พบผลลัพธ์ทั้งหมด 67 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาแสดงข้อความเท็จต่อประชาชนสำคัญกว่าจำนวนผู้เสียหายในความผิดฉ้อโกงประชาชน
การแสดงข้อความอันเป็นเท็จจริงต่อประชาชน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นั้น หาได้ถือเอาจำนวนผู้เสียหาย ที่ถูกหลวงลวงมากหรือน้อย เป็นหลักไม่ แต่ถือเอาเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นสำคัญ
เมื่อปรากฏว่าศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยคดีโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนหรือขัดกับพยานหลักฐานในสำนวน ดังที่จำเลยฎีกา ฎีกาของจำเลยเป็นเรื่องจำเลยเห็นว่าควร เชื่อตามพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาของจำเลยที่ว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดอาญา เพราะจำเลยมิได้หลอกลวงผู้เสียหาย ก็เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เช่นกัน
เมื่อปรากฏว่าศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยคดีโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนหรือขัดกับพยานหลักฐานในสำนวน ดังที่จำเลยฎีกา ฎีกาของจำเลยเป็นเรื่องจำเลยเห็นว่าควร เชื่อตามพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาของจำเลยที่ว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดอาญา เพราะจำเลยมิได้หลอกลวงผู้เสียหาย ก็เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงประชาชนด้วยการขายที่ดินที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ การกระทำเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343
จำเลยที่ 1 เป็นกรรมการบริษัทจำเลยที่ 2 ได้จัดสรรที่ดินในนามของจำเลยที่ 2 ให้ประชาชนเช่าซื้อ แต่ที่ดินนั้นมิใช่ที่ดินที่จำเลยที่ 2 มีกรรมสิทธิ์ตามที่จำเลยโฆษณาชี้ชวนแก่ประชาชน และจำเลยไม่สามารถจะโอนขายที่ดินนั้นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหลอกลวงโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชนโดยเจตนาทุจริต ผู้เสียหายทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทจำเลยที่ 2 ได้ชำระเงินผ่อนไปบ้างแล้วบริษัทจำเลยที่ 2 ก็ปิดที่ทำการไม่มีคนมาทำงานแม้จะได้ความว่ามีผู้สั่งจองโดยยังไม่ชำระเงินราว 10 ราย มีผู้ซื้อที่ดินเพียง 2 รายคือ อ.กับผู้เสียหายและมีแต่ผู้เสียหายเพียงรายเดียวที่ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยการกระทำของจำเลยก็เป็นความ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงขายที่ดินที่ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของตนเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343
จำเลยที่ 1 เป็นกรรมการบริษัทจำเลยที่ 2 ได้จัดสรรที่ดินในนามของจำเลยที่ 2 ให้ประชาชนเช่าซื้อ แต่ที่ดินนั้นมิใช่ที่ดินที่จำเลยที่ 2 มีกรรมสิทธิ์ตามที่จำเลยโฆษณาชี้ชวนแก่ประชาชน และจำเลยไม่สามารถจะโอนขายที่ดินนั้นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหลอกลวงโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ประชาชนโดยเจตนาทุจริตผู้เสียหายทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทจำเลยที่ 2 ได้ชำระเงินผ่อนไปบ้างแล้วบริษัทจำเลยที่ 2 ก็ปิดที่ทำการไม่มีคนมาทำงาน แม้จะได้ความว่ามีผู้สั่งจองโดยยังไม่ชำระเงินราว 10 ราย มีผู้ซื้อที่ดินเพียง 2 ราย คือ อ. กับผู้เสียหายและมีแต่ผู้เสียหายเพียงรายเดียวที่ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1784/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารต้องระบุความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมแต่ไม่ได้ระบุมาว่าการที่จำเลยปลอมเอกสารขึ้นนั้น น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และแม้จะอ่านคำบรรยายฟ้องโจทก์โดยตลอดก็ไม่อาจทราบความหมายนี้ได้ฟ้องโจทก์ดังนี้ไม่ครบองค์ความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1784/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีปลอมแปลงเอกสารต้องระบุความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้อื่นหรือประชาชน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมแต่ไม่ได้ระบุมาว่าการที่จำเลยปลอมเอกสารขึ้นนั้น น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และแม้จะอ่านคำบรรยายฟ้องโจทก์โดยตลอด ก็ไม่อาจทราบความหมายนี้ได้ฟ้องโจทก์ดังนี้ไม่ครบองค์ความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดเครื่องหมายการค้า: การใช้เครื่องหมายการค้าที่คล้ายคลึงกันจนทำให้ประชาชนหลงผิด
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า 'GANTRISIN'ในสินค้าจำพวก 3 เป็นผลิตภัณฑ์ยาสำหรับรักษาโรคมนุษย์และได้ขายยาที่มีเครื่องหมายนี้มากว่า 10 ปีแล้ว จำเลยเพิ่งผลิตยาใช้เครื่องหมายการค้าว่า 'KANDICIN' ออกจำหน่ายได้ 2 ปี เครื่องหมายการค้าของโจทก์กับของจำเลยเป็นอักษรโรมันใช้ภาษาต่างประเทศเป็นลักษณะสำคัญ ลักษณะและจำนวนตัวอักษรไล่เรี่ยกัน มีสามพยางค์เท่ากัน การอ่านออกสำเนียงพื้นเสียงอักษรที่นำหน้าก็ดี พยางค์ที่ 2 และที่ 3 ก็ดี คล้ายกันและเหมือนกันของโจทก์อ่านออกเสียงได้ว่า 'กันทริสซิน' หรือ 'กานตริซิน' ของจำเลยว่า 'แคนดิซิน' หรือ 'คานดิซิน' เป็นสำเนียงที่ใกล้เคียงคล้ายกันมากเม็ดยา ขนาดและสีก็อย่างเดียวกัน ตัวอักษรที่พิมพ์ทับกันบนเม็ดยาก็คล้ายกัน และต่างก็ใช้กับยาปฏิชีวนะเหมือนกัน จึงถือได้ว่าจำเลยได้ใช้ เครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ทำให้ประชาชนหลงผิดในแหล่งกำเนิดของสินค้า เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์พระเครื่องส่วนบุคคล ไม่ถึงฐานลักทรัพย์พระพุทธรูปที่สักการะบูชาของประชาชน
ฟ้องหาว่าจำเลยลักพระเครื่องยอดธงที่เป็นพระพุทธรูปอันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนและเจ้าทรัพย์ โดยล้วงเอาไปจากกระเป๋าเสื้อของเจ้าทรัพย์ เหตุเกิดในบริเวณวัดนิกรชนาราม จำเลยให้การรับสารภาพ เมื่อข้อเท็จจริงตามคำฟ้องเห็นได้ว่าพระเครื่องของกลางไม่อยู่ในฐานะอันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนไปได้ และจำเลยได้ลักล้วงเอาไปจากกระเป๋าเสื้อของเจ้าทรัพย์เช่นนี้ แม้เหตุลักทรัพย์จะเกิดในบริเวณวัด จำเลยยังไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบเรียกรับเงินจากประชาชน และความผิดฐานสนับสนุน
จำเลยที่ 1, 5, 6, 7 และ 8 ได้ร่วมกันเรียกร้องเงินจากผู้เสียหายจำเลยที่ 1 มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านได้รับแต่งตั้งจากทางการให้มีหน้าที่สำรวจที่ดิน เมื่อจำเลยที่ 1 เรียกร้องขืนใจให้ผู้เสียหายที่มาแจ้งการสำรวจที่ดินมอบเงินให้ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148ส่วนจำเลยที่ 5, 6, 7 และ 8 มิได้มีหน้าที่ในการสำรวจที่ดินด้วยจึงมีความผิดเพียงเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ประกอบด้วยมาตรา 86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความเหมือนของเครื่องหมายการค้า ต้องพิจารณาจากวิญญูชนทั่วไป ไม่ใช่จากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
การวินิจฉัยว่าประชาชนหลงเชื่อว่าเครื่องหมายการค้าอันหนึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าอีกอันหนึ่งหรือไม่นั้นต้องพิจารณาถึงความรู้สึกของวิญญูชนทั่วๆไปมิใช่จากความรู้สึกของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปควายสีทองยืนอยู่ตัวเดียวมีรูปต้นไม้ภูเขาก้อนเมฆเป็นภาพประกอบของจำเลยเป็นรูปควายสีค่อนข้างดำ และมีรูปสิงห์โตคู่เหยียบอีแปะและรูปพระอาทิตย์มีรัศมีเป็นสารสำคัญของเครื่องหมายอีกด้วยทั้งพื้นภาพก็เป็นสีต่างกันตลอดจนตัวอักษรเจ้าของเครื่องหมายการค้าก็วางในที่ต่างกันและของโจทก์ยังเป็นอักษรภาษาอังกฤษเห็นได้ชัดว่ามิใช่เครื่องหมายการค้าอันเดียวกันและยังปรากฏว่ามีบุคคลอื่นๆ อีกที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าซึ่งมีรูปควายเป็นสารสำคัญหรือส่วนของเครื่องหมายการค้าจึงเป็นการยากที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดหลงเชื่อว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์
เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นรูปควายสีทองยืนอยู่ตัวเดียวมีรูปต้นไม้ภูเขาก้อนเมฆเป็นภาพประกอบของจำเลยเป็นรูปควายสีค่อนข้างดำ และมีรูปสิงห์โตคู่เหยียบอีแปะและรูปพระอาทิตย์มีรัศมีเป็นสารสำคัญของเครื่องหมายอีกด้วยทั้งพื้นภาพก็เป็นสีต่างกันตลอดจนตัวอักษรเจ้าของเครื่องหมายการค้าก็วางในที่ต่างกันและของโจทก์ยังเป็นอักษรภาษาอังกฤษเห็นได้ชัดว่ามิใช่เครื่องหมายการค้าอันเดียวกันและยังปรากฏว่ามีบุคคลอื่นๆ อีกที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าซึ่งมีรูปควายเป็นสารสำคัญหรือส่วนของเครื่องหมายการค้าจึงเป็นการยากที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดหลงเชื่อว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงบุคคลทั่วไปไม่ถือเป็นการหลอกลวงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ฟ้องของโจทก์บรรยายแต่เพียงว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหาย 4 คน กับหลอกลวงคนอื่นอีก 7 คน ผู้ถูกหลอกลวงส่งเงินให้แก่จำเลย มิได้กล่าวให้เห็นว่าการหลอกลวงของจำเลยเป็นการหลอกลวงประชาชน เพียงแต่กล่าวว่าหลอกลวงบุคคล 11 คน เท่านั้น การหลอกลวงบุคคล 11 คน ไม่พอจะถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343
เมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 343 แล้ว ก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยตามมาตรา 343 ได้
เมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 343 แล้ว ก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยตามมาตรา 343 ได้