พบผลลัพธ์ทั้งหมด 58 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีจากสถานที่พักอาศัยชั่วคราว ไม่ถือเป็นสถานการค้าตามกฎหมายภาษีอากร
โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดพระนคร ได้รับอนุญาตให้ทำไม้หมอนจากป่าโครงการของการรถไฟที่ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการทำไม้หมอน โจทก์ต้องเดินทางจากจังหวัดพระนคร ไปควบคุมดูแลกิจการเป็นครั้งคราว เมื่อตรวจดูกิจการในตอนกลางวันแล้ว ในตอนกลางคืนก็กลับมาอาศัยพักนอนที่บ้านนายสุรินทร์ ปฏิบัติเช่นนี้เดินละครั้งบ้าง สองครั้งบ้าง และครั้งหนึ่งเป็นเวลา 3-4 วัน โดยไม่เสียค่าเช่าพักแก่เจ้าของบ้าน ดังนี้ บ้านของนายสุรินทร์ที่โจทก์มาอาศัยครั้งคราว ย่อมไม่เป็นสถานการค้าของโจทก์ตามความหมายของมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 ซึ่งใช้อยู่ในระหว่างปีประเมินเก็บค่าภาษีจากโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีนายหน้า: การกระทำโดยไม่เป็นผู้ค้า ทำให้ใช้ อายุความ 10 ปี
โจทก์ใช้เวลาว่างจากการงานประจำมาทำการเป็นนายหน้าหารายได้ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ทำให้โจทก์เป็นผู้ค้าในการนั้น การฟ้องเรียกค่านายหน้าในกรณีเช่นว่านี้ มีอายุความ 10 ปีไม่ใช่ 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางผ่านที่ดิน: ไม่เป็นภาระจำยอมหากเป็นการอนุญาตชั่วคราว
การที่วัดอนุญาตให้ผู้เช่าที่ดินของโจทก์อาศัยใช้รถยนต์ผ่านที่ดินของวัดชั่วครั้งคราวนั้นไม่กระทำให้เป็นทางจำเป็นหรือตกเป็นภาระจำยอมสำหรับที่ดินของโจทก์ตามกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ทางผ่านชั่วคราว ไม่ก่อให้เกิดภาระจำยอม
การที่วัดอนุญาตให้ผู้เช่าที่ดินของโจทก์อาศัยใช้รถยนต์ผ่านที่ดินของวัดชั่วครั้งคราวนั้นไม่กระทำให้เป็นทางจำเป็นหรือตกเป็นภาระจำยอมสำหรับที่ดินของโจทก์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราว ไม่ถือว่ามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองตามกฎหมาย
ปืนของกลางเป็นของผู้มีชื่อฝากจำเลยถือไว้ชั่วขณะที่ผู้มีชื่อไปซื้อบุหรี่ห่างจากที่จำเลยยืนคอยเพียง 10 วา ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในปืนนั้น เพราะจำเลยมิได้ยึดถือไว้เพื่อตน สิทธิครอบครอบยังอยู่แก่เจ้าของทั้งไม่เรียกว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราวไม่ถือว่ามีอาวุธปืนในครอบครองตามกฎหมาย
ปืนของกลางเป็นของผู้มีชื่อฝากจำเลยถือไว้ชั่วขณะที่ผู้มีชื่อไปซื้อบุหรี่ห่างจากที่จำเลยยืนคอยเพียง 10 วา ไม่ทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในปืนนั้น เพราะจำเลยมิได้ยึดถือไว้เพื่อตน สิทธิครอบครองยังอยู่แก่เจ้าของทั้งไม่เรียกว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78-85/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุสถานะ 'พ่อค้า' เพื่อกำหนดอายุความฟ้องร้องคดีซื้อขายฝิ่นชั่วคราว
คำว่า'พ่อค้า' ย่อมเป็นที่เข้าใจกันทั่วๆ ไปว่าผู้ที่ประกอบกิจการค้าเป็นปกติมิใช่ว่าถ้าผู้ใดกระทำการค้าเพียงชั่วครั้งคราวก็ถือว่าเป็นพ่อค้า
กระทรวงการคลังต้องการฝิ่นเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งให้มีอำนาจจัดซื้อฝิ่นจากเอกชนทั่วไปในภาคเหนือ ในการจัดหาซื้อฝิ่นนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกใบคุ้มครองกำหนดเขตที่จะไปหาฝิ่นให้เมื่อได้ฝิ่นมาแล้ว จะนำไปขายแก่ผู้อื่นหรือใช้เองไม่ได้ต้องขายแก่คณะกรรมการดังนี้จะเห็นได้ว่าพวกที่เข้าทำสัญญารับจะหาซื้อฝิ่นให้แก่คณะกรรมการนั้น เป็นการกระทำชั่วครั้งคราว มิได้เป็นการยั่งยืนดังลักษณะของพ่อค้าแต่อย่างใด ยิ่งเป็นเรื่องซื้อขายฝิ่นซึ่งตามปกติจะกระทำมิได้ เพราะกฎหมายห้าม ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่าจะถือว่าพวกเหล่านี้เป็นพ่อค้าไม่ได้แม้จะปรากฏว่าบางคนได้จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งร้านขายยาหรือทำป่าไม้ ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพ่อค้าขายฝิ่นรายนั้น ฉะนั้นการที่พวกขายฝิ่นแก่คณะกรรมการจะฟ้องเรียกราคาฝิ่นจากคณะกรรมการหรือจากกระทรวงการคลังจึงต้องถืออายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาฝิ่นแต่ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5ต่อปีให้จำเลยใช้ตั้งแต่วันฟังคำพิพากษาฎีกา เพราะมีกรณีมัวหมองระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย มิใช่จำเลยตระบัดสิน
กระทรวงการคลังต้องการฝิ่นเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งให้มีอำนาจจัดซื้อฝิ่นจากเอกชนทั่วไปในภาคเหนือ ในการจัดหาซื้อฝิ่นนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกใบคุ้มครองกำหนดเขตที่จะไปหาฝิ่นให้เมื่อได้ฝิ่นมาแล้ว จะนำไปขายแก่ผู้อื่นหรือใช้เองไม่ได้ต้องขายแก่คณะกรรมการดังนี้จะเห็นได้ว่าพวกที่เข้าทำสัญญารับจะหาซื้อฝิ่นให้แก่คณะกรรมการนั้น เป็นการกระทำชั่วครั้งคราว มิได้เป็นการยั่งยืนดังลักษณะของพ่อค้าแต่อย่างใด ยิ่งเป็นเรื่องซื้อขายฝิ่นซึ่งตามปกติจะกระทำมิได้ เพราะกฎหมายห้าม ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่าจะถือว่าพวกเหล่านี้เป็นพ่อค้าไม่ได้แม้จะปรากฏว่าบางคนได้จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งร้านขายยาหรือทำป่าไม้ ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพ่อค้าขายฝิ่นรายนั้น ฉะนั้นการที่พวกขายฝิ่นแก่คณะกรรมการจะฟ้องเรียกราคาฝิ่นจากคณะกรรมการหรือจากกระทรวงการคลังจึงต้องถืออายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาฝิ่นแต่ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5ต่อปีให้จำเลยใช้ตั้งแต่วันฟังคำพิพากษาฎีกา เพราะมีกรณีมัวหมองระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย มิใช่จำเลยตระบัดสิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนชั่วคราวเพื่อส่งมอบคืนเจ้าของ ไม่ถือเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ใช้ให้คนไปหยิบอาวุธปืนและกระสุนปืนมาจากบ้านให้นำมาส่งให้แก่ตน ณ ที่แห่งหนึ่งอันอยู่ห่างกันประมาณ 10 เส้น เพื่อมอบคืนให้แก่เจ้าของผู้มีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าคนที่หยิบอาวุธปืนและกระสุนได้มีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้นไว้ในครอบครอง จึงยังไม่เป็นผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯลฯ และผู้ใช้ให้ไปหยิบ ก็ไม่มีความผิดด้วย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่ 1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วย แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 อีกแม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดี จำเลยที่ 2 ยังไม่มีความผิด ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 2 ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่ 1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วย แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 อีกแม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดี จำเลยที่ 2 ยังไม่มีความผิด ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บแร่ชั่วคราวไม่ถือเป็นการ 'ตั้งสถานที่เก็บแร่' ตาม พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ จึงไม่ต้องขออนุญาต
+แร่ได้จากในคลองประมาณ 6 ก.ก.แล้วนำมาเก็บไว้ที่บ้านประมาณ 7-8 วันฟังไม่พอให้สันนิษฐานว่าเป็น+ตั้งสถานที่เก็บแร่ตามความใน พ.ร.บ. จึงไม่+มีการขออนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขายสุราโดยสุจริตตามคำอนุญาตชั่วคราว ไม่เป็นความผิดฐานขายสุราไม่ได้รับอนุญาต
ภริยาจำเลยยื่นเรื่องราวต่ออำเภอขออนุญาตทำการขายสุราแล้ว เจ้าพนักงานออกใบรับเรื่องราวนั้นให้ซึ่งมีข้อความอนุญาตมีข้อความอนุญาตให้ทำการขายสุราได้เป็นการชั่วคราวก่อนใบอนุญาตตกมา จำเลยเข้าใจโดยสุจจริตว่าขายได้ จึงช่วยภริยาทำการขายสุราดังนี้ จำเลยไม่มีความผิดฐานขายสุราไม่รับอนุญาต.
อ้างฎีกาที่ 272/2481
อ้างฎีกาที่ 272/2481