พบผลลัพธ์ทั้งหมด 95 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทซื้อขายหุ้นผ่านนายหน้า: สัญญาผูกพันตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ ไม่ใช่การซื้อขายโดยตรงตามประมวลกฎหมายแพ่ง
โจทก์ทำการเป็นนายหน้าของจำเลย ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงต้องตกอยู่ภายใต้บังคับของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งออกตามความในมาตรา15(8) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว เมื่อโจทก์ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับนั้นแล้ว จึงผูกพันจำเลยในฐานะเป็นคู่สัญญากับโจทก์ บังคับระหว่างกันได้ หาใช่กรณีการซื้อหุ้น ขายหุ้น กันโดยตรงอันจะต้องปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129หรือ ในเรื่องการซื้อขายธรรมดา ตามมาตรา 453 ไม่.(ที่มา-เนติ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบธุรกิจโฆษณา: ลักษณะการรับจ้างทำของ vs. นายหน้าและตัวแทน เพื่อการเสียภาษีที่ถูกต้อง
การรับจ้างโฆษณาของโจทก์ โจทก์จะให้ความคิดในการออกแบบโฆษณาให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าพอใจ โจทก์จะติดต่อกับสื่อ โฆษณาอันได้แก่วิทยุ โทรทัศน์ และภาพยนตร์เอง โจทก์หาได้ทำหน้าที่เป็นคนกลางช่วย ชี้ ช่องให้ลูกค้าของโจทก์กับสื่อ โฆษณา ได้เข้าทำสัญญากันอันเป็นการกระทำของนายหน้าไม่ แต่โจทก์ได้ดำเนินการตามความคิดของโจทก์ โจทก์เป็นฝ่ายลงทุนเองตลอดจนเป็นคู่สัญญากับสื่อ โฆษณา หาใช่เป็นเรื่องออกเงินทดรองหรือค่าใช้จ่ายแทนตัวการดัง ที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 816 ไม่ โจทก์จึงมิใช่ตัวแทนหรือนายหน้า ทั้งไม่ใช่การรับจัดธุรกิจให้ผู้อื่นตามความหมายของประเภทการค้า 10 แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้า แต่เป็นเรื่องรับทำการงานโฆษณาโดยถือผลสำเร็จของงานเป็นสาระสำคัญ จึงเป็นการรับจ้างทำของประเภทการค้า 4 ชนิด 1(ฉ) แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้าซึ่งขณะพิพาทต้องเสียภาษีการค้าเพียงร้อยละ 2 ของรายรับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบธุรกิจโฆษณาเป็นรับจ้างทำของ ไม่ใช่ตัวแทนหรือนายหน้า ต้องเสียภาษีการค้าร้อยละ 2
โจทก์ประกอบธุรกิจรับจ้างโฆษณาให้แก่ลูกค้า โดยโจทก์ให้ความคิด ให้แปลนความคิดเกี่ยวกับรูปแบบ คำพูด ภาพยนตร์ เทป ซึ่งเป็นเรื่องสร้างสรรค์แนวความคิดในการออกแบบโฆษณาให้มีผู้รู้จักสินค้าของลูกค้ามากที่สุดแล้วโจทก์จ้างสื่อโฆษณาอันได้แก่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ให้ทำการโฆษณาหรือโจทก์จ้างผู้อื่นให้ผลิตวัสดุโฆษณาทำการโฆษณา การประกอบธุรกิจโฆษณาดังกล่าวโจทก์ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคนกลางช่วยชี้ช่องให้ลูกค้าของโจทก์กับสื่อโฆษณาได้เข้าทำสัญญากันอันเป็นการกระทำของนายหน้า หรือออกเงินทดรองหรือค่าใช้จ่ายแทนลูกค้าอันเป็นการกระทำของตัวแทน จึงไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประเภทการค้า 10นายหน้าและตัวแทน แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้า หากแต่เป็นการรับทำการงานโฆษณาโดยถือผลสำเร็จของงานเป็นสาระสำคัญ จึงเป็นการรับจ้างทำของ ต้องเสียภาษีการค้าตามประเภทการค้า 4 ชนิด 1(ฉ)การรับจ้างทำของอย่างอื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3648/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบำเหน็จนายหน้า: สัญญาสำเร็จผล แม้ไม่มีโอนกรรมสิทธิ์ การเลิกสัญญายังต้องชำระ
โจทก์เป็นนายหน้าติดต่อขายที่ดินให้จำเลยที่ 1 สัญญาจะซื้อขายระหว่างบริษัท น. กับจำเลยที่ 1 ได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ชี้ช่องจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จแก่โจทก์ตามสัญญา การที่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์กันระหว่างบริษัท น. กับจำเลยที่ 1 ก็เนื่องจากบริษัท น. และจำเลยที่ 1 ตกลงเลิกสัญญากัน ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 หลุดพ้นความรับผิดใช้ค่าบำเหน็จนายหน้าแก่โจทก์
ข้อความในสัญญาจะซื้อขายที่ระบุไว้ความว่า จำเลยที่ 1 จะจ่ายค่านายหน้าในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันนั้น ไม่ใช่เงื่อนไขเพราะเงื่อนไขต้องเป็นเหตุการณ์ที่จะมีขึ้นในอนาคตและไม่แน่นอน ถ้าผู้ซื้อและจำเลยที่ 1 ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาเป็นอย่างอื่น หรือไม่เลิกสัญญากันก็ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาอย่างแน่นอน
ข้อความในสัญญาจะซื้อขายที่ระบุไว้ความว่า จำเลยที่ 1 จะจ่ายค่านายหน้าในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันนั้น ไม่ใช่เงื่อนไขเพราะเงื่อนไขต้องเป็นเหตุการณ์ที่จะมีขึ้นในอนาคตและไม่แน่นอน ถ้าผู้ซื้อและจำเลยที่ 1 ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาเป็นอย่างอื่น หรือไม่เลิกสัญญากันก็ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาอย่างแน่นอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3049/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายกับข้อตกลงพิเศษ ไม่ถือเป็นนายหน้าหรือตัวแทน
โจทก์ซื้อกระจกจากบริษัท ก. แล้วขายต่อไปให้บริษัท ม. อีกต่อหนึ่ง ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ทำการชี้ช่องหรือจัดการให้บริษัท ก.ได้เข้าทำสัญญากับผู้ใด หรือโจทก์ได้ขายกระจกแทนบริษัท ก.และหนังสือสัญญาระหว่างโจทก์ กับบริษัท ก. ก็ระบุไว้ด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ในทางตัวการตัวแทนแต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย โจทก์จึงมิได้เป็นนายหน้าหรือตัวแทนของบริษัท ก.
การที่โจทก์ตกลงให้บริษัท ก. มีส่วนกำหนดตัวผู้ซื้อกระจกต่อจากโจทก์กับมีส่วนในการกำหนดราคาที่โจทก์จะขายต่อไปและโจทก์จะสั่งซื้อกระจกต่อเมื่อมีผู้สั่งกระจกจากโจทก์ตลอดจนบริษัท ก. ส่งกระจกที่โจทก์สั่งซื้อตรงไปยังลูกค้าของโจทก์ หาเป็นสาระสำคัญทำให้โจทก์สิ้นสภาพจากการเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย กลายเป็นนายหน้าหรือ ตัวแทนไปแต่อย่างใดไม่
การที่โจทก์ตกลงให้บริษัท ก. มีส่วนกำหนดตัวผู้ซื้อกระจกต่อจากโจทก์กับมีส่วนในการกำหนดราคาที่โจทก์จะขายต่อไปและโจทก์จะสั่งซื้อกระจกต่อเมื่อมีผู้สั่งกระจกจากโจทก์ตลอดจนบริษัท ก. ส่งกระจกที่โจทก์สั่งซื้อตรงไปยังลูกค้าของโจทก์ หาเป็นสาระสำคัญทำให้โจทก์สิ้นสภาพจากการเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย กลายเป็นนายหน้าหรือ ตัวแทนไปแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3049/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายกับข้อตกลงพิเศษ ไม่ถือเป็นนายหน้า/ตัวแทน
โจทก์ซื้อกระจกจากบริษัท ก. แล้วขายต่อไปให้บริษัทม. อีกต่อหนึ่ง ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ทำการชี้ช่องหรือจัดการให้บริษัท ก. ได้เข้าทำสัญญากับผู้ใด หรือโจทก์ได้ขายกระจกแทนบริษัท ก.และหนังสือสัญญาระหว่างโจทก์ กับบริษัท ก. ก็ระบุไว้ด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ในทางตัวการตัวแทนแต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย โจทก์จึงมิได้เป็นนายหน้าหรือตัวแทนของบริษัท ก. การที่โจทก์ตกลงให้บริษัท ก. มีส่วนกำหนดตัวผู้ซื้อกระจกต่อจากโจทก์กับมีส่วนในการกำหนดราคาที่โจทก์จะขายต่อไป และโจทก์จะสั่งซื้อกระจกต่อเมื่อมีผู้สั่งกระจกจากโจทก์ ตลอดจนบริษัท ก. ส่งกระจกที่โจทก์สั่งซื้อตรงไปยังลูกค้าของโจทก์ หาเป็นสาระสำคัญทำให้โจทก์สิ้นสภาพจากการเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย กลายเป็นนายหน้าหรือ ตัวแทนไปแต่อย่างใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3485/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านนายหน้าที่ไม่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์: สัญญามีผลผูกพันใช้บังคับได้
จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เป็นผู้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์แทนจำเลย โจทก์มิได้เป็นผู้ซื้อหลักทรัพย์ด้วยตนเอง แต่ได้ติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์แทน ซึ่งบริษัทสมาชิกจะทำการเป็นนายหน้าของบุคคลใด ๆ หรือเป็นตัวแทนของบริษัทหลักทรัพย์ที่มิได้เป็นสมาชิกได้ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 มาตรา 20 วรรคสอง และไม่มีกฎหมายใดห้ามบริษัทหลักทรัพย์ที่มิได้เป็นสมาชิกรับเป็นนายหน้าของบุคคลใด ๆ ในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นการประกอบกิจการที่กระทำได้โดยชอบ สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยดังกล่าวมีผลผูกพันใช้บังคับได้ เมื่อโจทก์ได้จัดซื้อหลักทรัพย์ให้จำเลยตามคำสั่งของจำเลยโดยออกเงินทดรองให้ผู้ขายไปแล้ว จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3485/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านนายหน้าที่ไม่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ สัญญาผูกพันใช้บังคับได้
จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เป็นผู้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์แทนจำเลย โจทก์มิได้เป็นผู้ซื้อหลักทรัพย์ด้วยตนเอง แต่ได้ติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์แทน ซึ่งบริษัทสมาชิกจะทำการเป็นนายหน้าของบุคคลใด ๆ หรือเป็นตัวแทนของบริษัทหลักทรัพย์ที่มิได้เป็นสมาชิกได้ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 มาตรา 20วรรคสอง และไม่มีกฎหมายใดห้ามบริษัทหลักทรัพย์ที่มิได้เป็นสมาชิกรับเป็นนายหน้าของบุคคลใด ๆ ในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของโจทก์จึงเป็นการประกอบกิจการที่กระทำได้โดยชอบ สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยดังกล่าวมีผลผูกพันใช้บังคับได้ เมื่อโจทก์ได้จัดซื้อหลักทรัพย์ให้จำเลยตามคำสั่งของจำเลยโดยออกเงินทดรองให้ผู้ขายไปแล้ว จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1959/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบำเหน็จนายหน้า: การคืนเงินเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดก่อนกำหนดโดยผู้เช่าได้รับประโยชน์
จำเลยเป็นนายหน้าจัดการให้โจทก์ทำสัญญาเช่าตึกกับเจ้าของตึกมีกำหนด 3 ปี สัญญาเช่าตึกจึงได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่จำเลยจัดการ จำเลยจึงมีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จจากโจทก์
ข้อความตามสัญญาที่ว่า ถ้าโจทก์ต้องเลิกการเช่าด้วยเหตุใด ๆ จำเลยต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่ได้รับล่วงหน้าให้โจทก์นั้นหมายความถึงกรณีที่มีเหตุจากฝ่ายผู้ให้เช่าหรือการรอนสิทธิจนโจทก์ไม่ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าคุ้มกับค่าเช่าและค่าบำเหน็จที่ให้แก่จำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ใช้และได้รับประโยชน์ในตึกที่เช่าจนเกือบจะครบสัญญาแล้วโจทก์จึงส่งคืนตึกที่เช่าให้แก่เจ้าของ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าตอบแทนอันเป็นบำเหน็จค่านายหน้าคืนจากจำเลย
ข้อความตามสัญญาที่ว่า ถ้าโจทก์ต้องเลิกการเช่าด้วยเหตุใด ๆ จำเลยต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่ได้รับล่วงหน้าให้โจทก์นั้นหมายความถึงกรณีที่มีเหตุจากฝ่ายผู้ให้เช่าหรือการรอนสิทธิจนโจทก์ไม่ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าคุ้มกับค่าเช่าและค่าบำเหน็จที่ให้แก่จำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ใช้และได้รับประโยชน์ในตึกที่เช่าจนเกือบจะครบสัญญาแล้วโจทก์จึงส่งคืนตึกที่เช่าให้แก่เจ้าของ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าตอบแทนอันเป็นบำเหน็จค่านายหน้าคืนจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1959/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบำเหน็จนายหน้า: การคืนเงินเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดก่อนกำหนด
ข้อความตามสัญญาที่ว่า ถ้าโจทก์ต้องเลิกการเช่าด้วยเหตุใดๆ จำเลยต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่ได้รับล่วงหน้าให้โจทก์นั้นหมายความถึงกรณีที่มีเหตุจากฝ่ายผู้ให้เช่าหรือการรอนสิทธิจนโจทก์ไม่ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าคุ้มกับค่าเช่าและค่าบำเหน็จที่ให้แก่จำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ใช้และได้รับประโยชน์ในตึกที่เช่าจนเกือบจะครบสัญญาแล้วโจทก์จึงส่งคืนตึกที่เช่าให้แก่เจ้าของ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าตอบแทนอันเป็นบำเหน็จค่านายหน้าคืนจากจำเลย