คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความสมบูรณ์ของฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 134 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญา: องค์ประกอบความผิดที่ขาดหายและรายละเอียดที่ไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 โดยไม่ปรากฏรายละเอียดว่าให้ทรัพย์สินอะไร แก่ใคร ซึ่งเป็นสาระสำคัญของฟ้องที่จะต้องกล่าวถึง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยไม่มีข้อความว่า เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดตามมาตรานี้ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่าจำเลยมีหน้าที่ทำเอกสารดูแลรักษาเอกสาร รับเอกสาร หรือมีหน้าที่กรอกข้อความลงในเอกสาร ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 161, 162 จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158 (5)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา278, 284 โดยไม่มีรายละเอียดว่ามีการขู่เข็ญ หรือใช้กำลังประทุษร้ายหรือใช้อุบายหลอกลวง ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา340 โดยไม่ได้บรรยายว่าการใช้กำลังประทุษร้ายของจำเลยดังกล่าว จำเลยกระทำอย่างใดเพื่อที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาและไม่ปรากฏว่าการใช้กำลังประทุษร้ายนั้นเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาเอาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 339 อันเป็นส่วนหนึ่งของความผิดฐานปล้นทรัพย์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3503/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร: การบรรยายฟ้องและข้อประกอบเจตนา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันพรากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุกว่าสิบสามปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี และมีข้อความในวงเล็บระบุถึงอายุของผู้เสียหายไว้ชัดเจนว่า ผู้เสียหายอายุ 14 ปีเศษ ไปเสียจาก ว. ซึ่งเป็นบิดาและผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร โดยผู้เสียหายเต็มใจไปด้วย ดังนี้ครบองค์ประกอบความผิดฐานพรากผู้เยาว์แล้ว ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) หาเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่ ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้กระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่หลายครั้งเป็นเพียงข้อประกอบเจตนาแสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันพรากผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารตามบทกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษโดยตรง โจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 จึงไม่จำต้องบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลา สถานที่และจำนวนครั้งที่จำเลยที่ 1 ได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย และที่จำเลยทั้งสองเป็นสามีภริยากันหรือไม่ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา มิใช่ข้อสำคัญที่จะต้องกล่าวในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: วันเวลาเกิดเหตุที่ไม่ชัดเจนแต่โจทก์บรรยายตามที่ทราบ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "เมื่อวันเดือนใดไม่ปรากฏจนถึงปัจจุบัน ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยทั้งสองร่วมกันบังอาจบุกรุกที่ดินและทำให้เสียทรัพย์ โจทก์เพิ่งทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อเดือนมกราคม 2523" เห็นได้ว่า โจทก์ไม่ทราบแน่ชัดว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดวันเวลาใด แต่โจทก์ได้บรรยายเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิดเท่าที่ทราบพอสมควรที่จะให้จำเลยทั้งสองเข้าใจแล้วไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้หรือเสียเปรียบ ฟ้องของโจทก์จึงมีข้อความสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา แม้ระบุวันเวลาเกิดเหตุไม่ชัดเจน หากบรรยายตามที่ทราบและจำเลยไม่หลงต่อสู้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า 'เมื่อวันเดือนใดไม่ปรากฏจนถึงปัจจุบัน ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยทั้งสองร่วมกันบังอาจบุกรุกที่ดินและทำให้เสียทรัพย์ โจทก์เพิ่งทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อเดือนมกราคม 2523' เห็นได้ว่า โจทก์ไม่ทราบแน่ชัดว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดวันเวลาใด แต่โจทก์ได้บรรยายเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิดเท่าที่ทราบพอสมควรที่จะให้จำเลยทั้งสองเข้าใจแล้วไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้หรือเสียเปรียบ ฟ้องของโจทก์จึงมีข้อความสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายรายละเอียดสถานที่เกิดเหตุและชนิดยาพิษ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยใช้ยาพิษผสมน้ำเทลงในบ่อปลาของผู้เสียหายและระบุตำบล อำเภอ และจังหวัดที่เกิดเหตุไว้ด้วย เช่นนี้ เป็นฟ้องที่บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 บัญญัติไว้และจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายชนิดของยาพิษด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายรายละเอียดยาพิษและสถานที่เกิดเหตุ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยใช้ยาพิษผสมน้ำเทลงในบ่อปลาของผู้เสียหายและระบุตำบล อำเภอ และจังหวัดที่เกิดเหตุไว้ด้วย เช่นนี้ เป็นฟ้องที่บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158. บัญญัติไว้และจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายชนิดของยาพิษด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม, อำนาจฟ้อง, การผิดนัดชำระหนี้: การพิจารณาความสมบูรณ์ของฟ้องและการเกิดผลของการผิดนัด
โจทก์บรรยายฟ้องมีความตอนหนึ่งว่า จำเลยที่ 1 สอดเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจการของห้างจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย ส่วนใหญ่ใจความเมื่ออ่านคำฟ้องโดยตลอดแล้วย่อมเป็นที่เข้าใจและเห็นได้ชัดว่ามีความหมายถึงจำเลยที่ 3 ฟ้องโจทก์เช่นนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ไม่เคลือบคลุม
โจทก์เป็นหญิงมีสามี เมื่อได้รับความยินยอมจากสามีให้ฟ้องคดีได้แล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจมอบให้บุคคลอื่นฟ้องคดีแทนตนได้ ไม่จำเป็นต้องให้สามีลงชื่อให้ความยินยอมในใบมอบอำนาจซ้ำอีก
จำเลยออกเช็คชำระหนี้แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ ถือว่าจำเลยผิดนัดทันทีที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์มีอำนาจฟ้องโดยไม่ต้องบอกกล่าวทวงถามอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญาคดีทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า แม้ไม่ระบุตัวผู้กระทำผิดเฉพาะเจาะจง
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 อีกฝ่ายหนึ่ง ได้บังอาจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โจทก์บรรยายฟ้องตอนต่อไปใจความว่าโดนจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้บังอาจร่วมกันชกต่อยทำร้าย และใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 โดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญของจำเลยที่ 4 และไม่ถูกจำเลยที่ 3 ที่ 5 ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ได้บังอาจร่วมกันใช้ไม้ท่อนและมีดดาบเป็นอาวุธตีและฟันทำร้ายจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยเจตนาฆ่า แต่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จำเลยทั้งสองฝ่ายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้เห็นว่าฟ้องของโจทก์กล่าวไว้ชัดว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งกระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ฝ่ายหนึ่ง กระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 ที่ 2 แม้จำเลยไม่บรรยายว่าจำเลยคนใดทำร้ายจำเลยคนใด ก็เป็นการบรรยายพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เพราะฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยแต่ละฝ่ายสมคบกันกระทำผิด ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา พยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย แม้ไม่ได้ระบุตัวผู้กระทำผิดเฉพาะเจาะจง
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 อีกฝ่ายหนึ่ง ได้บังอาจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โจทก์บรรยายฟ้องตอนต่อไปใจความว่าโดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้บังอาจร่วมกันชกต่อยทำร้าย และใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 โดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญของจำเลยที่ 4 และไม่ถูกจำเลยที่ 3 ที่ 5 ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ได้บังอาจร่วมกันใช้ไม้ท่อนและมีดดาบเป็นอาวุธตีและพันทำร้ายจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยเจตนาฆ่า แต่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จำเลยทั้งสองฝ่ายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ เห็นว่าฟ้องของโจทก์กล่าวไว้ชัดว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งกระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ฝ่ายหนึ่ง กระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 ที่ 2 แม้จะไม่บรรยายว่าจำเลยคนใดทำร้ายจำเลยคนใด ก็เป็นการบรรยายพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เพราะฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยแต่ละฝ่ายสมคบกันกระทำผิด ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องอาญาต้องระบุเวลาที่เกิดการกระทำผิด โดยเฉพาะคดีเช็ค การระบุวันที่ออกเช็คไม่เพียงพอ
การกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 มาตรา 3 จะเกิดขึ้นต่อเมื่อธนาคารผู้มีชื่อเป็นผู้ใช้เงินตามเช็คปฏิเสธการใช้เงินตามเช็คนั้นแต่ฟ้องโจทก์ไม่ได้ระบุวันเวลาที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คและไม่ได้แนบสำเนาเช็คและใบคืนเช็คมากับคำฟ้องด้วยฟ้องของโจทก์ไม่มีรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิด จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
of 14