พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิใช้ทางจำเป็นเมื่อที่ดินถูกล้อม – การเสนอค่าทดแทนไม่ใช่เงื่อนไขเบื้องต้น
จำเลยปิดกั้นทางเดินซึ่งโจทก์ใช้เดินออกถนนใหญ่อยู่โดยปกติแม้โจทก์อาจเดินออกมาทางอื่นได้ แต่เป็นทางร่องสวน และต้องเปิดรั้วบ้านบุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่ทางของปกติชนใช้ไปมาดังนี้ ถือได้ว่าที่โจทก์อยู่ในที่ล้อม
ที่ดินของโจทก์อยู่ในที่ล้อม โจทก์มีสิทธิจะขอทางผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ไป สู่ทางสาธารณะได้
จำเลยให้การลอยๆ ว่าโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนที่จะผ่านมิได้เถียงว่าจำเลยไม่เปิดทางให้โจทก์เดินเพราะโจทก์ไม่ให้ค่าทดแทน ดังนี้ ย่อมไม่มีประเด็นที่จะนำสืบถึงเรื่องค่าทดแทน
ที่ดินของโจทก์อยู่ในที่ล้อม โจทก์มีสิทธิจะขอทางผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ไป สู่ทางสาธารณะได้
จำเลยให้การลอยๆ ว่าโจทก์มิได้เสนอค่าทดแทนที่จะผ่านมิได้เถียงว่าจำเลยไม่เปิดทางให้โจทก์เดินเพราะโจทก์ไม่ให้ค่าทดแทน ดังนี้ ย่อมไม่มีประเด็นที่จะนำสืบถึงเรื่องค่าทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2900/2553 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผ่านที่ดินของผู้อื่นเมื่อที่ดินตนเองถูกล้อม และมีทางออกร่วมกันจากที่ดินแปลงใหญ่เดิม
อ. ฟ้องจำเลยขอให้เปิดทางจำเป็น เป็นเรื่องเฉพาะตัวไม่มีผลผูกพันโจทก์ทั้งสาม แต่ อ. เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินที่แบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดเลขที่ 319 แปลงใหญ่ และมีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้เช่นเดียวกับที่ดินโจทก์ทั้งสาม เมื่อ อ. ผ่านที่ดินจำเลยซึ่งล้อมอยู่ออกไปสู่ทางสาธารณะและถนนได้ การที่ที่ดินของโจทก์ทั้งสามแบ่งแยกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 319 ซึ่งเป็นแปลงใหญ่นั้นปรากฏว่าที่ดินที่แบ่งทุกแปลงมีทางออกผ่านที่ดินของจำเลยออกสู่ทางสาธารณะเป็นทางจำเป็นอยู่แล้ว ดังนั้น โจทก์ทั้งสามย่อมมีสิทธิผ่านที่ดินของจำเลยซึ่งเป็นทางจำเป็นได้เช่นเดียวกับ อ. เพราะจำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้นทางจำเป็นได้อีกต่อไป ถือได้ว่าที่ดินโจทก์ทั้งสามมีทางออกถึงทางสาธารณะได้ โจทก์ทั้งสามจึงมีไม่สิทธิเรียกร้องให้จำเลยเปิดทางพิพาทในที่ดินจำเลยเป็นทางจำเป็นได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4891/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผ่านทางจำเป็นเมื่อที่ดินถูกล้อม – การใช้สิทธิไม่สุจริต – หลักเกณฑ์การเลือกเส้นทาง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าทางพิพาทในที่ดินของจำเลยที่ 1 ตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์โดยอายุความ และโจทก์มีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นในที่ดินของจำเลยที่ 2 แต่ทางดังกล่าวในที่ดินของจำเลยที่ 2 ไม่ตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า ทางพิพาทส่วนที่อยู่ในที่ดินของจำเลยที่ 1 ไม่ตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ แต่เป็นทางจำเป็น ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำเลยทั้งสองไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองที่วินิจฉัยว่าโจทก์ได้ภาระจำยอมในทางพิพาทโดยอายุความ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง เพราะไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1
ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ทางพิพาทอาจเป็นทางจำเป็นหรือทางภาระจำยอมหรือทั้งสองอย่างขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ได้ความในทางพิจารณา คำฟ้องของโจทก์จึงแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง
ที่ดินของโจทก์ถูกที่ดินแปลงอื่นปิดล้อมอยู่จนไม่มีทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะ โจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้เจ้าของที่ดินแปลงที่ปิดล้อมอยู่นั้นเปิดทาง เพื่อให้โจทก์เข้าออกสู่ทางสาธารณะได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1349 อันเป็นการใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด จึงมิใช่การใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ทางพิพาทอาจเป็นทางจำเป็นหรือทางภาระจำยอมหรือทั้งสองอย่างขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ได้ความในทางพิจารณา คำฟ้องของโจทก์จึงแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง
ที่ดินของโจทก์ถูกที่ดินแปลงอื่นปิดล้อมอยู่จนไม่มีทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะ โจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้เจ้าของที่ดินแปลงที่ปิดล้อมอยู่นั้นเปิดทาง เพื่อให้โจทก์เข้าออกสู่ทางสาธารณะได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1349 อันเป็นการใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด จึงมิใช่การใช้สิทธิโดยไม่สุจริต