พบผลลัพธ์ทั้งหมด 50 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การกระทำเพื่อป้องกันภัยจากการประทุษร้ายที่เกิดขึ้นก่อน
ผู้ตายไปทวงเงินจำเลย ๆ ว่ายังไม่มี ผู้ตายก็ลงเรือนไปแล้ว เรียกให้จำเลยลงไปด้วย จำเลยก็ลงไปตามที่ผู้ตายเรียก และได้เกิดการทำร้ายขึ้น โดยผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลย 2 ทีก่อน จนไม้หักแล้วยังหยิบไม้อีกอันหนึ่งจะตีซ้ำเติมอีก จำเลยจึงแทงไปแต่เพียงทีเดียวผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การกระทำเพื่อป้องกันการประทุษร้ายจากผู้อื่น เป็นเหตุให้สามารถกระทำเพื่อป้องกันได้ แม้จะถึงแก่ชีวิต
ผู้ตายไปทวงเงินจำเลย จำเลยว่ายังไม่มี ผู้ตายก็ลงเรือนไปแล้วเรียกให้จำเลยลงไปด้วย จำเลยก็ลงไปตามที่ผู้ตายเรียก และได้เกิดการทำร้ายขึ้น โดยผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลย 2 ทีก่อน จนไม้หักแล้วยังหยิบไม้อีกอันหนึ่งจะตีซ้ำเติมอีก จำเลยจึงแทงไปแต่เพียงทีเดียวผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเอง: การยิงผู้บุกรุกที่มิได้ประทุษร้ายต่อผู้อื่น
การที่จำเลยยิงผู้ที่ลอบเข้าไปแอบอยู่นอกมุ้งที่ภรรยาจำเลยนอนในร้านของผู้อื่นในงานออกร้าน. โดยผู้นั้นมิได้ทำอะไรแก่ภรรยาจำเลยดังนี้. จะถือว่ากระทำโดยป้องกันมิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ: การใช้กำลังเพื่อปกป้องชีวิตและเคหะสถานจากการถูกประทุษร้าย
พฤติการณ์ที่เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์: การใช้กำลังประทุษร้ายแย่งทรัพย์
จำเลยกับพวก 2 คนใช้ปูนขาวสาดหน้าแลตีเจ้าทรัพย์ล้มลงเพื่อแย่งเอาไว้เสียทัน มีผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานปล้นทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ ดังนี้ลงโทษจำเลยได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานปล้นทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ ดังนี้ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำด้วยเจตนาป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการประทุษร้าย
พฤติการณ์อย่างไรฟังว่าเป็นการกระทำโดยป้องกันตัว จำเลยไปตะโกนร้องเรียกผู้อื่นที่เรือนเขา ๆโกรธจึงฉวยมีดมาที่จำเลย ๆ ว่าอย่าเข้ามาก็ไม่ฟัง พอในระยะสัก 4 วาจำเลยก็ยิงด้วยกะสุน 3 ที่มีบาดแผล+ถลอกฟกช้ำเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหากฎหมาย ข้อที่ว่าการกระทำของจำเลยเข้าบทฐานป้องกันหรือไม่นั้น ถ้าเป็นการบรรยายเหตุผลมาในข้อกฎหมาย ก็นับว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ: การใช้ความจำเป็นในการป้องกันจากการประทุษร้าย
อย่างไรเรียกว่าป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
เรื่องนี้ทีแรกลงโทษ ภายหลังแก้ใหม่เปนป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
เรื่องนี้ทีแรกลงโทษ ภายหลังแก้ใหม่เปนป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพกพาอาวุธโดยไม่มีเจตนาประทุษร้าย ไม่เป็นความผิด
ถือมีดไปในถนนหลวงเพื่อไปชำแหละเนื้อโคเมื่อตำรวจเห็นจำเลยจึงเอาเหน็บลงในโสร่ง แลมีมีดนั้นมีปลอกหนังหุ้มอยู่แล้วดังนี้ ไม่มีผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8163/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: บุกรุก-กระทำอนาจาร และ บุกรุกเพื่อประทุษร้าย ถือเป็นคนละกรรม
จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุและกระทำอนาจารผู้เสียหายแล้วออกจากบ้านไป ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว จากนั้นจำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุโดยมีวัตถุของแข็งอีกครั้งเพื่อประทุษร้ายร่างกายผู้เสียหาย ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาบุกรุกเข้าไปเพื่อที่จะทำร้ายผู้เสียหาย อันเป็นเจตนาที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่แยกต่างหากจากเจตนาบุกรุกบ้านที่เกิดเหตุและกระทำอนาจารผู้เสียหายในตอนแรกซึ่งสำเร็จไปแล้ว แม้การกระทำของจำเลยจะต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน แต่ก็เป็นการกระทำต่างเวลากัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8780/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้าย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และบังคับชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
จำเลยทั้งสองข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธปืนและมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ย่อมเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย จิตใจ และเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของตน จำเลยทั้งสองเป็นผู้ทำละเมิด จึงต้องร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งศาลชั้นต้นได้กำหนดค่าสินไหมทดแทนจำนวนที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดแล้ว จึงเห็นสมควรให้บังคับไปตามนั้น ปัญหาดังกล่าวแม้ผู้เสียหายมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเพื่อให้เป็นไปตามผลแห่งคดีอาญาได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225