พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนผู้รับมรดกและการฟ้องร้องเพื่อแสดงสิทธิในมรดก โดยคดีไม่มีทุนทรัพย์
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์มีสิทธิได้รับมรดกและลงชื่อโจทก์ในโฉนดร่วมกับจำเลยนั้น เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ จะเรียกค่าธรรมเนียมอย่างคดีมีทุนทรัพย์ไม่ได้
การที่บิดาพูดรับรองในวันทำบุญ 7 วันศพภริยาว่าจะแบ่งนาพิพาทให้บุตรทุกคน แล้วบิดาได้ครอบครองนาพิพาทต่อมาร่วมกับบุตรบางคนดังนี้ ถือว่าบิดาได้ครอบครองนาพิพาทแทน
สินสมรสระหว่างบิดามารดานั้น หากมารดาตาย แต่ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ บุตรคงมีส่วนเฉพาะที่เป็นมรดกของมารดาเท่านั้น
การที่บิดาพูดรับรองในวันทำบุญ 7 วันศพภริยาว่าจะแบ่งนาพิพาทให้บุตรทุกคน แล้วบิดาได้ครอบครองนาพิพาทต่อมาร่วมกับบุตรบางคนดังนี้ ถือว่าบิดาได้ครอบครองนาพิพาทแทน
สินสมรสระหว่างบิดามารดานั้น หากมารดาตาย แต่ถ้าบิดายังมีชีวิตอยู่ บุตรคงมีส่วนเฉพาะที่เป็นมรดกของมารดาเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีไม่มีทุนทรัพย์: การบังคับไถ่ทรัพย์สินขายฝากและข้อจำกัดการฎีกา
ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ให้โจทก์ไถ่ทรัพย์สินขายฝากคืนและรับเงิน 2600 บาท ดังนี้เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์กำหนดลงเป็นราคาเงินมิได้ เพราะจำนวนเงินมิใช่วัตถุประสงค์ของโจทก์ ทั้งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นนายเดียวนั่งพิจารณาได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีไม่มีทุนทรัพย์: คำขอไถ่ทรัพย์สินขายฝากและรับเงิน ไม่ถือเป็นราคาเงินที่ชัดเจน
ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยให้โจทก์ไถ่ทรัพย์สินขายฝากคืนและรับเงิน 2,600 บาท ดังนี้เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์กำหนดลงเป็นราคาเงินมิได้ เพราะจำนวนเงินมิใช่วัตถุประสงค์ของโจทก์ทั้งเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นนายเดียวนั่งพิจารณาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิโดยครอบครองปรปักษ์เกิน 10 ปี และขอบเขตการฎีกาในคดีไม่มีทุนทรัพย์
คดี+ทรัพย์ ศาลอุทธรณ์+พิพากษาทับสัตย์ศา+ คู่ความฎีกาได้ฉะเพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์
ศ.ศ.+ 1382
ครอบครองที่พิพาทโดยใช้อำนาจอย่างเจ้าของเกินกว่า 10 ปี ย่อมได้กรรมสิทธิ
ศ.ศ.+ 1382
ครอบครองที่พิพาทโดยใช้อำนาจอย่างเจ้าของเกินกว่า 10 ปี ย่อมได้กรรมสิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีไม่มีทุนทรัพย์: การขอว่าความอย่างคนอนาถา และข้อจำกัดในการฎีกาข้อเท็จจริง
การร้องขอให้ฟ้องความอย่างคนอนาถานั้น นับว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาทับสัตย์ศาลล่างโจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ม.4 อ้าง ฎีกาที่ 663/2477
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาข้อเท็จจริงในคดีไม่มีทุนทรัพย์: ศาลฎีกาห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงหากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลเดิม
+ร้องขอว่าความอย่างคนอนาถานั้นนับว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาทับสัตย์ศาลเดิมจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฎีกาในคดีไม่มีทุนทรัพย์: ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมูลชนะในคดี
คดีเรื่องคัดค้านคำสั่งศาลเดิมที่ไม่ยอมรับฎีกาอย่างคนอนาถาเรียกว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ข้อที่ว่าคดีจะมีมูลพอชนะในคดีเช่นนี้หรือไม่นั้นถ้าเป็นปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ ปัญหาเกี่ยวกับความมากน้อยแห่งจำนวนค่าเสียหายที่ศาลกำหนดให้ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2931/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดอำนาจอุทธรณ์คดีไม่มีทุนทรัพย์และทุนทรัพย์น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่ดินพิพาทมิใช่เป็นของโจทก์ แต่เป็นของผู้อื่น คือ ม. และ ห. กับมิได้อ้างว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่ดินมาจาก ม. และ ห. และยึดถือครอบครองเพื่อตนจนได้สิทธิครอบครองแล้ว ถือไม่ได้ว่าจำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท คดีของโจทก์ที่ฟ้องและมีคำขอบังคับให้ขับไล่จำเลยจึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เมื่อโจทก์พอใจไม่อุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นส่วนที่ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จากการที่จำเลยอยู่ในที่ดินโดยละเมิดเดือนละ 2,000 บาท จึงต้องถือว่าเป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลใดๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละ 4,000 บาท ซึ่งห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 วรรคสอง ในส่วนที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย แม้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ แต่ค่าเสียหายตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไปคำนวณถึงวันที่ 27 เมษายน 2554 ซึ่งเป็นวันฟ้อง จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ในส่วนนี้ก็ไม่เกิน 50,000 บาท ห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง เช่นกัน อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 รับวินิจฉัยให้เป็นการไม่ชอบ จำเลยไม่สิทธิที่จะฎีกาปัญหาดังกล่าวอีก เพราะเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7956/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีไม่มีทุนทรัพย์: สิทธิเก็บกินในที่ดินมรดก ศาลฎีกาสั่งคืนค่าขึ้นศาล
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิเก็บกินในที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพย์มรดกเท่านั้น มิได้ขอให้ที่ดินพิพาทเป็นของตน หากฟังว่าโจทก์มีสิทธิเก็บกินในที่ดินพิพาท ที่ดินพิพาทก็ยังเป็นทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกอยู่ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ที่ศาลชั้นต้นเรียกเก็บค่าขึ้นศาลทั้งสามชั้นศาลจากโจทก์อย่างคดีมีทุนทรัพย์ จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เรียกเก็บเกินมา