พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 287/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินที่บุคคลที่สามส่งศาลก่อนจำเลยล้มละลาย ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ยึดตามคำพิพากษา จึงตกอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์
เงินที่ลูกหนี้ของจำเลยนำมาวางศาลตามคำสั่งของศาลนั้น ไม่ใช่เงินที่ศาลยึดเพื่อจ่ายแก่โจทย์เมื่อจำเลยล้มละลายเงินที่วางนั้นต้องตกอยู่ในความปกครองของเจ้าพนักงาน รักษาทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ม.14 ไม่เกี่ยวกับ ม.44
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับโอนประทานบัตรหลังการโอนให้บุคคลที่สาม: ศาลสั่งให้จำเลยดำเนินการโอนให้โจทก์ได้
คำพิพากษาบังคับการที่ศาลพิพากษาให้จำเลยไปจัดการขอโอนประทานบัตร์ให้โจทก์นั้นไม่เป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติเหมืองแร่ ป.พ.พ.ม.118-194-213-237 ในกรณีที่ลูกหนี้ โอนทรัพย์ให้แก่คนที่ 3 ซึ่งเจ้าหนี้ขอเพิกถอนได้นั้นเจ้าหนี้จะขอให้บังคับคนที่ 3 โอนทรัพย์นั้นให้ตนโดยตรงพร้อมกับฟ้องขอเพิกถอนการถอนได้หรือไม่ หมายเหตุ คำพิพากษาห้ามวินิจฉัยถึงปัญหานี้ วินิจฉัยฉะเพาะข้อฎีกาเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดผู้ไม่มีอำนาจทำนิติกรรมผูกพันทรัพย์สินของผู้อื่น ความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สาม
ผู้แทนโดยชอบธรรม มารดาถือว่าเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กเชิดบุคคลอื่นเป็นตัวแทนของตนเกี่ยวกับทรัพย์สินของเด็ก เด็กต้องรับผิดชอบต่อคนภายนอกในกิจการซึ่งบุคคลนั้นทำไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทต้องพิสูจน์การเปิดเผยต่อบุคคลที่สาม
หน้าที่นำสืบ คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยว่าข้อความในหนังสือเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่โจทก์ต้องนำสืบก่อนว่าได้มีคนไม่น้อยกว่า 2 คน ได้ทราบข้อความนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักหนี้: เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิหักเงินชำระหนี้ของผู้อื่นเพื่อชำระหนี้ของบุคคลที่สาม
หักหนี้ การที่เจ้าหนี้รับเงินชำระหนี้จากคนหนึ่งไม่มีสิทธิจะเอาเงินส่วนของเขามาหักใช้หนี้รายอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6593/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีหมิ่นประมาทนอกราชอาณาจักร: การกระทำสำเร็จเมื่อข้อความถึงบุคคลที่สาม
ความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อ. มาตรา 326 ไม่ใช่ความผิดที่มีผลเกิดขึ้นต่างหากจากการกระทำ เมื่อจำเลยพูดให้สัมภาษณ์นักข่าว การกระทำของจำเลยที่โจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นความผิดย่อมสำเร็จ เมื่อนักข่าวซึ่งเป็นบุคคลที่สามทราบข้อความแล้ว โดยคนที่ถูกหมิ่นประมาทไม่ต้องรู้ว่าตนเองถูกหมิ่นประมาท สำหรับข้อที่ว่าโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังนั้น เป็นพฤติการณ์ประกอบการกระทำ ไม่ใช่ผลของการกระทำ จึงไม่ต้องด้วย ป.อ. มาตรา 5 วรรคแรก เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทนอกราชอาณาจักรและไม่ใช่กรณีกระทำความผิดที่ประมวลกฎหมายอาญาถือว่าได้กระทำในราชอาณาจักร ผู้กระทำความผิดจึงไม่ต้องรับโทษในราชอาณาจักร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21627/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทต้องมีการใส่ความต่อบุคคลที่สาม การพิมพ์ข้อความในคอมพิวเตอร์ที่อาจมีผู้อื่นเห็น ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
จำเลยเป็นผู้พิมพ์หนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เรื่องอุทธรณ์คำสั่งบรรจุแต่งตั้งผู้ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าทำงาน แม้ข้อความโดยรวมเป็นการกล่าวหาผู้เสียหายซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านโตนดและเป็นผู้บริหารสูงสุดของเทศบาลตำบลบ้านโตนดว่ารับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นพนักงานเทศบาลไม่โปร่งใส เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบแสวงหาผลประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นซึ่งไม่เป็นความจริง อันเป็นการใส่ความผู้เสียหายก็ตาม แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้กระทำต่อบุคคลที่สาม กลับได้ความเพียงว่า ก. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลบ้านโตนดไปพบหนังสือร้องเรียนดังกล่าวที่หน้าคอมพิวเตอร์ห้องงานคลังด้วยตนเอง โดยจำเลยมิได้นำออกมาแสดงต่อ ก. เพื่อให้ทราบข้อความในเอกสารนั้น ส่วน ศ. พนักงานขับรถของผู้เสียหายก็เพียงแต่สงสัยว่าจำเลยจะเป็นผู้พิมพ์หนังสือร้องเรียนดังกล่าวเท่านั้น ทั้งจำเลยยังไม่ได้ส่งเอกสารดังกล่าวไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยทราบ การกระทำของจำเลยจึงยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6681/2562
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายต้องมีบุคคลที่สาม การสนทนาส่วนตัวไม่ถือเป็นการละเมิด
แม้ ป.พ.พ. มาตรา 423 ไม่ได้บัญญัติว่าเป็นการกล่าวหรือไขข่าวต่อบุคคลที่สาม แต่การกล่าวหรือไขข่าวที่แพร่หลายได้ก็ต้องมีบุคคลที่สามอยู่ การพูดคนเดียวไม่มีคนได้ยินย่อมไม่เป็นการกล่าวให้แพร่หลาย ดังนั้นถ้ามีคนแอบฟังโดยคนพูดไม่รู้ การพูดดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นการจงใจกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า พ. เป็นผู้เริ่มต้นการตั้งโปรแกรมสนทนาผ่านบัญชีเฟสบุ๊ค เมสเซนเจอร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ให้บริการส่งข้อความและข้อมูลมัลติมีเดียสนทนาโต้ตอบกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เข้าในระบบเพื่อพูดคุยกัน โปรแกรมสนทนาดังกล่าวเป็นแบบระบบปิดมีสมาชิกเพียง 3 คนคือจำเลยทั้งสองและ พ. บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปดูหรืออ่านข้อความสนทนาได้ การสนทนาดังกล่าวที่มีการพูดถึงโจทก์และพนักงานอื่นรวมอยู่ด้วยจึงเป็นการกล่าวที่จำเลยทั้งสองและ พ. ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันสนทนาร่วมกันโดย พ. เข้าร่วมสนทนากับจำเลยทั้งสองหลายครั้ง จึงมิใช่เป็นการที่จำเลยทั้งสองกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย ส่วนการที่โจทก์แอบดูและอ่านข้อความสนทนาและนำไปเผยแพร่ให้บุคคลอื่นรับทราบเอง ย่อมไม่ทำให้การสนทนาระหว่างกลุ่มบุคคลทั้งสามเป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายให้บุคคลอื่นรับทราบได้ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์