คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จัดการทรัพย์สิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 76 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสามีจัดการสิทธิเช่าของภริยา แม้จะมีการเช่าช่วง สิทธิเช่าเป็นทรัพย์สินจัดการได้ตามกฎหมาย
สามีมีอำนาจที่จะเอาตึกแถวซึ่งภริยาเช่าไปให้ผู้อื่นเช่าได้ เพราะสิทธิตามสัญญาเช่าเป็นทรัพย์สินซึ่งสามีมีอำนาจจัดการได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1468 โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะได้มีการเช่าช่วงระหว่างสามีภริยากันหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการถอนอำนาจปกครองบุตรหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด กรณีมีการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือจัดการทรัพย์สินผิด
แม้โจทก์จะเคยฟ้องจำเลยต่อศาลขอให้เพิกถอน อำนาจปกครองบุตรและศาลได้พิพากษาตามยอมให้จำเลยเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร คดีถึงที่สุดไปแล้ว แต่เมื่อต่อมาปรากฏว่ามีการใช้อำนาจปกครองเกี่ยวกับตัวเด็กโดยมิชอบ หรือจัดการทรัพย์สินของเด็กในทางที่ผิดจนอาจเป็นภัยศาลก็มีอำนาจสั่งถอนอำนาจปกครองหรืออำนาจจัดการทรัพย์เสียบางส่วนหรือทั้งหมดได้ โดยศาลจะสั่งเองหรือผู้มีสิทธิร้องขอก็ได้ โดยจะร้องขอมาในคดีเดิมหรือจะฟ้องเป็นคดีมีข้อพิพาทขึ้นมาใหม่ก็ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะเหตุที่โจทก์กล่าวในฟ้องเป็นเหตุที่เกิดขึ้นใหม่ต่างกันคนละประเด็นกับคดีก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2211/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของมัสยิด: กรรมการมีอำนาจจัดการทรัพย์สินและมอบหมายให้เจ้าหน้าที่บริหารดำเนินการฟ้องคดีได้
มัสยิดซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลนั้น เมื่อกรรมการมัสยิดซึ่งกฎหมายบัญญัติให้มีหน้าที่จัดการทรัพย์สินของมัสยิดได้ลงมติให้ดำเนินคดีกับจำเลยซึ่งอยู่ในที่ดินของมัสยิด เจ้าหน้าที่บริหารของมัสยิดอันได้แก่อิหม่าม คอเต็บ และบิหลั่นก็ย่อมดำเนินการแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีในนามของมัสยิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมกำหนดให้ผู้จัดการศพจัดการทรัพย์สินตามความประสงค์เป็นโมฆะ และการตัดทายาทต้องระบุชัดเจน
ตามข้อกำหนดในพินัยกรรมข้อ 3 กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินตามที่ระบุไว้ในข้อเดียวกันนั้นว่า เมื่อตนถึงแก่ความตายไปแล้ว ให้จำเลยทั้งสี่เป็นผู้จัดการศพปกครองทรัพย์และจัดการในเรื่องทรัพย์สินของผู้ตาย แม้จะมีคำว่าข้าพเจ้าเต็มใจยกให้จำเลยทั้งสี่ แต่ก็มีข้อความติดต่อเกี่ยวเนื่องกันต่อไปว่า เป็นผู้ปกครองทรัพย์ของข้าพเจ้า ข้อความต่อไปที่ว่า นอกจากจำเลยทั้งสี่ที่ระบุนามในหนังสือนี้แล้ว ผู้อื่นไม่มีสิทธิจะปกครองทรัพย์ของข้าพเจ้าเป็นอันขาด ก็มีความหมายเป็นในเรื่องการปกครองทรัพย์เช่นเดียวกับข้อความในตอนแรก ต่างกับข้อความที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และ 2 แห่งพินัยกรรมฉบับเดียวกันซึ่งมีข้อความกำหนดไว้เป็นที่แน่นอนว่า ได้ยกทรัพย์สิ่งใดให้แก่บุคคลใดโดยระบุชื่อไว้อย่างชัดแจ้ง ไม่มีข้อความต่อไปว่า ยกให้ปกครองและจัดการดังที่กล่าวไว้ในข้อ 3 ส่วนข้อความต่อไปที่ว่าทรัพย์สินที่ข้าพเจ้าได้ระบุไว้และมิได้ระบุให้เป็นอำนาจของจำเลยทั้งสี่จัดการโดยเด็ดขาด หากเห็นว่าควรจะยกให้แก่ผู้ใดก็ให้ดำเนินการได้ตามความประสงค์ถ้าไม่เห็นสมควรประการใด ก็แล้วแต่จำเลยทั้งสี่จะจัดการให้เป็นไปตามความประสงค์ทั้งสิ้นนั้น ข้อความดังกล่าวเห็นได้ว่า การที่จะยกทรัพย์ตามพินัยกรรมให้แก่บุคคลใด มากน้อยก็สุดแล้วแต่ใจของจำเลยทั้งสี่ กล่าวคือ ให้เป็นไปตามความประสงค์ของจำเลยทั้งสี่ ข้อกำหนดดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดบุคคลซึ่งไม่อาจจะทราบตัวแน่นอนได้ เป็นผู้รับพินัยกรรม และเป็นข้อกำหนดที่ให้บุคคลใดยกทรัพย์สินมากน้อยเท่าใดก็ได้ตามแต่ใจของบุคคลนั้น ข้อกำหนดดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1706
ข้อความในพินัยกรรมกล่าวแต่เพียงว่า บุคคลอื่นแม้จะเกี่ยวเป็นญาติพี่น้องลูกหลานของข้าพเจ้าไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาทรัพย์หรือปกครองทรัพย์ของข้าพเจ้าเท่านั้น ไม่มีข้อความตอนใดหรือในที่ใดระบุไว้ชัดแจ้งว่า ตัดนาง ย.หรือโจทก์ซึ่งเป็นบุตรของนางย. มิให้รับมรดก ฉะนั้นโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมรดกแทนที่ของนาง ย. ซึ่งเป็นพี่ของนาง บ. จึงมีสิทธิรับมรดกของนาง บ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อกำหนดพินัยกรรมมอบอำนาจจัดการทรัพย์สินให้ผู้รับมรดกโดยไม่จำกัดจำนวนทรัพย์สินเป็นโมฆะ และการตัดทายาทต้องระบุชัดเจน
ตามข้อกำหนดในพินัยกรรมข้อ 3 กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินตามที่ระบุไว้ในข้อเดียวกันนั้นว่า. เมื่อตนถึงแก่ความตายไปแล้ว ให้จำเลยทั้งสี่เป็นผู้จัดการศพปกครองทรัพย์และจัดการในเรื่องทรัพย์สินของผู้ตาย. แม้จะมีคำว่าข้าพเจ้าเต็มใจยกให้จำเลยทั้งสี่ แต่ก็มีข้อความติดต่อเกี่ยวเนื่องกันต่อไปว่า. เป็นผู้ปกครองทรัพย์ของข้าพเจ้า. ข้อความต่อไปที่ว่า. นอกจากจำเลยทั้งสี่ที่ระบุนามในหนังสือนี้แล้ว. ผู้อื่นไม่มีสิทธิจะปกครองทรัพย์ของข้าพเจ้าเป็นอันขาด. ก็มีความหมายเป็นในเรื่องการปกครองทรัพย์เช่นเดียวกับข้อความในตอนแรก. ต่างกับข้อความที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และ 2 แห่งพินัยกรรมฉบับเดียวกันซึ่งมีข้อความกำหนดไว้เป็นที่แน่นอนว่า. ได้ยกทรัพย์สิ่งใดให้แก่บุคคลใด โดยระบุชื่อไว้อย่างชัดแจ้ง.ไม่มีข้อความต่อไปว่า. ยกให้ปกครองและจัดการดังที่กล่าวไว้ในข้อ 3. ส่วนข้อความต่อไปที่ว่า.ทรัพย์สินที่ข้าพเจ้าได้ระบุไว้และมิได้ระบุให้เป็นอำนาจของจำเลยทั้งสี่จัดการโดยเด็ดขาด. หากเห็นว่าควรจะยกให้แก่ผู้ใดก็ให้ดำเนินการได้ตามความประสงค์ถ้าไม่เห็นสมควรประการใด. ก็แล้วแต่จำเลยทั้งสี่จะจัดการให้เป็นไปตามความประสงค์ทั้งสิ้นนั้น. ข้อความดังกล่าวเห็นได้ว่า. การที่จะยกทรัพย์ตามพินัยกรรมให้แก่บุคคลใด มากน้อยก็สุดแล้วแต่ใจของจำเลยทั้งสี่. กล่าวคือ ให้เป็นไปตามความประสงค์ของจำเลยทั้งสี่. ข้อกำหนดดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดบุคคลซึ่งไม่อาจจะทราบตัวแน่นอนได้. เป็นผู้รับพินัยกรรม. และเป็นข้อกำหนดที่ให้บุคคลใดยกทรัพย์สินมากน้อยเท่าใดก็ได้ตามแต่ใจของบุคคลนั้น. ข้อกำหนดดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1706.
ข้อความในพินัยกรรมกล่าวแต่เพียงว่า บุคคลอื่นแม้จะเกี่ยวเป็นญาติพี่น้องลูกหลานของข้าพเจ้าไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาทรัพย์หรือปกครองทรัพย์ของข้าพเจ้าเท่านั้น. ไม่มีข้อความตอนใดหรือในที่ใดระบุไว้ชัดแจ้งว่า. ตัดนาง ย. หรือโจทก์ซึ่งเป็นบุตรของนาง ย. มิให้รับมรดก. ฉะนั้นโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมรดกแทนที่ของนาง ย. ซึ่งเป็นพี่ของนาง บ. จึงมีสิทธิรับมรดกของนาง บ..

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466-1467/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าอาวาสในการจัดการทรัพย์สินวัดและการฟ้องขับไล่ผู้เช่า
จำเลยทำสัญญาเช่าที่วัดปลูกอาคารอาศัยทำการค้า โดยนายอำเภอท้องที่ ๆ วัดตั้งเป็นผู้ทำสัญญาแทนวัด ต่อมาวัดต้องการที่ดินคืน เจ้าอาวาสมีอำนาจมอบอำนาจให้ไวยาวัจกรฟ้องขับไล่จำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466-1467/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าอาวาสในการจัดการที่ธรณีสงฆ์และการฟ้องขับไล่ผู้เช่า
จำเลยทำสัญญาเช่าที่วัดปลูกอาคารอาศัยทำการค้า โดยนายอำเภอท้องที่ที่วัดตั้งเป็นผู้ทำสัญญาแทนวัด ต่อมาวัดต้องการที่ดินคืน เจ้าอาวาสมีอำนาจมอบอำนาจให้ไวยาวัจกรฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความใบมอบอำนาจและการขอบเขตฟ้องร้อง: ใบมอบอำนาจจัดการทรัพย์สินไม่มีอายุความตราบใดที่ยังตกลงกันอยู่ และฟ้องร้องต้องพิจารณาจากรายละเอียดในฟ้อง
การที่ผู้มอบทำใบมอบอำนาจให้ผู้รับมอบจัดการเกี่ยวกับแก่ทรัพย์สินตลอดจนฟ้องคดีโดยทั่ว ๆ ไปเช่นนี้ ไม่มีกำหนดอายุความตราบใดที่ยังตกลงมอบและรับมอบอำนาจกันอยู่ต่อไปย่อมใช้ได้และเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวแก่การใช้สิทธิเรียกร้อง จะยกอายุความทั่วไป 10 ปีมาใช้บังคับไม่ได้
แม้ในฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าจำเลยกู้เงินโจทก์แต่เมื่อพิจารณาฟ้องโดยละเอียดแล้วเข้าใจว่าโจทก์เพียงเรียกเงินที่จำเลยกู้จากผู้มอบอำนาจไม่ใช่เรียกเงินที่จำเลยกู้ตัวโจทก์ผู้รับมอบอำนาจเอง ปรากฎชัดตามสำเนากู้ท้ายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินหลวงสิทธิผู้มอบอำนาจ ดังนี้ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ใบมอบอำนาจจัดการทรัพย์สินและฟ้องร้องคดีไม่มีอายุความ ตราบใดที่ยังตกลงกันอยู่
การที่ผู้มอบทำใบมอบอำนาจให้ผู้รับมอบจัดการเกี่ยวแก่ทรัพย์สินตลอดจนฟ้องคดีโดยทั่วๆ ไปเช่นนี้ ไม่มีกำหนดอายุความ ตราบใดที่ยังตกลงมอบและรับมอบอำนาจกันอยู่ต่อไปย่อมใช้ได้ และเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวแก่การใช้สิทธิเรียกร้อง จะยกอายุความทั่วไป 10 ปีมาใช้บังคับไม่ได้
แม้ในฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ แต่เมื่อพิจารณาฟ้องโดยละเอียดแล้วเข้าใจได้ว่าโจทก์เพียงเรียกเงินที่จำเลยกู้จากผู้มอบอำนาจไม่ใช่เรียกเงินที่จำเลยกู้ตัวโจทก์ผู้รับมอบอำนาจเอง ปรากฏชัดตามสำเนากู้ท้ายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินหลวงสิทธิผู้มอบอำนาจดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจฟ้องของโจทก์ได้โดยไม่หลงข้อต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือที่ระบุการจัดการทรัพย์สินหลังเสียชีวิต มีผลเป็นพินัยกรรมได้ หากมีองค์ประกอบครบถ้วนตามกฎหมาย
เอกสารที่ผู้ตายทำก่อนตายหนึ่งมีข้อความกำหนดไว้ว่าถ้าตายลงแล้ว ให้ทรัพย์ตามที่+แก่ภรรยา ดังนี้เรียกได้ผู้ตายได้กำหนดการเผื่อตายเรื่องทรัพย์สินของตนไว้ให้มีบังคับเมื่อตนตายจึงเป็นเอกสารลักษณะเป็นพินัยกรรมตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1646 เมื่อได้ทำ+หนังสือลงวันเดือนปีที่ทำ ผู้+ได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้า+ครบถ้วน ก็ย่อมเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ตามแบบที่บังคับไว้ในมาตรา 1656
of 8