พบผลลัพธ์ทั้งหมด 59 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1355/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินสินสมรสเพื่อชำระหนี้ระหว่างคดี: จำเลยไม่สามารถโอนได้โดยสมบูรณ์หากโจทก์ไม่ยินยอม
ระหว่างคดีที่ภริยาฟ้องหย่าและแบ่งสินบริคณห์สามีทำยอมความเอาที่ดินสินสมรสใช้หนี้ในคดีที่มีผู้ฟ้องสามีเป็นจำเลย โดยภริยาไม่ได้ยินยอมด้วย สามีจะโอนที่ดินไปโดยสมบูรณ์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ช่วงคดีความ: การพยายามเข้าครอบครองต่อเนื่องแม้ถูกขัดขวาง ไม่ถือเป็นการครอบครองโดยสงบและเปิดเผย
โจทก์จำเลยเป็นความกันในศาลแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินกันมาครั้งหนึ่งแล้วในระหว่างพิจารณาคดีก่อนนั้นต่างก็แย่งกันเข้าทำนารายพิพาทถึงกับจะเกิดวิวาทกัน จนทั้ง สอง ฝ่ายต่างขอความคุ้มครอง ขอให้ศาลเรียกมาประมูลทำนารายนี้ แต่ศาลไม่อนุญาต ในที่สุดโจทก์ได้เข้าทำนาพิพาทบางส่วน ดังนี้ เป็นพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นได้ว่าในระหว่างคดีก่อนนั้น โจทก์ได้พยายามเข้าครอบครองเพื่อเอาที่พิพาทคืนอยู่เสมอมา หากแต่จำเลยไม่ยอมคืนให้ ฉะนั้น จะฟังว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทไว้ โดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาโดยนับเวลา ในระหว่างที่เป็นความกันในคดีก่อนดังกล่าวแล้ว เข้าด้วยกันไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้กลางคดี ศาลใช้กฎหมายที่เบากว่าลงโทษจำเลย
จำเลยกระทำความผิดในขณะที่ใช้ พระราชบัญญัติภาษีชั้นในจ.ศ.1248
โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติภาษีชั้นในจ.ศ.1248 แต่ในวันที่โจทก์ยื่นฟ้อง ได้มีกฎหมายใหม่คือพระราชบัญญัติสุราพ.ศ.2493 ซึ่งบัญญัติให้ยกเลิก พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.1248เสียและได้ประกาศใช้มา 9 วันแล้วดังนี้ เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติสุรา 2493 ด้วยและมีโทษเบากว่าที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 แล้ว กรณีต้องตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8 และศาลอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192วรรคสี่ ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสุรา 2493ได้
โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติภาษีชั้นในจ.ศ.1248 แต่ในวันที่โจทก์ยื่นฟ้อง ได้มีกฎหมายใหม่คือพระราชบัญญัติสุราพ.ศ.2493 ซึ่งบัญญัติให้ยกเลิก พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.1248เสียและได้ประกาศใช้มา 9 วันแล้วดังนี้ เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติสุรา 2493 ด้วยและมีโทษเบากว่าที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 แล้ว กรณีต้องตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8 และศาลอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192วรรคสี่ ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสุรา 2493ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งคุ้มครองผลประโยชน์จากทรัพย์พิพาทระหว่างดำเนินคดีห้างหุ้นส่วน
ผู้เป็นหุ้นส่วน ฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและให้ชำระบัญชีในระหว่างพิจารณา โจทก์ร้องขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองโดยให้โจทก์จำเลยประมูลการเก็บผลประโยชน์ระหว่างความ หรือเอาเงินวางต่อศาลเป็นกองกลาง ฯลฯ ดังนี้ถือว่า เป็นเรื่องขอให้ศาลคุ้มครองตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 25,264 ศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้จัดการนำผลประโยชน์จากทรัพย์รายพิพาทที่จะเกิดขึ้นมามอบไว้ต่อศาลในระหว่างคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับมรดกของผู้ร้องสอดและการคุ้มครองสิทธิในคดีระหว่างโจทก์จำเลย
ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามาเพื่อขอให้ได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับมฤดกของผู้ร้อง ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 57 (1) ซึ่งบัญญัติให้บุคคลที่ 3 ได้รับความคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่โดยทันที ไม่จำต้องฟ้องคดีหลายเรื่อง และไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความ เช่น อนุมาตรา 2 แม้คู่ความจะคัดค้าน ศาลก็สั่งอนุญาตได้.
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัว และในฐานผู้จัดการมฤดก และผู้รับมฤดกของภริยาผู้วายชนม์ ผู้ร้องสอด ผู้เป็นมารดาผู้ตาย ผู้ร้องสอดว่า โจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหาย เนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้อง จำเลยเรียกทรัพย์มฤดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัว และในฐานผู้จัดการและรับมฤดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมา ศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 243 (1)
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัว และในฐานผู้จัดการมฤดก และผู้รับมฤดกของภริยาผู้วายชนม์ ผู้ร้องสอด ผู้เป็นมารดาผู้ตาย ผู้ร้องสอดว่า โจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหาย เนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้อง จำเลยเรียกทรัพย์มฤดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัว และในฐานผู้จัดการและรับมฤดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมา ศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 243 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายอาวุธปืนยกเว้นโทษผู้มีปืนเถื่อนที่นำไปจดทะเบียน แม้คดีความอยู่ในระหว่างพิจารณา
พระราชบัญญัติอาวุธปืนที่มีบทเฉพาะกาลให้ผู้มีอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตนำปืนไปจดทะเบียนได้นั้น ถือว่ากฎหมายยกเว้นไม่เอาโทษแก่ผู้มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ผู้ที่ถูกฟ้องแล้วแต่คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลใดก็ตามก็ได้รับประโยชน์จากกฎหมายนี้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มีผลเมื่ออ่านให้คู่ความฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระบัญชีหุ้นส่วนหลังเลิกสัญญา แม้มีคดีความค้างอยู่ ไม่ถือว่าใช้สิทธิไม่สุจริต
เมื่อหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ตกลงกันในเรื่องชำระบัญชี ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งย่อมฟ้องขอให้ศาลตั้งผู้อื่นเป็นผู้ชำระบัญชีได้.
แม้หุ้นส่วนเลิกกันมานานแล้ว ก็ไม่เป็นเหตุขัดขวางที่จะร้องขอให้มีการชำระบัญชี
การฟ้องขอชำระบัญชีหุ้นส่วน แม้จะเพื่อฟ้องคดีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นหนี้ที่ปรากฎจากการชำระบัญชี ก็ไม่ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริต.
แม้หุ้นส่วนเลิกกันมานานแล้ว ก็ไม่เป็นเหตุขัดขวางที่จะร้องขอให้มีการชำระบัญชี
การฟ้องขอชำระบัญชีหุ้นส่วน แม้จะเพื่อฟ้องคดีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นหนี้ที่ปรากฎจากการชำระบัญชี ก็ไม่ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายใหม่ยกเลิกความผิดเดิม แม้คดีความยังไม่สิ้นสุด ศาลต้องยกฟ้อง
เดิมมีพระราชกฤษฎีกาห้ามคนต่างด้าวรับจ้างทำการตัดผม ต่อมาในระหว่างพิจารณาคดีมีพระราชกฤษฎีกายกเลิกกฤษฎีกาเดิม คงห้ามการอาชีพบางอย่าง แต่ไม่ห้ามการตัดผมดั่งนี้ถือว่ากฎหมายใหม่ต่างกับกฎหมายเก่าลงโทษจำเลยไม่ได้
อ้างฎีกาที่ 623/85
อ้างฎีกาที่ 623/85
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำคดีหมิ่นประมาท: ผู้เสียหายอื่นฟ้องไม่ได้ หากมีผู้เสียหายคนแรกฟ้องแล้ว
กล่าวคำหมิ่นประมาทบุคคลหลายคนในครั้งเดียวกัน ผู้เสียหายผู้หนึ่งนำเรื่องขึ้นร้องฟ้องจนผู้กล่าวหมิ่นประมาทถูกลงโทษไปแล้วผู้เสียหายคนอื่นจะนำคดีมาร้องฟ้องอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ (อ้างฎีกา 559/84)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการแก้ไขกฎหมายต่อคดีที่ฟ้องร้องแล้ว โจทก์อ้างอิงกฎหมายเดิมได้
เมื่อมีกฎหมายใหม่แก้ไขความในกฎหมายเก่าเฉพาะบางบทมาตรา. โดยบัญญัติให้ยกเลิกบทมาตราเก่าและให้ใช้ความตามกฎหมายใหม่แทนเช่นนี้. โจทก์ฟ้องอ้างมาตราตามเก่าก็ได้.