คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำพูด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 68 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยคำพูดที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ทำให้เสียชื่อเสียงหรือถูกเกลียดชัง ไม่เข้าข่ายความผิด
คดีหมิ่นประมาทจำเลยกล่าวว่าโจทก์ "เป็นผีปอบ" ดังนี้ เป็นถ้อยคำพูดว่าโจทก์ในสิ่งซึ่งไม่อาจเป็นไปได้ จึงมิใช่เรื่องใส่ความอันจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยคำพูดและเอกสารที่เป็นเหตุให้หย่าได้
จำเลยเขียนข้อความในเอกสารหมาย จ.1 ว่าโจทก์เป็นคนดอกทอง จำเลยมีปากเสียงกับโจทก์บ่อย ๆ 3 วันครั้งบ้าง 5 วันครั้งบ้าง เพราะระแวงว่าโจทก์ไปติดต่อกับชายอื่น แม้ในวันแต่งงานเมื่อจำเลยทราบว่าโจทก์ไปรับของขวัญจากชายอื่นจำเลยไม่พอใจมาก พอตกกลางคืนก็ว่าโจทก์คงทำมิดีมิร้าย คือ คงจะได้เสียกับชายอื่น ต่อมาอีก 2 - 3 วันก็ว่าโจทก์อีก และว่าโจทก์ดอกทอง เป็นผู้หญิงไม่ดี จำเลยด่าว่าโจทก์บ่อย ๆ กับว่าถึงพ่อแม่โจทก์ว่าไม่ดี ไม่สั่งสอนลูกด้วย ดังนี้ เห็นว่าที่จำเลยด่าโจทก์ เพราะโจทก์ไปรับของขวัญจากชายอื่นในวันแต่งงานกับจำเลย จำเลยข้องใจเชื่อว่าโจทก์คงได้เสียกับชายคนนั้น จึงว่าโจทก์คงได้เสียกัน ต่อมาก็ว่าโจทก์ทำนองเดียวกันอีกที่จำเลยด่าโจทก์ว่า คนดอกทอง มีความหมายว่าโจทก์ประพฤติตนเป็นหญิงใจง่ายในทางประเวณี มิใช่เป็นเพียงผรุสวาจา และมิใช่เป็นการด่าว่าด้วยมีโทสะจริตวู่วามขึ้นมาขณะหนึ่ง หากแต่จำเลยด่าว่าโจทก์บ่อย ๆ ซึ่งย่อมเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายทางจิตใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น ๆ เช่นนี้ การกระทำของจำลเยตั้งแต่ต้นจนถึงในที่สุดรวมกันชี้ให้เห็นว่า เป็นการกระทำด้วยเจตนาหมิ่นประมาทโจทก์และเป็นการร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1713/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำด้วยบันดาลโทสะจากคำพูดข่มเหง การลดโทษทางอาญาตามมาตรา 72
การที่จำเลยมีครรภ์กับผู้เสียหาย แล้วไปต่อว่าผู้เสียหายเรื่องที่ไม่ไปสู่ขอเลี้ยงดูเป็นภรรยาผู้เสียหายพูดโต้ตอบว่า "มึงยอมให้กูเล่นมึงทำไม" ดังนี้ ย่อมเป็นการกระทำที่ข่มเหงน้ำใจจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เพราะเกียรติยศชื่อเสียงอนาคตของลูกผู้หญิงเช่นจำเลย มิใช่เป็นอันขาดลงด้วยการปฏิเสธเฉยๆ ของผู้เสียหายเท่านั้นแต่ผู้เสียหายได้กล่าวถ้อยคำเย้ยหยันทับถมหาว่าจำเลยเป็นคนใจง่ายเข้าด้วย อันเป็นการข่มเหงน้ำใจอย่างไร้ศีลธรรม กรณีต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ที่ศาลจะลงโทษจำเลยให้น้อยลงกว่าอัตราที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นได้ ในเมื่อจำเลยได้กระทำลงไปทันใดเพราะการบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1713/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำด้วยบันดาลโทสะจากคำพูดข่มเหง การลดโทษทางอาญา
การที่จำเลยมีครรภ์กับผู้เสียหาย แล้วไปต่อว่าผู้เสียหายเรื่องที่ไม่ไปสู่ขอเลี้ยงดูเป็นภรรยา.ผู้เสียหายพูดโต้ตอบว่า 'มึงยอมให้กูเล่นมึงทำไม'.ดังนี้ ย่อมเป็นการกระทำที่ข่มเหงน้ำใจจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม. เพราะเกียรติยศชื่อเสียงอนาคตของลูกผู้หญิงเช่นจำเลย. มิใช่เป็นอันขาดลงด้วยการปฏิเสธเฉยๆของผู้เสียหายเท่านั้น.แต่ผู้เสียหายได้กล่าวถ้อยคำเย้ยหยันทับถมหาว่าจำเลยเป็นคนใจง่ายเข้าด้วย. อันเป็นการข่มเหงน้ำใจอย่างไร้ศีลธรรม. กรณีต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ที่ศาลจะลงโทษจำเลยให้น้อยลงกว่าอัตราที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นได้. ในเมื่อจำเลยได้กระทำลงไปทันใดเพราะการบันดาลโทสะ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีอาญา: ข้อสำคัญในคดีคือการกระทำผิดของผู้ต้องหา ไม่ใช่คำพูดของบุคคลอื่น
ในคดีอาญาฐานวางเพลิงที่โจทก์ถูกฟ้องข้อสำคัญในคดีก็คือโจทก์วางเพลิงหรือไม่ จำเลยเบิกความโดยนำข้อความที่ตนได้ยินจากคำพูดบุตรสาวโจทก์ที่พูดว่าโจทก์ ('เป็นหยังตำรวจไม่มาลากคอมันไปบักเพลิงใหญ่') ซึ่งข้อความที่บุตรสาวโจทก์พูดนั้นจะเป็นความจริงหรือไม่ จำเลยไม่ได้ยืนยันถือไม่ได้ว่าจำเลยทำผิดฐานเบิกความเท็จ(อ้างฎีกาที่ 172/2483)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดข่มขู่เพื่อป้องกันการขัดขวางการจับกุม ไม่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยซึ่งเป็นตำรวจไปจับแผ่นกระดาษจดหมายสลากกินรวบที่นางพีเป็นผู้ขาย ก่อนจับได้ก็มีการยื้อแย่งกัน และจับได้บนบ้านของโจทก์ จำเลยพูดกับโจทก์ว่า "เดี๋ยวจับเป็นอันธพาลทั้งพ่อทั้งลูก" (โจทก์ที่ 2 เป็นบุตรสาวของโจทก์ที่ 1) ดังนี้ ไม่มีมูลเป็นความผิดฐานใส่ความหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 เพราะจำเลยมิได้กล่าวว่าโจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลอันธพาล เป็นคำขู่เพื่อมิให้โจทก์ทั้งสองเข้าขัดขวางช่วยเหลือผู้กระทำผิดเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1201/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดข่มขู่เพื่อป้องกันการขัดขวางการจับกุม ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยซึ่งเป็นตำรวจไปจับแผ่นกระดาษจดหมายเลขสลากกินรวบที่นางพีเป็นผู้ขาย ก่อนจับได้ก็มีการยื้อแย่งกันและจับได้บนบ้านของโจทก์ จำเลยพูดกับโจทก์ว่า เดี๋ยวจับเป็นอันธพาลทั้งพ่อทั้งลูก(โจทก์ที่ 2 เป็นบุตรสาวของโจทก์ที่ 1) ดังนี้ ไม่มีมูลเป็นความผิดฐานใส่ความหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 เพราะจำเลยมิได้กล่าวว่าโจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลอันธพาล เป็นคำขู่เพื่อมิให้โจทก์ทั้งสองเข้าขัดขวางช่วยเหลือผู้กระทำผิดเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1110/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขู่เข็ญต้องแสดงให้เห็นถึงเจตนาและลักษณะที่น่ากลัว คำพูดระบายอารมณ์ไม่ถึงขั้นขู่เข็ญ
ผู้เสียหายไปทวงเงินจำเลยและกลับไปแล้ว จำเลยโกรธผู้เสียหายจึงเดินด่าผู้เสียหายอยู่บนบ้านของจำเลยว่า "บักถวิล โคตรพ่อโคตรแม่มึง มึงไม่สำนึกตัวว่าจะตายโหงกูมีปืนอยู่ 2 กระบอก กูจะเอามึงให้ตายแน่คราวนี้" โดยจำเลยไม่รู้ว่าผู้เสียหายมาแอบฟังเช่นนี้แสดงว่าจำเลยบ่นด่าคนเดียวเพื่อระบายอารมณ์ที่ไม่พอใจ ไม่มีลักษณะที่น่ากลัวหรือตกใจว่าจำเลยจะยิงผู้เสียหายจริงจังดังที่พูด คำพูดของจำเลยไม่เป็นการขู่เข็ญตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูด 'ไม่ให้อยากได้ไปฟ้องเอา' ไม่ถือเป็นคำหมิ่นประมาท และการเลี้ยงดูต้องพิจารณาความยากจนของผู้รับ
คำของผู้รับการให้โดยเสน่หาที่ว่า "ไม่ให้อยากได้ไปฟ้องเอา" นั้น หาใช่เป็นคำหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูด 'ไม่ให้อยากได้ไปฟ้องเอา' ไม่ถือเป็นคำหมิ่นประมาท และการเลี้ยงดูต้องพิจารณาฐานะของผู้รับ
คำของผู้รับการให้โดยเสน่หาที่ว่า "ไม่ให้อยากได้ไปฟ้องเอา" นั้น หาใช่เป็นคำหมิ่นประมาท
of 7