พบผลลัพธ์ทั้งหมด 189 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2886/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดิน: ความผิดสำเร็จแล้ว ไม่เป็นความผิดต่อเนื่อง
การที่จำเลยเข้าไปล้อมรั้วในที่ดินพิพาทเพื่อถือการครอบครองและรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ร่วมโดยปกติสุขตั้งแต่เวลากลางวันความผิดฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 362 ได้เกิดขึ้นและสำเร็จลงแล้ว ส่วนการครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุก ไม่เป็นความผิดต่อเนื่องติดต่อเกิดขึ้นตลอดเวลาอันจะเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 365
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1881/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดิน: การกระทำความผิดสำเร็จเมื่อเริ่มเข้ายึดครอง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ
จำเลยเข้าไปในที่ดินของจ. แล้วปลูกมันสำปะหลังเป็นการเข้าไปเพื่อถือการครอบครองหรือกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุขย่อมเป็นความผิดฐานบุกรุกในขณะที่เริ่มเข้าไปปลูกพืชผลนั้นความผิดดังกล่าวได้เกิดขึ้นและสำเร็จแล้วตั้งแต่จำเลยเข้าไปจึงเป็นการรบกวนการครอบครองโดยปกติสุขของจ. ส่วนการที่จำเลยครอบครองที่ดินต่อมาเป็นผลของการบุกรุกโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้ซื้อที่ดินจากจ.เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิครอบครองหลังจากการกระทำผิดฐานบุกรุกสำเร็จแล้วการกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการบุกรุกที่ดินของโจทก์ร่วมโจทก์ร่วมไม่เป็นผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเฮโรอีนเป็นความผิดสำเร็จ การริบรถยนต์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเป็นความผิดสำเร็จเมื่อมีไว้ในครอบครอง การที่จำเลยเพียงแต่ซ่อนเฮโรอีน จำนวน 0.50 กรัม ที่มีไว้ในครอบครองไว้ใต้พรมหลังที่นั่งคนขับ ไม่ทำให้รถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด จึงไม่อาจริบรถยนต์ของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการปล้นทรัพย์: ไม่ริบหากใช้หลังการกระทำความผิดสำเร็จ
แม้จะฟังได้ว่าจำเลยขับรถจักรยานยนต์ของกลางไปปล้นทรัพย์ก็เป็นเพียงยานพาหนะซึ่งจำเลยขับมายังที่เกิดเหตุและขับออกไปจากที่เกิดเหตุเมื่อการปล้นทรัพย์สำเร็จแล้ว รถจักรยานยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4915/2537 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานหลบหนีขณะถูกคุมขัง: การกระทำความผิดสำเร็จ
จำเลยถูกคุมขังระหว่างสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาฐานชิงทรัพย์ขณะเจ้าพนักงานตำรวจนำจำเลยออกจากห้องขัง จำเลยวิ่งหลบหนีออกมา ไม่ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะติดตามจับกุมจำเลยได้หรือไม่ก็ตาม การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการหลบหนีไปในระหว่างที่ถูกคุมขังของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเป็นความผิดสำเร็จแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4915/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลบหนีระหว่างถูกควบคุมตัวในสถานีตำรวจ ถือเป็นความผิดสำเร็จ แม้จะยังไม่ออกจากอาคาร
จำเลยเป็นผู้ต้องหาถูกคุมขังอยู่ที่ห้องขังของสถานีตำรวจเวลา 8 นาฬิกา นายดาบตำรวจส. เสมียนคดี แจ้งความประสงค์ต่อนายดาบตำรวจก. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สิบเวรว่าได้รับคำสั่งจากพนักงานสอบสวนให้มาพิมพ์ลายนิ้วมือของจำเลย นายดาบตำรวจก. ไขกุญแจห้องขังเปิดประตูเพื่อใส่กุญแจมือจำเลยก่อนนำจำเลย ออกจากห้องขัง แต่จำเลยวิ่งสวนทางออกมาวิ่งหลบหนีลงไป ทางบันได สิบตำรวจตรีฉ. ซึ่งยืนอยู่ตรงที่พักบันไดประสบเหตุดังกล่าวจึงเข้าสกัดจับจำเลยไว้ได้ การที่จำเลยซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ ในห้องขังสถานีตำรวจอันเป็นการควบคุมที่เจ้าพนักงานตำรวจ จัดกำหนดขอบเขตเอาไว้ ออกจากขอบเขตดังกล่าวโดยผู้มีอำนาจ ควบคุมจำเลยยังมิได้อนุญาตในลักษณะของการวิ่งหลบหนี ออกมาพ้นเขตควบคุมแล้วไม่ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะติดตามจับกุม จำเลยได้หรือไม่ก็ตาม การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการหลบหนี ไปในระหว่างที่ถูกคุมขังของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เป็นความผิดสำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องหลบหนีให้พ้นออกไปจากตัวอาคารของสถานีตำรวจจึงจะถือว่าการหลบหนีสำเร็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4915/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลบหนีระหว่างถูกควบคุมตัว: การกระทำความผิดสำเร็จแม้ยังไม่พ้นอาคาร
จำเลยถูกคุมขังระหว่างสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาฐานชิงทรัพย์ขณะเจ้าพนักงานตำรวจนำจำเลยออกจากห้องขัง จำเลยวิ่งหลบหนีออกมาไม่ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะติดตามจับกุมจำเลยได้หรือไม่ก็ตามการกระทำของจำเลยย่อมเป็นการหลบหนีไปในระหว่างที่ถูกคุมขังของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาเป็นความผิดสำเร็จแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาบุกรุกเคหสถานและพยายามลักทรัพย์ แม้ผู้เสียหายขัดขวางก่อนสำเร็จ
จำเลยใช้ลูกกุญแจไขประตูห้องซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและเก็บรักษาทรัพย์ของผู้เสียหายจนเปิดออก ถือได้ว่า จำเลยได้ลงมือกระทำความผิดฐานบุกรุกเคหสถานและลักทรัพย์ของผู้เสียหายแล้ว แต่เมื่อผู้เสียหายพบเห็นและขัดขวางเสียก่อน จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดิน: ความผิดสำเร็จเมื่อเริ่มรบกวนการครอบครอง ไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง
ความผิดฐานบุกรุกเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่จำเลยเข้าไปรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาท ส่วนการที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกเท่านั้นหาใช่ความผิดต่อเนื่อง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 362 บทเดียวหาเป็นความผิดตามมาตรา 365(3) อีกบทหนึ่งไม่ ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้แม้จำเลยจะไม่ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามลักทรัพย์: การกระทำความผิดสำเร็จหรือไม่เมื่อผู้เสียหายขัดขวาง
จำเลยมีเจตนาลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย แต่จำเลยเพียงแต่นั่งคร่อม ยังไม่ได้เอารถออก จึงเป็นการลงมือลักทรัพย์แล้ว หากแต่กระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายเข้ามากอดเอาไว้ ทำให้จำเลยเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปไม่ได้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามลักทรัพย์