พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในทางการที่จ้าง: นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างเมื่อมอบหมายให้ขับรถ แม้ไม่ได้สั่งให้ไปในขณะเกิดเหตุ
เมื่อได้ความจากพยานหลักฐานของโจทก์ประกอบกับคำให้การของจำเลยทั้งสองว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างและมีหน้าที่ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2. ได้ขับรถยนต์ด้วยความประมาทชนโจทก์เสียหายเช่นนี้. ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ทำละเมิดในทางการที่จ้าง. เมื่อจำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่าจำเลยที่ 1ลอบเอารถไปใช้ด้วยกิจธุระส่วนตัวของจำเลยที่ 1. แต่จำเลยที่ 2 ไม่ได้นำสืบให้ฟังได้ดังข้อต่อสู้. จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดนายจ้างต่อการกระทำของผู้วาน แม้ไม่ใช่ลูกจ้างโดยตรง หากยอมรับความรับผิดชอบ
แม้ความจริงจะเป็นดังที่จำเลยที่ 2 ต่อสู้ ว่านายประสิทธิ์ลูกจ้างเป็นผู้จ้างจำเลยที่ 1 ให้ขับรถมาส่งกระเบื้องของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามทางการที่จ้าง แต่จำเลยที่ 2 ก็มิได้ปฏิเสธการกระทำของนายประสิทธิ์กลับยอมรับที่จะใช้ค่าเสียหายให้ต่อคนของโจทก์และตำรวจ ดุจเป็นการกระทำของลูกจ้างเอง จำเลยที่ 2 จึงปฏิเสธความรับผิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในทางการที่จ้าง และประมาทเลินเล่อในการขับรถ แม้เปลี่ยนเส้นทาง
แม้ตรงสี่แยกในทางของรถคันหนึ่งจะมีป้ายให้หยุดก็ตาม แต่เมื่อไม่มีรถอื่นในทางสายที่ตัดผ่านหน้า หรือหากมีแต่ยังไม่อยู่ในระยะห่างแล้ว รถคันที่อยู่ในทางป้ายให้หยุดก็ไม่จำต้องรอให้รถอื่นนั้นผ่านไปเสียก่อน ในเมื่อเห็นว่าจะผ่านไปได้โดยปลอดภัย
การที่ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งของตามคำสั่งของนายจ้าง เสร็จแล้วขับรถไปธุระส่วนตัวโดยนายจ้างไม่ทราบ จากนั้นจึงขับรถจะกลับมาที่ร้านนายจ้างโดยเปลี่ยนเส้นทางขากลับ ระหว่างทางไปชนรถของผู้อื่นเสียหายซึ่งเป็นการละเมิด เช่นนี้ ถือว่ายังเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
การที่ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งของตามคำสั่งของนายจ้าง เสร็จแล้วขับรถไปธุระส่วนตัวโดยนายจ้างไม่ทราบ จากนั้นจึงขับรถจะกลับมาที่ร้านนายจ้างโดยเปลี่ยนเส้นทางขากลับ ระหว่างทางไปชนรถของผู้อื่นเสียหายซึ่งเป็นการละเมิด เช่นนี้ ถือว่ายังเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถที่สี่แยกและการรับผิดในทางการที่จ้าง แม้เปลี่ยนเส้นทาง
แม้ตรงสี่แยกในทางของรถคันหนึ่งจะมีป้ายให้หยุดก็ตามแต่เมื่อไม่มีรถอื่นในทางสายที่ตัดผ่านหน้า หรือหากมีแต่ยังอยู่ในระยะห่างแล้ว รถคันที่อยู่ในทางป้ายให้หยุดก็ไม่จำต้องรอให้รถอื่นนั้นผ่านไปเสียก่อนในเมื่อเห็นว่าจะผ่านไปได้โดยปลอดภัย
การที่ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งของตามคำสั่งของนายจ้างเสร็จแล้วขับรถไปธุระส่วนตัวโดยนายจ้างไม่ทราบ จากนั้นจึงขับรถจะกลับมาที่ร้านนายจ้างโดยเปลี่ยนเส้นทางขากลับระหว่างทางไปชนรถของผู้อื่นเสียหายซึ่งเป็นการละเมิดเช่นนี้ ถือว่ายังเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
การที่ลูกจ้างขับรถยนต์ไปส่งของตามคำสั่งของนายจ้างเสร็จแล้วขับรถไปธุระส่วนตัวโดยนายจ้างไม่ทราบ จากนั้นจึงขับรถจะกลับมาที่ร้านนายจ้างโดยเปลี่ยนเส้นทางขากลับระหว่างทางไปชนรถของผู้อื่นเสียหายซึ่งเป็นการละเมิดเช่นนี้ ถือว่ายังเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1226/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดชอบการกระทำของลูกจ้าง แม้ใช้รถที่ไม่ใช่ของตนเอง หากเป็นการใช้ในทางการที่จ้าง
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างขับรถดับเพลิงของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์ของบุคคลอื่นไปชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายนั้น หากปรากฏว่ารถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ ได้นำมาใช้ในกิจการของจำเลยที่ 2 และขับไปในทางการที่จ้างแล้ว จำเลยที่ 2 ก็ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดต่อการกระทำของลูกจ้างในการขับรถขณะปฏิบัติงาน แม้เป็นการเลือกเส้นทางเอง
ลูกจ้างได้ขับรถยนต์ของนายจ้างตามทางการที่จ้าง ตอนขากลับลูกจ้างได้นำรถกลับไปบ้านแล้วจะนำไปเก็บยังโรงรถของนายจ้าง ระหว่างนั้นรถได้ชนกับรถของผู้อื่นเสียหายดังนี้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างด้วย เพราะการที่ลูกจ้างจะขับรถไปทางไหนย่อมอยู่ในความคิดของลูกจ้างอันเป็นการสะดวกและเหมาะสม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4786/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดนายจ้างต่อการละเมิดของลูกจ้างขณะขับรถ แม้หลังเลิกงาน หากยังไม่ได้ส่งคืนรถ
ความหมายของคำว่า "ในทางการที่จ้าง" มิได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะในเวลาทำงานของนายจ้างหรือระหว่างเวลาที่ต่อเนื่องคาบเกี่ยวใกล้ชิดกันกับการปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้างดังที่จำเลยที่ 3 กล่าวอ้างมาเท่านั้น หากแต่เมื่อลูกจ้างที่มีหน้าที่ขับรถและได้กระทำไปในทางการที่จ้างแล้ว หลังจากนั้นแม้ลูกจ้างจะได้ขับรถไปทำธุรกิจส่วนตัวหรือประการใดก็ตาม ตราบใดที่ลูกจ้างยังมิได้นำรถกลับคืนสู่ความครอบครองของนายจ้าง ก็ยังคงถือว่าอยู่ในระหว่างทางการที่จ้างหรือต่อเนื่องกับทางการที่จ้างซึ่งนายจ้างยังคงต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของลูกจ้าง ดังนั้น แม้ขณะเกิดเหตุคดีนี้จะเป็นเวลา 2 นาฬิกา นอกเวลาทำงานปกติและ ว. ขับรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุออกไปเที่ยว ก็ถือได้ว่า ว. ขับรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 3 ซึ่งจำเลยที่ 3 เป็นนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดของ ว. นั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17440/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง: การกระทำในทางการที่จ้าง และการยอมรับความรับผิด
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 3 ขับรถบรรทุกเฉี่ยวชนรถโดยสารของโจทก์ได้รับความเสียหายแม้ขณะเกิดเหตุเป็นเวลา 20 นาฬิกา แต่จำเลยที่ 1 ยังคงสวมใส่ชุดทำงาน ในวันรุ่งขึ้นจำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการห้างจำเลยที่ 3 ไปพบพนักงานสอบสวนกับจำเลยที่ 1 โดยมิได้ปฏิเสธความรับผิดว่าจำเลยที่ 1 มิได้กระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 3 แต่กลับยอมรับต่อตัวแทนฝ่ายโจทก์และพนักงานสอบสวนว่าจำเลยที่ 2 เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 และยังร่วมเจรจาต่อรองค่าเสียหายโดยไม่ได้แจ้งหรือแสดงพฤติการณ์ใดให้เห็นว่าเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของจำเลยที่ 1 แสดงว่าจำเลยที่ 2 รับโดยปริยายแล้วว่าการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำในทางการที่จ้างซึ่งจำเลยที่ 3 จะต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการที่ยินยอมเสนอเงินชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นเพียงลูกจ้างรายวันและขณะเกิดเหตุจะล่วงเลยเวลาทำงานตามปกติของจำเลยที่ 1 แล้วก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างและเมื่องานที่ทำเป็นกิจการของนายจ้าง จึงเป็นการปฏิบัติงานในทางการที่จ้างที่จำเลยที่ 3 ในฐานะนายจ้าง และจำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกโดยไม่จำกัดความรับผิดในผลแห่งละเมิดที่ห้างก่อให้เกิดขึ้นด้วย