คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ซ่อมแซม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4731/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างซ่อมแซม อาคารทรุด จำเลยผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญา ได้รับชดใช้ค่าเสียหายตามผลงาน
เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาจ้างแล้ว โจทก์จำเลยจำต้องกลับคืนสู่ฐานะดังเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 ดังนี้ แม้ตามสัญญาจะไม่ปรากฏว่ามีข้อกำหนดให้ใช้เงินตอบแทนในกรณีผิดสัญญาไว้ โจทก์ก็มีสิทธิที่จะได้รับชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาของจำเลยโดยตรง ส่วนจำเลยก็มีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ใช้เงินตามผลงานที่จำเลยทำให้โจทก์เช่นกัน
ก่อนโจทก์ตกลงจ้างจำเลย จำเลยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์กำลังก่อสร้างบ้านพักให้คนงานอยู่อาศัยแทนที่พักเดิม ซึ่งพักอยู่บนชั้น 2 ของห้องเครื่อง เมื่อจำเลยรับรองว่าจะปรับปรุงซ่อมแซมอาคารโรงงานโจทก์ไม่ให้ทรุดลงต่อไป และใช้ชั้น 2 ซึ่งอยู่ชั้นบนของห้องเครื่องโรงงานโจทก์เป็นที่พักคนงานได้ตามเดิม การที่โจทก์ต้องรื้อที่พักคนงานชั้น 2 ดังกล่าวเพื่อมิให้ห้องเครื่องโรงงานโจทก์ทรุดต่อไปและรื้อบ้านพักคนงานที่กำลังก่อสร้าง ค่าเสียหายทั้งสองประการนี้เป็นค่าเสียหายที่เกิดจากการผิดสัญญาของจำเลยโดยตรง ซึ่งจำเลยย่อมคาดเห็นหรืออยู่ในฐานะควรจะได้คาดเห็นล่วงหน้าไม่ใช่เป็นค่าเสียหายที่ไกลเกินกว่าเหตุ แต่ค่าเสียหายในส่วนที่เป็นค่ากั้นห้องชั้น 2 ของโรงงานโจทก์นั้น เมื่อศาลกำหนดให้จำเลยรับผิดสำหรับค่าเสียหายในส่วนที่เป็นค่ารื้อที่พักคนงานชั้น 2 บนห้องเครื่องของโรงงานโจทก์แล้ว ค่าเสียหายในการกั้นห้องจึงเป็นค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงชั้น 2 ของโรงงานโจทก์และไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รู้หรือควรจะได้รู้อยู่แล้วว่าหากซ่อมแซมแก้ไขมิให้อาคารโรงงานโจทก์ทรุดต่อไปแล้ว จำเลยยังจะต้องกั้นห้องชั้น 2 ของโรงงานโจทก์ให้ด้วย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายส่วนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4731/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผิดสัญญาจ้างซ่อมแซมอาคาร โรงงานทรุด จำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายตามส่วน เว้นแต่ค่ากั้นห้องที่ไม่เกี่ยวข้อง
เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาจ้างแล้ว โจทก์จำเลยจำต้องกลับคืนสู่ฐานะดังเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 ดังนี้ แม้ตามสัญญาจะไม่ปรากฏว่ามีข้อกำหนดให้ใช้เงินตอบแทนในกรณีผิดสัญญาไว้ โจทก์ก็มีสิทธิที่จะได้รับชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาของจำเลยโดยตรง ส่วนจำเลยก็มีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ใช้เงินตามผลงานที่จำเลยทำให้โจทก์เช่นกัน
ก่อนโจทก์ตกลงจ้างจำเลย จำเลยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์กำลังก่อสร้างบ้านพักให้คนงานอยู่อาศัยแทนที่พักเดิม ซึ่งพักอยู่บนชั้น 2 ของห้องเครื่อง เมื่อจำเลยรับรองว่าจะปรับปรุงซ่อมแซมอาคารโรงงานโจทก์ไม่ให้ทรุดลงต่อไป และใช้ชั้น 2ซึ่งอยู่ชั้นบนของห้องเครื่องโรงงานโจทก์เป็นที่พักคนงานได้ตามเดิม การที่โจทก์ต้องรื้อที่พักคนงานชั้น 2 ดังกล่าวเพื่อมิให้ห้องเครื่องโรงงานโจทก์ทรุดต่อไปและรื้อบ้านพักคนงานที่กำลังก่อสร้าง ค่าเสียหายทั้งสองประการนี้เป็นค่าเสียหายที่เกิดจากการผิดสัญญาของจำเลยโดยตรง ซึ่งจำเลยย่อมคาดเห็นหรืออยู่ในฐานะควรจะได้คาดเห็นล่วงหน้าไม่ใช่เป็นค่าเสียหายที่ไกลเกินกว่าเหตุ แต่ค่าเสียหายในส่วนที่เป็นค่ากั้นห้องชั้น 2 ของโรงงานโจทก์นั้น เมื่อศาลกำหนดให้จำเลยรับผิดสำหรับค่าเสียหายในส่วนที่เป็นค่ารื้อที่พักคนงานชั้น 2 บนห้องเครื่องของโรงงานโจทก์แล้ว ค่าเสียหายในการกั้นห้องจึงเป็นค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงชั้น 2 ของโรงงานโจทก์และไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รู้หรือควรจะได้รู้อยู่แล้วว่าหากซ่อมแซมแก้ไขมิให้อาคารโรงงานโจทก์ทรุดต่อไปแล้ว จำเลยยังจะต้องกั้นห้องชั้น 2 ของโรงงานโจทก์ให้ด้วย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายส่วนนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างก่อสร้าง: ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบความเสียหายจากบกพร่อง แม้ผู้ว่าจ้างมิได้จ้างซ่อมแซมก่อนฟ้อง
สัญญาจ้างกำหนดว่าหากถนนที่ทำการก่อสร้างชำรุดเสียหายภายใน1ปีนับแต่วันส่งมอบงานและความชำรุดเสียหายนั้นเกิดจากความบกพร่องของผู้รับจ้างผู้รับจ้างต้องจัดการแก้ไขให้เรียบร้อยภายในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนดถ้าบิดพลิ้วไม่แก้ไขภายใน15วันผู้ว่าจ้างมีสิทธิจ้างผู้อื่นให้ทำการซ่อมแซมได้โดยผู้รับจ้างยอมเสียค่าจ้างและค่าใช้จ่ายให้ทั้งสิ้นข้อสัญญาเช่นนี้เพียงแต่ให้สิทธิผู้ว่าจ้างที่จะว่าจ้างให้ผู้อื่นซ่อมแซมได้เท่านั้นผู้ว่าจ้างอาจไม่ใช้สิทธินั้นก็ได้มิได้หมายความว่าจะต้องว่าจ้างผู้อื่นซ่อมแซมเสียก่อนแล้วจึงจะมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้รับจ้างได้ฉะนั้นแม้โจทก์ผู้ว่าจ้างจะมิได้จ้างให้ผู้อื่นทำการซ่อมแซมถนนพิพาทเสียก่อนก็ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยผู้รับจ้างได้กรณีมิใช่เป็นเรื่องสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับกันได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2947/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับชำระหนี้โดยไม่สงวนสิทธิทำให้หมดสิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับ
โจทก์ว่าจ้างจำเลยซ่อมแซมรถยนต์ของโจทก์ ซึ่งจะต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ มิฉะนั้นจำเลยจะต้องถูกปรับเป็นรายวันจนกว่าจะซ่อมเสร็จแต่เมื่อโจทก์ยอมรับมอบรถยนต์ที่จำเลยซ่อมเสร็จเรียบร้อยหลังจากที่พ้นกำหนดเวลาตามสัญญาแล้ว อันเป็นการยอมรับชำระหนี้ โดยมิได้บอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับ โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับจากจำเลยตาม มาตรา 181 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาท: การซ่อมแซมบ้านโดยภรรยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส ไม่ทำให้มีกรรมสิทธิ์ร่วม
บ้านพิพาทเป็นบ้านที่ ป. มีมาแต่เดิมก่อนสมรสอยู่กินกับโจทก์ ป. จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวการที่โจทก์อยู่กินกับ ป.ฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียนสมรส แม้จะได้ออกเงินซ่อมแซมทำนุบำรุงบ้านพิพาทก็เพื่อให้อยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้นเท่านั้น หาทำให้โจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านพิพาทไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2530/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซ่อมแซมบ้านของผู้อื่นโดยไม่ได้มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ไม่ทำให้เกิดกรรมสิทธิ์ร่วม
บ้านพิพาทเป็นบ้านที่ ป. มีมาแต่เดิมก่อนสมรสอยู่กินกับโจทก์ ป. จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวการที่โจทก์อยู่กินกับ ป.ฉันสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียนสมรส แม้จะได้ออกเงินซ่อมแซมทำนุบำรุงบ้านพิพาทก็เพื่อให้อยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้นเท่านั้น หาทำให้โจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านพิพาทไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าและการบอกเลิกสัญญา: การซ่อมแซม/ปรับปรุงตึกของผู้เช่าไม่ถือเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษ
เงินที่จำเลยชำระให้แก่ผู้เช่าเดิมเพื่อให้ผู้เช่าเดิมออกไปจากตึกพิพาทก็เพื่อจำเลยจะได้เช่าตึกพิพาทจากโจทก์ผู้ให้เช่าต่อไป ซึ่งโจทก์มิได้รับประโยชน์จากเงินจำนวนดังกล่าว จึงไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษ ส่วนการซ่อมแซมปรับปรุงตึกพิพาทสิ้นเงินไปจำนวนหนึ่ง ก็เป็นการซ่อมแซมปรับปรุงตึกของโจทก์ซึ่งมีพร้อมอยู่แล้ว มิได้ก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นใหม่ และเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสะดวกสบายของจำเลยฝ่ายเดียว ถือไม่ได้ว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าธรรมดา vs. สัญญาต่างตอบแทนพิเศษ: การซ่อมแซมและค่าใช้จ่ายในการขับไล่ผู้เช่าเดิมไม่ใช่ปัจจัยเสริมที่ทำให้เป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษ
เงินที่จำเลยชำระให้แก่ผู้เช่าเดิมเพื่อให้ผู้เช่าเดิมออกไปจากตึกพิพาทก็เพื่อจำเลยจะได้เช่าตึกพิพาทจากโจทก์ผู้ให้เช่าต่อไป ซึ่งโจทก์มิได้รับประโยชน์จากเงินจำนวนดังกล่าว จึงไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษ ส่วนการซ่อมแซมปรับปรุงตึกพิพาทสิ้นเงินไปจำนวนหนึ่ง ก็เป็นการซ่อมแซมปรับปรุงตึกของโจทก์ซึ่งมีพร้อมอยู่แล้ว มิได้ก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นใหม่ และเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสะดวกสบายของจำเลยฝ่ายเดียว ถือไม่ได้ว่าเป็น สัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1797/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้รับประกันภัยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทำละเมิดของผู้อื่น โดยรวมถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่โจทก์ต้องใช้เอง
ฟ้องของโจทก์กล่าวตอนแรกว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์และได้กล่าวต่อมาว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้ ซึ่งจะต้องรับผิดร่วมกันหรือแทนกันกับจำลยที่ 1 เมื่ออ่านรวมกันพอเข้าใจความหมายได้ว่าจำเลยที่ 1 เอาประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้กับจำเลยที่ 2 ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ทรัพย์โจทก์เสียหายต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมเสียค่าแรง ค่ายานพาหนะ และเครื่องมือกล แม้โจทก์จะมีพนักงาน ยานพาหนะ และเครื่องมือกลของโจทก์ เอง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ต้องใช้พนักงานและนำเครื่องมือเหล่านั้นมาซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหาย จริง โจทก์มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยที่ 2 ได้ เพราะถ้าไม่มีการทำละเมิดเกิดขึ้น โจทก์ย่อมใช้พนักงานและเครื่องมือเหล่านั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1797/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้รับประกันภัยต่อค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดของผู้อื่น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
ฟ้องของโจทก์กล่าวตอนแรกว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์ และได้กล่าวต่อมาว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้ ซึ่งจะต้องรับผิดร่วมกันหรือแทนกันกับจำเลยที่ 1 เมื่ออ่านรวมกันพอเข้าใจความหมายได้ว่าจำเลยที่ 1 เอาประกันภัยรถยนต์คันเกิดเหตุไว้กับจำเลยที่ 2ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ทรัพย์โจทก์เสียหายต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ในการซ่อม เสียค่าแรง ค่ายานพาหนะ และเครื่องมือกล แม้โจทก์จะมีพนักงาน ยานพาหนะ และเครื่องมือกลของโจทก์เองเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ต้องใช้พนักงานและนำเครื่องมือเหล่านั้นมาซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหายจริง โจทก์ก็มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยที่ 2 ได้ เพราะถ้าไม่มีการทำละเมิดเกิดขึ้น โจทก์ย่อมใช้พนักงานและเครื่องมือเหล่านั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่น
of 10