข้าว 4 เกวียนหลวงของกลางอันเกี่ยวเนื่องกับความผิด ต้องริบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือกเกินกำหนด: ความรับผิดชอบของผู้มีข้าว และการแจ้งประกาศ
คณะกรมการจังหวัดประกาศให้ผู้มีข้าวเปลือกเกิน 50 ถังไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บภายในกำหนด 7 วัน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านไปบอกแก่ราษฎรทีละคนสองคน จำเลยอยู่ห่างไกลอำเภอและจังหวัด ผู้ใหญ่บ้านไปบอกวันสุดท้าย จำเลยได้มาแจ้งความแต่เกินกำหนด 7 วันแล้ว ดังนี้จำเลยหามีความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 402-405/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือก: เจตนาฝ่าฝืนและความแตกต่างของกฎหมาย
คณะกรรมการจังหวัดได้ออกประกาศให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้าวเปลือก ไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บ ตามอำนาจในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคนั้น แม้เรื่องการแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวจะมีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติสำรวจห้ามกักกันข้าวซึ่งออกใช้ภายหลังก็ดีศาลก็จะใช้ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวแทนพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ไม่ได้ เพราะกฎหมายทั้งสองนี้มีความมุ่งหมายต่างกัน
ผู้ที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามประกาศของคณะกรรมการจังหวัดซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ นั้น ถ้าไม่ทราบประกาศดังกล่าวแล้วนั้นก็ถือว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืน ยังไม่ผิด
คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง หากโจทก์ต้องสืบพยานประกอบคำรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 เมื่อพยานที่นำสืบกลับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเช่นนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้
ผู้ที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามประกาศของคณะกรรมการจังหวัดซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ นั้น ถ้าไม่ทราบประกาศดังกล่าวแล้วนั้นก็ถือว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืน ยังไม่ผิด
คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง หากโจทก์ต้องสืบพยานประกอบคำรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 เมื่อพยานที่นำสืบกลับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเช่นนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1173/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตของคำว่า 'ข้าวเปลือก' ตาม พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าว: ข้าวที่เสื่อมสภาพจนใช้บริโภคไม่ได้ ไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย
คำว่าข้าวเปลือกใน พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว มุ่งหมายถึงข้าวเปลือกที่จะนำไปสีเป็นข้าวสารให้มนุษย์ใช้เป็นอาหารบริโภคได้
ข้าวเปลือกที่แปรสภาพไปจนใช้เป็นอาหารสำหรับมนุษย์ไม่ได้แล้ว ไม่อยู่ในความควบคุมของ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
ข้าวเปลือกที่แปรสภาพไปจนใช้เป็นอาหารสำหรับมนุษย์ไม่ได้แล้ว ไม่อยู่ในความควบคุมของ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว