พบผลลัพธ์ทั้งหมด 71 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692-693/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานกรรโชก: การบังคับให้ผู้อื่นสัญญาว่าจะส่งทรัพย์โดยข่มขู่ว่าจะฟ้องดำเนินคดี
กล่าวฟ้องใจความว่า จำเลยบังคับให้ผู้เสียหายสัญญาว่าจะส่งทรัพย์ให้ มิฉะนั้น จะดำเนินการฟ้องร้องให้ได้รับโทษ เช่นนี้อาจเป็นผิดฐานกรรโชกตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 303 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 337 หรือไม่ก็ได้ แล้วแต่พฤติการณ์ของรูปคดี ถ้าข้อเท็จจริงเป็นเรื่องจำเลยพูดไกล่เกลี่ยก็ไม่ผิดฐานกรรโชก แต่ถ้าพ้นเขตของการไกล่เกลี่ยโดยเป็นไปในทางบังคับให้เขาสัญญาว่าจะส่งทรัพย์ให้ ถ้าไม่ส่งจะดำเนินคดี เช่นนี้ เป็นการขู่เข็ญขืนใจโดยชัด ย่อมเป็นผิดฐานกรรโชก แม้ว่าจำเลยมีสิทธิตามกฎหมายในการจะฟ้องเรียกเงินจากผู้เสียหายก็ตาม หรือแม้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จับกุมฟ้องร้องดำเนินคดี และจำเลยบังคับผู้เสียหายเช่นกล่าวข้างต้นจนพ้นเขตของการไกล่เกลี่ย และการที่ผู้เสียหายต้องสัญญาว่าจะส่งทรัพย์ก็เพื่อมิให้ถูกดำเนินคดีฟ้องร้อง เพราะถูกขู่เข็ญขืนใจก็เป็นผิดฐานกรรโชกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1740/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้ออาคารชำรุดและการบังคับผู้อยู่อาศัย: ศาลไม่อาจบังคับผู้อยู่อาศัยในคดีรื้อถอน หากไม่ได้ฟ้องเป็นคดีแยก
เทศบาลฟ้องขอให้จำเลยรื้ออาคารเพราะอาคารชำรุดตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างฯ ศาลพิพากษาให้จำเลยจัดการรื้อจำเลยว่ารื้อไม่ได้เพราะมีคนเช่าอยู่และอาศัยอยู่เช่นนี้โจทก์ชอบที่จะดำเนินการตาม พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร มาตรา 11,12 จะมาร้องขอให้ศาลบังคับผู้อาศัย ผู้เช่าให้ออกจากที่พิพาทไม่ได้ เพราะเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น ต้องฟ้องเขาเป็นคดีต่างหากจึงจะบังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลบังคับตามข้อตกลงประมูลทำนาพิพาท แม้ไม่มีคำพิพากษา
การประมูลทำนาพิพาทระหว่างคู่ความในคดีนั้นเป็นเรื่องที่คู่ความตกลงกันในศาลเกี่ยวกับคดีที่ดำเนินการพิจารณาอยู่ เมื่อศาลสั่งให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้นแล้วและคู่ความฝ่ายที่ประมูลได้ได้ทำสัญญาไว้ต่อศาลว่าจะนำเงินมาวางศาลเช่นนี้ ศาลก็ย่อมมีอำนาจออกคำบังคับให้โจทก์นำเงินมาวางศาลได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีให้มีคำพิพากษาขึ้นมาเสียก่อน กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษา (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งต้องชัดเจนบังคับมิใช่แค่แนะนำ หากเจ้าพนักงานกระทำผิดตามความเห็นตนเอง ต้องรับผิดชอบ
คำสั่งต้องเป็นคำบังคับ มิใช่คำแนะนำซึ่งผู้รับจะกระทำหรือไม่ ก็แล้วความตกลงใจของผู้นั้น ผู้ใหญ่บ้านพูดว่า "นายบัวมันบ้า ๆ บอ ๆ ให้จำเลยไปเอามาดีกว่า เป็นเจ้าพนักงานมันจะได้กลัว" เพียงแค่นี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ใหญ่บ้านมีคำสั่งให้จำเลยไปทำการจับกุมนายบัวมา โดยใช้อำนาจบังคับ หากแต่เป็นการแนะนำจำเลยว่าจำเลยควรจะไปเอามาดีกว่า เพราะจำเลยเป็นเจ้าพนักงาน(นายตรวจสรรพสามิตต์) ผู้ใหญ่บ้านกลับมาแอบอ้างอำนาจจำเลยเสียเอง เพื่อให้นายบัวกลัว เมื่อจำเลยขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายและบังคับตบตี นำผู้เสียหายมาเช่นนี้ จำเลยก็ต้องมีความผิดตาม ม. 329 และ 270 จะอ้างว่ากระทำไปตามคำสั่งของเจ้าพนักงานให้พ้นผิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งต้องชัดเจนบังคับ มิใช่แค่แนะนำ หากเจ้าพนักงานอ้างอำนาจผู้อื่นเพื่อข่มขู่ ไม่ถือเป็นคำสั่ง
คำสั่งต้องเป็นคำบังคับมิใช่คำแนะนำซึ่งผู้รับจะกระทำหรือไม่ก็แล้วความตกลงใจของผู้นั้น
ผู้ใหญ่บ้านพูดว่า 'นายบัวมันบ้าๆบอๆ ให้จำเลยไปเอามาดีกว่าเป็นเจ้าพนักงานมันจะได้กลัว'เพียงแค่นี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ใหญ่บ้านมีคำสั่งให้จำเลยไปทำการจับกุมนายบัวมาโดยใช้อำนาจบังคับหากแต่เป็นการแนะนำจำเลยว่าจำเลยควรจะไปเอามาดีกว่า เพราะจำเลยเป็นเจ้าพนักงาน(นายตรวจสรรพสามิต) ผู้ใหญ่บ้านกลับมาแอบอ้างอำนาจจำเลยเสียเองเพื่อให้นายบัวกลัว
เมื่อจำเลยขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายและบังคับตบตี นำผู้เสียหายมาเช่นนี้ จำเลยก็ต้องมีความผิดตาม มาตรา 329,และ 270 จะอ้างว่ากระทำไปตามคำสั่งของเจ้าพนักงานให้พ้นผิดไม่ได้
ผู้ใหญ่บ้านพูดว่า 'นายบัวมันบ้าๆบอๆ ให้จำเลยไปเอามาดีกว่าเป็นเจ้าพนักงานมันจะได้กลัว'เพียงแค่นี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ใหญ่บ้านมีคำสั่งให้จำเลยไปทำการจับกุมนายบัวมาโดยใช้อำนาจบังคับหากแต่เป็นการแนะนำจำเลยว่าจำเลยควรจะไปเอามาดีกว่า เพราะจำเลยเป็นเจ้าพนักงาน(นายตรวจสรรพสามิต) ผู้ใหญ่บ้านกลับมาแอบอ้างอำนาจจำเลยเสียเองเพื่อให้นายบัวกลัว
เมื่อจำเลยขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายและบังคับตบตี นำผู้เสียหายมาเช่นนี้ จำเลยก็ต้องมีความผิดตาม มาตรา 329,และ 270 จะอ้างว่ากระทำไปตามคำสั่งของเจ้าพนักงานให้พ้นผิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576-1590/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับรับใบสำคัญคนต่างด้าวของคนไทย ไม่ถือเป็นการรับตามกฎหมาย
คนสัญชาติไทยซึ่งถูกทางราชการบังคับให้ไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยมิได้สมัครใจที่จะเข้าถือสัญชาติอื่นหรือสละสัญชาติไทย การรับใบสำคัญเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการรับใบสำคัญประจำตัวตาม ก.ม.ว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวดังที่บัญญัติไว้ ตาม ม.16 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2495
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576-1590/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสัญชาติ: การบังคับรับใบสำคัญคนต่างด้าวของคนไทย ไม่ถือเป็นการสละสัญชาติ
คนสัญชาติไทยซึ่งถูกทางราชการบังคับให้ไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยมิได้สมัครใจที่จะเข้าถือสัญชาติอื่นหรือสละสัญชาติไทย การรับใบสำคัญเช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นการรับใบสำคัญประจำตัวตาม กฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวดังที่บัญญัติไว้ตาม มาตรา 16 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576-1590/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะสัญชาติ: การรับใบสำคัญคนต่างด้าวโดยถูกบังคับ ไม่ทำให้เสียสัญชาติไทย
คนสัญชาติไทยซึ่งถูกทางราชการบังคับให้ไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยมิได้สมัครใจที่จะเข้าถือสัญชาติอื่นหรือสละสัญชาติไทย การรับใบสำคัญเช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นการรับใบสำคัญประจำตัวตาม กฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวดังที่บัญญัติไว้ตาม มาตรา 16 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1289/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีนายทะเบียนคนต่างด้าวบังคับให้รับใบสำคัญคนต่างด้าว แม้มิได้ขอคืนสัญชาติ
ฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นคนไทยถูกจำเลยบังคับให้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ดังนี้หาใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอคืนสัญชาติไม่ จึงไม่ต้องไปร้องต่อ ร.ม.ต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย ตาม พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2485 ม.20
จำเลยเป็นผู้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่กับโจทก์ ๆ ย่อมต้องฟ้องจำเลย หาใช่จะไปฟ้องกรมตำรวจซึ่งมิได้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ไม่
การที่โจทก์ถูกโต้แย้งหน้าที่โดยนายทะเบียนคนต่างด้าวโจทก์ย่อมฟ้องผู้บังคับกองตำรวจผู้เป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวโดย พ.ต.ต.สง่า อินทวณิช เป็นผู้ครองตำแหน่งอยู่ได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 55
จำเลยเป็นผู้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่กับโจทก์ ๆ ย่อมต้องฟ้องจำเลย หาใช่จะไปฟ้องกรมตำรวจซึ่งมิได้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ไม่
การที่โจทก์ถูกโต้แย้งหน้าที่โดยนายทะเบียนคนต่างด้าวโจทก์ย่อมฟ้องผู้บังคับกองตำรวจผู้เป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวโดย พ.ต.ต.สง่า อินทวณิช เป็นผู้ครองตำแหน่งอยู่ได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1289/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีสัญชาติ: การบังคับรับใบสำคัญคนต่างด้าวและการโต้แย้งหน้าที่ของนายทะเบียน
ฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นคนไทยถูกจำเลยบังคับให้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ดังนี้หาใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอคืนสัญชาติไม่ จึงไม่ต้องไปร้องต่อร.ม.ต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย ตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มาตรา 20
จำเลยเป็นผู้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่กับโจทก์ โจทก์ย่อมต้องฟ้องจำเลย หาใช่จะไปฟ้องกรมตำรวจซึ่งมิได้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ไม่
การที่โจทก์ถูกโต้แย้งหน้าที่โดยนายทะเบียนคนต่างด้าว โจทก์ย่อมฟ้องผู้บังคับกองตำรวจผู้เป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวโดยพ.ต.ต.สง่า อินทวณิช เป็นผู้ครองตำแหน่งอยู่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
จำเลยเป็นผู้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่กับโจทก์ โจทก์ย่อมต้องฟ้องจำเลย หาใช่จะไปฟ้องกรมตำรวจซึ่งมิได้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ไม่
การที่โจทก์ถูกโต้แย้งหน้าที่โดยนายทะเบียนคนต่างด้าว โจทก์ย่อมฟ้องผู้บังคับกองตำรวจผู้เป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวโดยพ.ต.ต.สง่า อินทวณิช เป็นผู้ครองตำแหน่งอยู่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55