คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับได้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 79 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงต่อท้ายสัญญาเช่าเป็นคำมั่นบังคับได้ ผู้ให้เช่าต้องทำสัญญาเช่าต่อตามข้อตกลง
ข้อตกลงต่อท้ายสัญญาเช่าที่ดินที่ว่า "ผู้ให้เช่าสัญญาว่าเมื่อครบกำหนดอายุสัญญานี้แล้ว ผู้ให้เช่าจะให้ผู้เช่าได้เช่าต่อไปอีกเป็นเวลา 10 ปี ทั้งนี้โดยผู้ให้เช่าตกลงยินยอมให้ผู้เช่าเช่าที่ดินดังกล่าวแล้วในค่าเช่าเดือนละ 800 บาท โดยผู้เช่ามิต้องจ่ายเงินเป็นก้อนเพิ่มเติม" นั้น เป็นคำมั่นของผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าตกเป็นฝ่ายลูกหนี้ที่ผู้เช่ามีสิทธิที่จะเรียกร้องบังคับเอาได้ก่อนสัญญาเช่าสิ้นสุดโจทก์ผู้เช่าได้แจ้งความประสงค์ในการที่จะเช่าที่ดินพิพาทต่อไปอีก 10 ปี ให้แก่จำเลยผู้ให้เช่าทราบ และจำเลยได้รับแจ้งแล้วจึงต้องผูกพันตามคำมั่นของตน โดยต้องทำสัญญาให้โจทก์เช่าที่ดินพิพาทต่อไปอีก 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5558/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน มิฉะนั้นบังคับได้เพียง 3 ปี
จำเลยเช่าที่ดินของ ห. มีกำหนด 10 ปี โดยทำสัญญาเป็นหนังสือแต่ไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงมีผลบังคับกันได้เพียง 3 ปี ที่จำเลยให้การว่ากำหนดเวลาเช่าที่เกินกว่า 3 ปีเป็นคำมั่นซึ่งมีผลบังคับ ห.ได้จึงมีผลบังคับพ. ผู้รับโอนที่ดินจาก ห. ด้วยนั้น ไม่มีบทกฎหมายรับรองสิทธิให้บังคับตามที่จำเลยให้การ ศาลชอบที่จะพิพากษาคดีได้โดยไม่จำต้องสืบพยาน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4909/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเรียกร้องตามสัญญาจำนองต้องแจ้งให้จำเลยทราบ หรือจำเลยยินยอม เพื่อใช้บังคับได้
แม้จำเลยจะขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ก็ต้องนำสืบให้ได้ความว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องบังคับจำเลยตามสัญญาจำนองได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้นำสืบถึงเรื่องการบอกกล่าวการโอนการรับจำนองหรือจำเลยได้ยินยอมด้วยแล้ว เมื่อจำเลยอ้างตนเองเบิกความเป็นพยานว่าจำเลยไม่รู้เรื่องการโอนดังกล่าว การโอนการรับจำนองนี้จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้จำเลยไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับจำนองแก่จำเลย การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกปัญหาดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยจึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2602/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการต่างประเทศผูกพันลูกหนี้ และบังคับได้ในไทย หากไม่ขัดกฎหมาย
เจ้าหนี้กับลูกหนี้มีข้อสัญญาว่า เมื่อมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาให้ใช้กฎหมายของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มาบังคับแก่กรณีและดำเนินกระบวนพิจารณาทางอนุญาโตตุลาการในประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ เมื่อการดำเนินกระบวนพิจารณาและคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการไม่ปรากฏว่ามีข้อผิดพลาด ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนขัดต่อกฎหมาย หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการแห่งประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์จึงผูกพันลูกหนี้เจ้าหนี้นำมาฟ้องบังคับในศาลไทยได้โดยไม่จำต้องให้ศาลไทยกลับไปวินิจฉัยอีกว่าลูกหนี้หรือเจ้าหนี้เป็นฝ่ายผิดสัญญา เจ้าหนี้จึงอาศัยคำชี้ขาดทางอนุญาโตตุลาการดังกล่าว ขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ทั้งสองได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4522/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้และข้อตกลงทางแพ่ง สัญญาจำนองย่อมบังคับได้ตามข้อตกลง
การที่โจทก์นำสืบว่าหนี้เงินกู้ตามสัญญาจำนองส่วนหนึ่งเป็นมูลหนี้เดิมระหว่างสามีโจทก์กับบิดาจำเลย แต่ได้มีการตกลงกันระหว่างสามีโจทก์และจำเลย โดยจำเลยยอมรับใช้หนี้จำนวนที่บิดาจำเลยเป็นหนี้สามีโจทก์ก่อนตาย รวม กับเงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งจำเลยขอกู้เพิ่มและได้ตกลงกันให้โจทก์เป็นเจ้าหนี้เงินกู้จำนวนดังกล่าว การนำสืบของโจทก์เป็นการนำสืบถึงข้อตกลงแปลงหนี้อันเป็นที่มาของหนี้ตามสัญญาจำนอง จึงไม่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารอันเป็นการต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4474/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาที่ไม่สมบูรณ์: ลายพิมพ์นิ้วมือต้องมีพยานรับรอง 2 คนจึงจะใช้บังคับได้
ผู้กู้รับว่าลงลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้ซึ่งมีพยานลงชื่อรับรอง ลายพิมพ์นิ้วมือหนึ่งคน และมีผู้ให้กู้ลงชื่อไว้ในช่องผู้ให้กู้ แม้จะได้ความ ว่าผู้ให้กู้รู้เห็นการลงลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้ก็ตาม แต่เมื่อผู้ให้กู้ มิได้ลงชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้ด้วย จึงถือไม่ได้ว่า ผู้ให้กู้ลงชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้ ดังนี้พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้จึงมีไม่ถึงสองคน จะถือเสมอกับว่าผู้กู้ ลงลายมือชื่อในสัญญากู้แล้วไม่ได้ขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 9 วรรคสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3053/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันคู่กรณี แม้มีการโอนทรัพย์สินให้บุคคลภายนอก ศาลบังคับได้
การที่โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันยอมยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลภายนอกคดี ข้อตกลงดังกล่าวหาได้ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่ประการใดไม่
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อตามสัญญาประนีประนอมยอมความปรากฏข้อความชัดว่า จำเลยยอมแบ่งที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 40888 ให้กับ ส. ธ. พ. และโจทก์โดยระบุเนื้อที่ดินที่จะแบ่งให้แต่ละคนไว้ ส่วนที่เหลือเป็นของจำเลย และจำเลยยอมโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 42487 ให้กับ ส. ทั้งหมด หากจำเลยผิดสัญญาประนีประนอมยอมความนี้ให้บังคับคดีได้ทันที จำเลยยินยอมจะยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อแบ่งแยกที่ดินในส่วนที่จะแบ่งให้กับโจทก์และบุคคลดังกล่าว เมื่อได้รับหนังสือบอกกล่าวจากทนายความโจทก์เท่านั้น คดีได้ความว่าส. ธ. และ พ. ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้แสดงเจตนาถือเอาประโยชน์จากสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว สิทธิของบุคคลภายนอกย่อมเกิดมีขึ้น โจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาประนีประนอมยอมความหาอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธินั้นในภายหลังได้ไม่ ดังนี้โจทก์มีส่วนได้เสียตามสัญญาประนีประนอมยอมความโดยตรงได้ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งได้ พิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว หาได้บังคับ เอาแก่บุคคลภายนอกแต่อย่างใดไม่ การบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอยู่ในวิสัยที่จำเลยปฏิบัติได้ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนบุริมสิทธิเมื่อชำระหนี้ครบถ้วนตามคำพิพากษา จำเลยมีสิทธิขอบังคับให้โจทก์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องฟ้องใหม่
โจทก์ได้รับชำระเงินค่าที่ดินจากจำเลยครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้วโจทก์ย่อมไม่มีบุริมสิทธิสำหรับเอาชำระราคาและดอกเบี้ยในราคานั้นลเหนือที่ดินแปลงดังกล่าวอีกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 276 แม้ศาลมิได้พิพากษาบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนถอนบุริมสิทธิเหนือที่ดินนั้นก็ตาม เมื่อปรากฏว่าบุริมสิทธิที่มีอยู่เหนือที่ดินไม่มีผลต่อไปแล้ว โจทก์ก็ต้องไปจดทะเบียนถอนบุริมสิทธิเหนือที่ดินเป็นการตอบแทนจำเลย จำเลยมีสิทธิขอให้บังคับโจทก์ในคดีเดิมได้โดยไม่จำต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ และมิใช่เป็นกรณีบังคับนอกเหนือคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3865/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจดทะเบียนสมรสที่ไม่มีการหมั้น ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย
สัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยมีสาระสำคัญว่า ให้จำเลยจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ หากจำเลยไม่ยอมจดถือว่าเป็นฝ่ายผิดสัญญา ต้องใช้ค่าเสียหายนั้น เป็นสัญญาที่ไม่มีกฎหมายสนับสนุน เพราะไม่ใช่สัญญาหมั้น จึงไม่อาจบังคับได้ คดีไม่จำเป็นจะต้องสืบพยานกันต่อไป
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1439 ถ้าฝ่ายใด ผิดสัญญาหมั้น ฝ่ายนั้นต้องรับผิดใช้ค่าทดแทน ฉะนั้นการตกลงจะสมรสโดย ไม่มีการหมั้น จึงอยู่นอกขอบเขตที่กฎหมายรับรองไว้ และจะนำบทบัญญัติทั่วไปว่าด้วยนิติกรรมมาใช้ในกรณีเช่นนี้ก็ไม่ได้ เพราะบทบัญญัติว่าด้วยการหมั้นและการสมรส ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้บัญญัติไว้ โดยเฉพาะแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3442/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการให้ที่ดินเพื่อตอบแทนการสมรสมีผลผูกพันบังคับได้ แม้ไม่เข้าข่ายสินสอดตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกันและทำบันทึกเกี่ยวกับทรัพย์สินไว้ที่ด้านหลังทะเบียนการสมรสว่า ฝ่ายชายยกที่ดินพิพาทเป็นสินสอดฝ่ายหญิง เมื่อปรากฏว่าบิดามารดาโจทก์ถึงแก่กรรมก่อนที่โจทก์กับจำเลยจะจดทะเบียนสมรสกันและไม่ปรากฏว่าโจทก์มีผู้ปกครองในขณะจดทะเบียนสมรส การที่จำเลยตกลงยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการให้ในลักษณะที่เป็นสินสอด. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1437 แต่การที่จำเลยตกลงยกที่ดินพิพาทให้ โจทก์ก็เพื่อตอบแทนการที่โจทก์ยอมสมรสกับจำเลย ข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นบุคคลสิทธิใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญา เมื่อโจทก์จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับจำเลยฉันสามีภริยาแล้ว. จำเลยก็มีหน้าที่ต้องโอนที่ดินให้ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยให้โอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ตามบันทึกดังกล่าวได้
of 8