คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกันภัยรถยนต์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 104 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3760/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การประกันภัยของผู้ขับขี่ที่ได้รับความยินยอม และความรับผิดของทายาท
สัญญารับประกันภัยรถยนต์ระบุการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกว่า การคุ้มครองผู้ขับขี่ บริษัทจะถือว่าบุคคลใดซึ่งขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันเสมือนหนึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยเอง ฯลฯ หมายความว่าจำเลยที่ 5 ในฐานะผู้รับประกันภัยจะเป็นผู้ใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามผู้ขับขี่เสมือนหนึ่งผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ขับขี่เอง เมื่อ ป.ขับขี่รถคันเกิดเหตุโดยได้รับความยินยอมจากจำเลยที่ 1 ผู้เอาประกันภัยจำเลยที่ 5 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก แม้จำเลยที่ 1 จะได้เช่าซื้อรถยนต์คันเกิดเหตุและได้ให้ป.ขับก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถคันดังกล่าวในขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าวนั้น การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้เช่าซื้อรถคันดังกล่าว ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่า ผู้เป็นเพียงเจ้าของหรือผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นในเมื่อมีผู้ขับรถไปเกิดเหตุเว้นแต่ผู้ขับจะเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของเจ้าของหรือผู้เช่าซื้อเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2308/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิจากค่ารักษาพยาบาลในสัญญาประกันภัยรถยนต์ และความรับผิดของนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้รับประกันภัย
จำเลยที่ 3 รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน รบ.16627ซึ่งเป็นรถของจำเลยที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 1 บุตรชายจำเลยที่ 2เป็นคนขับและคุ้มครองผู้ขับรถตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 1ขับรถคันดังกล่าวชนกับรถของโจทก์ที่ 1 จน ด. คนขับรถโจทก์ที่ 1 ถึงแก่ความตายส่วนจำเลยที่ 1 ได้รับบาดเจ็บและเสียค่ารักษาพยาบาล จำเลยที่ 3 จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แก่จำเลยที่ 1ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำเลยที่ 3 ตกลงคุ้มครอง หาใช่เป็นการประกันชีวิตไม่ ถือเป็นค่าเสียหายที่จำเลยที่ 3 ได้รับจากความประมาทของ ด. ลูกจ้างโจทก์ที่ 1 จำเลยที่ 3 จึงเข้ารับช่วงสิทธิ์ จากจำเลยที่ 1 มาฟ้องเรียกร้องเอาค่าเสียหายดังกล่าวจากโจทก์ที่ 1และโจทก์ที่ 4 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิประกันภัยรถยนต์: การบอกกล่าวตัวแทนถือว่าผู้รับประกันภัยทราบ
เมื่อผู้เอาประกันรถยนต์ได้บอกกล่าวการโอนรถที่เอาประกันภัยไว้กับผู้รับประกันภัยให้แก่ตัวแทนของผู้รับประกันภัยทราบแล้วแม้จะเป็นการบอกกล่าวด้วยวาจาก็ถือว่าผู้รับประกันภัยทราบแล้วเช่นเดียวกัน สิทธิอันมีอยู่ในสัญญาประกันภัยย่อมโอนตามไปยังผู้รับโอนรถยนต์ด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๘๗๕ วรรคสอง ผู้รับประกันภัยจึงต้องร่วมรับผิดตามสัญญาประกันภัยนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิประกันภัยรถยนต์: การบอกกล่าวตัวแทนถือว่าแจ้งผู้รับประกันแล้ว
เมื่อผู้เอาประกันรถยนต์ได้บอกกล่าวการโอนรถที่เอาประกันภัยไว้กับผู้รับประกันภัยให้แก่ตัวแทนของผู้รับประกันภัยทราบแล้วแม้จะเป็นการบอกกล่าวด้วยวาจาก็ถือว่าผู้รับประกันภัยทราบแล้วเช่นเดียวกัน สิทธิอันมีอยู่ในสัญญาประกันภัยย่อมโอนตามไปยังผู้รับโอนรถยนต์ด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 875 วรรคสอง ผู้รับประกันภัยจึงต้องร่วมรับผิดตามสัญญาประกันภัยนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2661/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันภัยรถยนต์: สัญญาเกิดขึ้นก่อนเหตุปล้น, ใบเสร็จเป็นหลักฐานสมบูรณ์, ผู้ครอบครองมีสิทธิทำประกัน
โจทก์ที่ 2 ทำสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขรถยนต์คันพิพาทมาจากโจทก์ที่ 1 แล้วโจทก์ที่ 2 นำรถไปประกอบการขนส่ง โจทก์ที่ 2จึงเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันพิพาทอันมีส่วนได้เสียที่จะเอาประกันภัยได้ ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยมีลายมือชื่อผู้จัดการของจำเลย และมีรายละเอียดต่าง ๆ คือ หมายเลขทะเบียนและรายละเอียดอื่นเกี่ยวกับรถยนต์ที่เอาประกันภัย ทุนประกัน ระยะเวลาประกัน ทั้งระบุหมายเลขของกรมธรรม์ด้วย ดังนี้ ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันภัยดังกล่าวย่อมเป็นหลักฐานเป็นหนังสือที่จะฟ้องร้องบังคับคดีกันได้ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2524 โจทก์ที่ 2 ได้โทรศัพท์ทางไกลจากจังหวัด มุกดาหาร ขอเสนอเอาประกันภัยรถยนต์คันพิพาทกับตัวแทนของจำเลยประจำจังหวัด อุบลราชธานี ตัวแทนจำเลยได้ออกใบเสร็จรับเงินเบี้ยประกันภัยของจำเลยให้แก่โจทก์ที่ 2 ในวันนั้น โดยระบุระยะเวลาประกันเริ่มวันที่ 3 พฤษภาคม 2524 สิ้นสุด 3 พฤษภาคม 2525เวลา 0.01 นาฬิกา ตัวแทนจำเลยได้โทรเลขแจ้งจำเลยที่ กรุงเทพมหานครจำเลยได้รับโทรเลขวันที่ 4 เดือนเดียวกัน วันที่ 4 พฤษภาคม 2524โจทก์ที่ 2 ได้ส่งตั๋วแลกเงินชำระเบี้ยประกันภัยให้ตัวแทนจำเลยและวันที่ 6 เดือนเดียวกันจำเลยได้ออกกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คันพิพาท ดังนี้ ต้องถือว่าการประกันภัยรายนี้ได้ตกลงกันแล้วระหว่างโจทก์ที่ 2 กับตัวแทนจำเลยในวันที่ 2 พฤษภาคม 2524 เมื่อรถยนต์คันพิพาทถูกคนร้ายปล้นเอาไปตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2524 เวลา22 นาฬิกา จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ทั้งสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: ใบอนุญาตขับรถขาดต่ออายุ ยังถือว่ามีใบอนุญาตโดยชอบตามเจตนาของคู่สัญญา
คู่ความตกลงท้ากันให้นายทะเบียนยานพาหนะฯ วินิจฉัยว่าส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายที่ได้รับจากนายทะเบียนฯในขณะเกิดเหตุคดีนี้หรือไม่ ถ้า นายทะเบียนวินิจฉัยว่า ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์ที่ได้รับจากนายทะเบียนฯ โดยชอบ โจทก์ยอมแพ้หากวินิจฉัยตรงกันข้ามจำเลยยอมแพ้ ดังนี้เมื่อหัวหน้าแผนกขับขี่รถยนต์ที่ศาลหมายเรียกมาสอบถามแถลงว่าไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่า ส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายที่ได้รับจากนายทะเบียนฯในขณะที่เกิดเหตุหรือไม่ คู่ความจึงต้องสืบพยานกันต่อไปเฉพาะ ในประเด็นตามคำท้า เมื่อข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบมารับฟังได้ว่าในวันเกิดเหตุส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ออกให้โดยนายทะเบียนยานพาหนะฯแต่ขาดต่ออายุ การวินิจฉัยคดีว่าฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้คดีตามคำท้าย่อมจะต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยรายพิพาทประกอบด้วยซึ่งเห็นได้ว่าเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยฯ มีไว้เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไม่เป็นหรือไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์มาขับรถยนต์ที่เอาประกันเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การที่ ส. เพียงแต่ขาดต่ออายุใบอนุญาตฯ จึงถือได้ว่า ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายตามคำท้า โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2022/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยรถยนต์ครอบคลุมถึงส่วนประกอบที่จำเป็น เช่น สาลี่ที่ใช้ในการบรรทุก หากส่วนประกอบนั้นหลุดทำให้เกิดความเสียหาย ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดชอบ
จำเลยที่ 3 รับประกันรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 ไว้รถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 จำเป็นต้องพ่วงสาลี่เพื่อความสะดวกในการบรรทุกของสาลี่ที่พ่วงอยู่กับรถยนต์บรรทุกย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์บรรทุกด้วย เมื่อสาลี่ของรถยนต์บรรทุกที่จำเลยที่ 3 รับประกันเลื่อนหลุดมาทำให้รถยนต์ผู้อื่นเสียหายจำเลยที่ 3 จะอ้างว่าไม่ได้รับประกันสาลี่ด้วยเพื่อให้พ้นจากความรับผิดตามสัญญาประกันภัยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: การรับประกันภัยค้ำจุนและการไม่รับผิดในผลละเมิดของนายจ้างที่ไม่เกี่ยวข้อง
จำเลยที่ 3 รับประกันภัยรถยนต์ไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัด น.ห้าง ฯ ดังกล่าวได้ให้จำเลยที่ 2 เช่าซื้อรถนั้นไปในขณะเกิดเหตุ ห้าง ฯ มิได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์ ห้าง ฯ หาต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นไม่ จำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยไว้กับห้างฯ ในลักษณะประกันภัยค้ำจุนจึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันภัยรถยนต์: ความรับผิดของผู้รับประกันภัยในกรณีที่ผู้เช่าซื้อรถทำละเมิด และบทบาทของประกันภัยค้ำจุน
จำเลยที่ 3 รับประกันภัยรถยนต์ไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัด น.ห้าง ฯ ดังกล่าวได้ให้จำเลยที่ 2 เช่าซื้อรถนั้นไปในขณะเกิดเหตุ ห้าง ฯ มิได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 1ทำละเมิดต่อโจทก์ ห้าง ฯ หาต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นไม่ จำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยไว้กับห้างฯ ในลักษณะประกันภัยค้ำจุน จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3583/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: การรับผิดของผู้รับประกันภัยเมื่อผู้ขับขี่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย
จำเลยที่1เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ไปใช้โดยให้ช.ลูกจ้างของตนเป็นคนขับและห้างหุ้นส่วนจำกัดน.นำรถยนต์ดังกล่าวไปประกันภัยไว้กับจำเลยที่2กรมธรรม์ประกันภัยมีข้อความว่า'บริษัทจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายและบริษัทจะถือบุคคลใดซึ่งขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเสมือนหนึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยเอง'ดังนี้การที่ช.ขับรถไปทำละเมิดต่อโจทก์ต้องถือว่าช.ขับรถโดยได้รับความยินยอมจากห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ผู้เอาประกันภัยมีฐานะเสมือนผู้เอาประกันภัยเองจำเลยที่2จึงต้องรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัย.
of 11