พบผลลัพธ์ทั้งหมด 49 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1289/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการต่อเติมอาคารโดยประมาท และการไม่มีส่วนร่วมในความเสียหาย
การที่จำเลยที่ 2 ปลูกสร้างต่อเติมอาคารโดยมิได้รับอนุญาตจากเทศบาลแม้จะเป็นการผิดเทศบัญญัติ แต่ก็ไม่ได้ล่วงสิทธิของโจทก์ จึงถือว่าจำเลยที่ 2 ทำละเมิดต่อโจทก์มิได้ คดีนี้โจทก์ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าสมุด หนังสือ ฯลฯ ที่เสียหายอันเนื่องจากลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อในการก่อสร้างอาคารให้จำเลยที่ 2 โดยทำให้รางน้ำและท่อน้ำฝนของโจทก์อุดตัน น้ำฝนไหลเข้าเปียกสมุดหนังสือ ฯลฯ ของโจทก์ที่มีไว้ขายเสียหาย มิได้เรียกร้องค่าเสียหายอันเกี่ยวกับตัวฝาผนังฝ่ายจำเลยใช้เป็นฐานในการต่อเติมเป็นฝาผนังอาคารของจำเลยที่ 2 ทั้งข้อนำสืบของโจทก์ก็ไม่ปรากฏว่าความเสียหายที่จำเลยที่ 1 หรือลูกจ้างจำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจำเลยที่ 2 เป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ หรือในคำสั่งที่จำเลยที่ 2 ให้ไว้หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดเพื่อความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้นแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมต่อเติมอาคารเช่าด้วยวาจา ทำให้สละข้อห้ามในสัญญา แม้จะระบุต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
เช่าตึกแถว มีข้อสัญญาว่าผู้เช่าจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขที่เช่าไม่ได้เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร ดังนี้ ผู้เช่าต่อเติมแก้ไขตึกเช่าโดยผู้ให้เช่ายอม ไม่ได้อนุญาตเป็นหนังสือ ผู้ให้เช่าอ้างว่าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อเติมอาคารเช่าเป็นเหตุฟ้องแย้งไม่ได้ หากศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
ฟ้องขับไล่จากบ้านเช่า ค่าเช่าเดือนละ 1,000 บาท จำเลยต่อสู้ว่ามีสัญญาต่างตอบแทนเพิ่มเติมอีกยอมให้จำเลยต่อเติมเป็นโรงแรมเป็นเช่า 10 ปี และฟ้องแย้งเรียกเงินคืน 45,000 บาท ดังนี้ ไม่ใช่คดีที่จำเลยยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งสัญญาเช่าศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาต่อมาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1818/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับรื้ออาคารต่อเติม: ใช้กฎหมายในขณะกระทำผิด แม้มีกฎหมายใหม่ใช้อำนาจย้อนหลังไม่ได้
การต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารนั้น ความผิดสำเร็จตั้งแต่ขณะทำการต่อเติมอาคารเสร็จ
อำนาจของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่จะสั่งการ(สั่งระงับการก่อสร้างหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงและหรือรื้อถอนอาคารหรือส่วนแห่งอาคารที่ปลูกสร้างโดยมิได้รับอนุญาต) ตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504 นั้น ไม่มีผลบังคับย้อนหลัง จึงต้องใช้วิธีการร้องขอต่อศาล เพื่อสั่งตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 มาตรา 11 วรรค 2 อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดและเป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด
อำนาจของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่จะสั่งการ(สั่งระงับการก่อสร้างหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงและหรือรื้อถอนอาคารหรือส่วนแห่งอาคารที่ปลูกสร้างโดยมิได้รับอนุญาต) ตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504 นั้น ไม่มีผลบังคับย้อนหลัง จึงต้องใช้วิธีการร้องขอต่อศาล เพื่อสั่งตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 มาตรา 11 วรรค 2 อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำผิดและเป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586-589/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องรื้อถอนอาคารต่อเติม และอายุความตาม ป.พ.พ. เมื่อ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารไม่มีกำหนดอายุความ
ต่อเติมอาคารโดยมิได้รับอนุญาตจนถูกพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับไปแล้ว คณะเทศมนตรีเทศบาลโดยนายกเทศมนตรีมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลขอให้บังคับรื้อถอนอาคารที่ต่อเติมนั้นได้ เพราะถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร 2479 มาตรา 11 วรรค 2 การฟ้องคดีขอให้บังคับรื้อถอนอาคารที่ต่อเติมนั้น พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร 2479 มาตรา 11 วรรค 2 ให้อำนาจไว้ มิใช่มีฐานะเป็นผู้เสียหาย จึงไม่อยู่ในบังคับเรื่องอายุความตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 51 และต้องใช้อายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อเติมอาคารโดยไม่เพิ่มน้ำหนัก ไม่ต้องขออนุญาต
จำเลยให้การรับสารภาพโดยหลงผิดในข้อกฎหมายที่กล่าวหา ลงโทษจำเลยไม่ได้. เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้ลงโทษจำเลย. การต่อเติมดัดแปลงอาคารที่มีอยู่แล้วในลักษณะที่ไม่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่อาคารนั้นมาก เป็นสิ่งที่ทำได้โดยไม่ต้องขอรับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่เป็นความผิด และการต่อเติมอาคารโดยไม่ต้องขออนุญาต
จำเลยให้การรับสารภาพโดยหลงผิดในข้อกฎหมายที่กล่าวหา ลงโทษจำเลยไม่ได้
เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้ลงโทษจำเลย
การต่อเติมดัดแปลงอาคารที่มีอยู่แล้วในลักษณะที่ไม่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่อาคารนั้นมาก เป็นสิ่งที่ทำได้โดยไม่ต้องขอรับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้ลงโทษจำเลย
การต่อเติมดัดแปลงอาคารที่มีอยู่แล้วในลักษณะที่ไม่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่อาคารนั้นมาก เป็นสิ่งที่ทำได้โดยไม่ต้องขอรับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อเติมอาคารรุกล้ำเขตที่ดินและการรับฟังพยานเพิ่มเติม ศาลต้องเปิดโอกาสให้คู่ความนำเสนอหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นมีหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาพระโขนงให้จัดทำแผนที่พิพาท เพื่อให้ทราบว่าอาคารพาณิชย์เลขที่ 17 ก่อสร้างรุกล้ำแนวเขตที่ดินของโจทก์ทั้งสองหรือไม่ และกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 4 ถึง 6 สิงหาคม 2547 นัดสืบพยานจำเลยวันที่ 10, 11 และ 13 สิงหาคม 2547 หลังจากสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาพระโขนง ส่งแผนที่พิพาทมายังศาลชั้นต้นแล้ว โจทก์ทั้งสองได้ยื่นคำแถลงขอระบุบัญชีพยานเพิ่มเติมลงวันที่ 7 มิถุนายน 2547 ขออ้าง ส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายหลักประกันและจดจำนองของธนาคาร ก. ซึ่งเป็นประจักษ์พยานในการทำแผนที่พิพาท และ ฉ. เจ้าพนักงานที่ดินผู้ทำการรังวัดแผนที่พิพาท ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2547 โจทก์ทั้งสองยื่นคำแถลงขอระบุบัญชีพยานเพิ่มเติมดังกล่าวเข้ามาอีก โดยแถลงว่าประสงค์จะสืบพยานบุคคลทั้งสองแทนพยานบุคคลสองอันดับที่ได้ขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายเรียกไปแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบกับวันนัดพยานโจทก์ที่ได้กำหนดไว้ แสดงให้เห็นว่าโจทก์ทั้งสองไม่มีเจตนาประวิงคดี ประกอบกับแผนที่พิพาทไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินของโจทก์ทั้งสองที่ถูกรุกล้ำ โจทก์ทั้งสองจึงอาจจำเป็นต้องนำพยานบุคคลที่เห็นว่าเป็นกลางมานำสืบเพื่อให้ได้ความชัดเจน ซึ่งไม่ทำให้จำเลยทั้งสามเสียเปรียบ เพราะจำเลยทั้งสามมีสิทธิถามค้านและนำพยานของตนเข้าสืบแก้ได้ การที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์ทั้งสองยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมกรณีเช่นนี้ ย่อมทำให้โจทก์ทั้งสองไม่อาจเสนอข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับประเด็นสำคัญแห่งคดีและอาจทำให้รูปคดีของโจทก์ทั้งสองเสียหายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2542/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายมีผลผูกพันสัญญาซื้อขาย การต่อเติมอาคารขัดเงื่อนไขสัญญา
สัญญาจะซื้อจะขายเป็นสัญญาเบื้องต้น การทำสัญญาซื้อขายต่อมาภายหลังก็เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ในสัญญาจะซื้อจะขายให้มีผลสมบูรณ์ เว้นแต่สัญญาซื้อขายจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกเงื่อนไขข้อตกลงในสัญญาจะซื้อจะขาย ดังนั้น สัญญาจะซื้อจะขายจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาซื้อขาย มีผลผูกพันคู่สัญญาดังเช่นสัญญาซื้อขาย.