คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความระมัดระวัง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 123 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดามารดาต่อการกระทำละเมิดของบุตรผู้เยาว์ หากมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
กรณีในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 429 บิดามารดาจะต้องพิสูจน์ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
จำเลยที่ 1 ผู้เยาว์ไปรับจ้างทำงานในจังหวัดนครราชสีมาและได้ทำร้ายร่างกายโจทก์ โดยในระหว่างนั้นจำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นบิดามารดาอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่จำเลยที่ 2 และที่ 3 นำสืบได้ความเพียงว่าจำเลยที่ 1 ไปรับจ้างทำงานในจังหวัดนครราชสีมาโดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้ตามไปอยู่ด้วยเท่านั้น มิได้พิสูจน์ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งการละเมิดของจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดามารดาต่อการกระทำละเมิดของบุตรผู้เยาว์ จำเป็นต้องพิสูจน์ความระมัดระวังตามหน้าที่
กรณีที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่ง เป็นบิดามารดาของจำเลยที่ 1 ผู้เยาว์ รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในผลของการละเมิดของจำเลยที่ 1 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 429 นั้น จำเลยที่ 2และที่ 3 จะต้อง พิสูจน์ว่าตน ได้ ใช้ ความระมัดระวังตาม สมควรแก่หน้าที่ดูแล ซึ่ง ทำอยู่นั้น แต่ จำเลยที่ 2 และที่ 3 นำสืบแต่ เพียงว่าจำเลยที่ 1 ไปรับจ้างทำงานในจังหวัด นครราชสีมา โดย จำเลยที่ 2และที่ 3 ไม่ได้ตาม ไปด้วย เท่านั้น มิได้พิสูจน์ว่าตน ได้ ใช้ความระมัดระวังตาม สมควรแก่หน้าที่ดูแล ซึ่ง ทำอยู่นั้น จำเลยที่ 2และที่ 3 จึงต้อง ร่วม รับผิดกับจำเลยที่ 1.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดามารดาต่อการกระทำละเมิดของบุตรผู้เยาว์ หากไม่พิสูจน์ความระมัดระวัง
กรณีในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 429บิดามารดาจะต้อง พิสูจน์ว่าตนได้ใช้ ความระมัดระวังตาม สมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่ง ทำอยู่นั้น จำเลยที่ 1 ผู้เยาว์ไปรับจ้างทำงานในจังหวัด นครราชสีมาและได้ ทำร้ายร่างกายโจทก์ โดยในระหว่างนั้นจำเลยที่ 2 และที่ 3ซึ่ง เป็นบิดามารดาอยู่ในจังหวัด บุรีรัมย์ แต่ จำเลยที่ 2 และที่ 3นำสืบได้ความเพียงว่าจำเลยที่ 1 ไปรับจ้างทำงานในจังหวัด นครราชสีมา โดย จำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้ตาม ไปอยู่ด้วยเท่านั้น มิได้พิสูจน์ว่าตนได้ใช้ ความระมัดระวังตาม สมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่ง ทำอยู่นั้น จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงต้อง ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งการละเมิดของจำเลยที่ 1.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4161/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารต้องรับผิดต่อความเสียหายจากเช็คปลอม หากไม่ใช้ความระมัดระวังตรวจสอบลายมือชื่อ แม้มีข้อตกลงยกเว้นความรับผิด
มีผู้ลักเช็คของโจทก์ไปปลอมลายมือชื่อโจทก์สั่งจ่ายเงิน 100,000 บาท แล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารจำเลยที่ 3 ซึ่งโจทก์มีบัญชีกระแสรายวันอยู่ จำเลยที่ 1 ผู้ช่วยสมุห์บัญชีและจำเลยที่ 2 ผู้จัดการธนาคารจำเลยที่ 3 มีหน้าที่ตรวจลายมือชื่อลูกค้าอยู่เป็นประจำย่อมมีความชำนาญในการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของลูกค้ามากกว่าคนธรรมดา ถ้าใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่โดยละเอียดรอบคอบจะต้องทราบว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายในเช็คเป็นลายมือชื่อปลอม แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังจึงไม่ทราบและอนุมัติให้จ่ายเงินจากบัญชีของโจทก์ จึงเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เป็นทั้งละเมิดและผิดสัญญาฝากทรัพย์ซึ่งจำเลยทั้งสามต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ แม้จะมีข้อตกลงยกเว้นความรับผิดของจำเลยไว้ตามหนังสือขอเปิดบัญชีกระแสรายวันก็ตาม จำเลยก็จะอ้างมาปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 373
หนี้ละเมิดอันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายมากน้อยเพียงใด ต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณ ข้อสำคัญคือความเสียหายเกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร แม้จำเลยจะมิได้ให้การว่าโจทก์จะต้องร่วมรับผิดด้วยก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์และจำเลยต่างประมาทเลินเล่อด้วยกัน ศาลกำหนดให้จำเลยรับผิดเพียงกึ่งหนึ่งของค่าเสียหายทั้งหมดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4138/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของข้าราชการต่อความเสียหายของพัสดุ: การใช้ความระมัดระวังตามสมควรและเหตุสุดวิสัย
จำเลยมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกพัสดุ กองคลัง ของโจทก์มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับพัสดุ จำเลยได้รับพัสดุเครื่องมือแพทย์จำนวน 7 หีบห่อมาเก็บรักษา แต่ห้องเก็บพัสดุของโจทก์มีของเก็บอยู่เต็ม จำเลยจึงนำพัสดุดังกล่าวไปฝากเก็บไว้ที่ห้องพัสดุของอีกกองหนึ่งโดยมิได้ขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งห้องเก็บพัสดุดังกล่าวอยู่ชั้นล่าง เป็นห้องไม่มีหน้าต่างมีประตู 2 ประตูประตูหนึ่งใส่กลอนไว้ อีกประตูหนึ่งใช้กุญแจลูกบิด มีเจ้าหน้าที่เก็บรักษาลูกกุญแจ ชั้นบนของห้องดังกล่าวมีเจ้าหนี้ที่ทำงานอยู่การนำพัสดุไปฝากเก็บที่กองอื่นก็ไม่มีระเบียบให้ต้องขออนุมัติต่อผู้บังคับบัญชาถือได้ว่าจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วแม้จำเลยจะมิได้จัดเวรยามเฝ้าก็ปรากฏว่าหลังเลิกงานมีเวรยามของกรมดูแลอยู่แล้ว และการที่จำเลยจัดให้คณะกรรมการตรวจรับหลังจากรับของประมาณ 10 วัน เนื่องจากต้องตรวจสอบและแปลเอกสารก็มิได้เนิ่นนานเกินสมควร การที่พัสดุดังกล่าวหายไปบางส่วนจึงถือไม่ได้ว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4138/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อความเสียหายจากพัสดุสูญหาย: การใช้ความระมัดระวังตามสมควรและการตรวจสอบเอกสาร
จำเลยมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกพัสดุ กองคลังของโจทก์มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานพัสดุ จำเลยได้รับพัสดุเครื่องมือแพทย์จำนวน 7 หีบห่อมาเก็บรักษาแต่ห้องเก็บพัสดุของโจทก์มีของเก็บอยู่เต็ม จำเลยจึงนำพัสดุดังกล่าวไปฝากเก็บไว้ที่ห้องพัสดุของอีกกองหนึ่งโดยมิได้ขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งห้องเก็บพัสดุดังกล่าวอยู่ชั้นล่าง เป็นห้องไม่มีหน้าต่าง มีประตู2 ประตู ประตูหนึ่งใส่กลอนไว้อีกประตูหนึ่งมีกุญแจลูกบิด มีเจ้าหน้าที่เก็บรักษาลูกกุญแจ ชั้นบนของห้องดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ การนำพัสดุไปฝากเก็บที่กองอื่นก็ไม่มีระเบียบให้ต้องขออนุมัติต่อผู้บังคับบัญชา ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว แม้จำเลยจะมิได้จัดเวรยามเฝ้าก็ปรากฏว่าหลังเลิกงานมีเวรยามของกรมดูแลอยู่แล้ว และการที่จำเลยจัดให้คณะกรรมการตรวจรับหลังจากรับของประมาณ 10 วัน เนื่องจากต้องตรวจสอบและแปลเอกสารก็มิได้เนิ่นนานเกินสมควร การที่พัสดุดังกล่าวหายไปบางส่วน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2192/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งจำหน่ายคดีเนื่องจากขาดนัดพิจารณา: ศาลต้องตรวจสอบความถูกต้องของวันนัดและใช้ความระมัดระวัง
ทนายความโจทก์ได้รับแจ้งจากบุคคลซึ่ง มอบฉันทะให้นำคำร้องขอเลื่อนคดีไปยื่นต่อศาลว่าศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีนัดสืบพยานจำเลยใหม่ เวลา 13.30 นาฬิกา เป็นเพียงการได้รับคำบอกเล่าจากตัวแทนโอกาสผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ง่าย แต่ทนายความโจทก์ได้ใช้ความระมัดระวังเยี่ยงวิญญูชนโดยไปที่ศาลตรวจดูบัญชีนัดความที่ประกาศให้ประชาชนทราบก็ระบุว่าศาลนัดเวลา 13.30 นาฬิกา ตรงกันการที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีในวันนัดนั้นตั้งแต่เวลา 9.50 นาฬิกาอ้างว่าโจทก์จงใจขาดนัดพิจารณาเพราะตามรายงานกระบวนพิจารณาระบุวันนัดสืบพยานจำเลยไว้เวลา 9 นาฬิกา จึงเป็นการสั่งโดยผิดหลงในข้อที่มุ่งหมายให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วย ความยุติธรรมโจทก์ขอให้เพิกถอนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อความเสียหายจากทรัพย์สินสูญหาย: การรักษาความระมัดระวังตามวิสัยวิญญูชน
จำเลยเข้าเวรรักษาราชการตาม หน้าที่ และปฏิบัติอย่างที่เคยปฏิบัติมาก่อน กับได้ ใช้ ความระมัดระวังตาม วิสัยเช่น วิญญูชนทั่วไปจะพึงปฏิบัติในการดูแล ทรัพย์สินของตน แล้ว เมื่อปรากฏว่าคนร้ายได้ เล็ดลอดเข้าไปในอาคารโรงเรียน และงัดประตูเก็บเครื่องพิมพ์ดีดลักเอาเครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนไปในขณะที่จำเลยทั้งสามนอนหลับ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้เครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนสูญหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อความเสียหายจากทรัพย์สินสูญหาย: หน้าที่เวรรักษาการณ์, ความระมัดระวัง, เหตุสุดวิสัย
จำเลยทั้งสามไม่มีหน้าที่เป็นยามรักษาความปลอดภัย และได้เข้าเวรรักษาราชการตามหน้าที่และปฏิบัติอย่างที่เคยปฏิบัติมาก่อนกับได้ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยเช่นวิญญูชนทั่วไปจะพึงปฏิบัติในการดูแลทรัพย์สินของตนแล้ว เมื่อปรากฏว่าคนร้ายได้เล็ดลอดเข้าไปในอาคารโรงเรียนและงัดประตูเก็บเครื่องพิมพ์ดีดลักเอาเครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนไปในขณะที่จำเลยทั้งสามนอนหลับ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้เครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนสูญหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อทรัพย์สินสูญหาย: การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังตามวิสัยวิญญูชน
จำเลยเข้าเวรรักษาราชการตาม หน้าที่ และปฏิบัติอย่างที่เคยปฏิบัติมาก่อน กับได้ ใช้ ความระมัดระวังตาม วิสัยเช่น วิญญูชนทั่วไปจะพึงปฏิบัติในการดูแล ทรัพย์สินของตน แล้ว เมื่อปรากฏว่าคนร้ายได้ เล็ดลอดเข้าไปในอาคารโรงเรียน และงัดประตูเก็บเครื่องพิมพ์ดีดลักเอาเครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนไปในขณะที่จำเลยทั้งสามนอนหลับ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้เครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนสูญหาย.
of 13