พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดนัดตามสัญญาประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย ทำให้ลูกหนี้ต้องรับผิดตามหนี้เดิม
ลูกหนี้ขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายร้อยละ 20 ของจำนวนหนี้ที่ไม่มีประกันทั้งหมด กำหนดชำระครบภายใน 2 ปี ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ แต่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนดได้จึงตกเป็นผู้ผิดนัดตามคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายเมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้ โดยเหตุที่ลูกหนี้เป็นผู้ผิดเงื่อนไข ไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนอมหนี้ ลูกหนี้จะถือปฏิบัติเอาตามสัญญาประนอมหนี้ซึ่งศาลมีคำสั่งยกเลิกต่อไปอีกไม่ได้ต้องรับผิดชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามหนี้เดิมเต็มจำนวนหนี้ ส่วนข้อผูกมัดเจ้าหนี้ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483จะผูกมัดเจ้าหนี้ทั้งหมดได้ต่อเมื่อลูกหนี้มิได้เป็นผู้ผิดนัดตามข้อตกลงในสัญญาประนอมหนี้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดนัดสัญญาประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย ทำให้ต้องรับผิดตามหนี้เดิม
ลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดตามคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายของลูกหนี้โดยเหตุที่ลูกหนี้เป็นผู้ผิดเงื่อนไขไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนอมหนี้ลูกหนี้จะถือปฏิบัติเอาตามสัญญาประนอมหนี้ซึ่งศาลมีคำสั่งยกเลิกต่อไปอีกไม่ได้ ต้องรับผิดชำระหนี้ส่วนที่เหลือแก่เจ้าหนี้ตามหนี้เดิมที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวนหนี้ ส่วนข้อผูกมัดเจ้าหนี้ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483จะผูกมัดเจ้าหนี้ทั้งหมดได้ต่อเมื่อลูกหนี้มิได้เป็นผู้ผิดนัดตามข้อตกลงในสัญญาประนอมหนี้ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้ยอมรับ และศาลมีคำสั่งเห็นชอบเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6369/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิคัดค้านการประนอมหนี้ของเจ้าหนี้ และการสันนิษฐานว่าผู้ล้มละลายกระทำการโดยรู้ว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้
ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 52 วรรคสอง เจ้าหนี้ที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้วมีอำนาจคัดค้านต่อศาลได้ ถึงแม้จะได้เคยออกเสียงลงมติยอมรับไว้ในที่ประชุมเจ้าหนี้ก็ตาม ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้วไม่ได้เข้าประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก จึงไม่ได้คัดค้านการประนอมหนี้ แต่ได้ยื่นคำคัดค้านการประนอมหนี้ไว้ก่อนศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ ผู้คัดค้านย่อมมีอำนาจอุทธรณ์ได้ จำเลยที่ 1 ให้การต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า จำเลยที่ 1ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ และจำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำบัญชีแสดงกิจการต้นทุนกำไรย้อนหลังไป 3 ปีนับแต่วันถูกพิทักษ์ทรัพย์ ส่วนจำเลยที่ 2ให้การต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ไม่มีทรัพย์สินส่วนตัวที่มิได้ใช้ในการประกอบธุรกิจ ภริยาจำเลยที่ 2 ไม่ได้ประกอบอาชีพและไม่มีทรัพย์สิน และในการประกอบกิจการค้าขาย จำเลยที่ 2ไม่ได้ทำบัญชีแสดงการขาดทุนกำไร ย่อมเห็นได้ว่า ก่อนล้มละลายจำเลยทั้งสองมีทรัพย์สินไม่พอกับหนี้สินและไม่สามารถนำบัญชีและงบดุลประจำปีมาแสดงต่อศาลได้สำหรับระยะเวลา 3 ปี ก่อนล้มละลายโดยไม่มีเหตุสมควร ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลยทั้งสองได้ขืนทำการค้าต่อไปอีกโดยรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามมาตรา 74(2)(ข),73,72, และ 53 ศาลย่อมสั่งไม่เห็นชอบด้วยคำขอประนอมหนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6369/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้มีสิทธิคัดค้านการประนอมหนี้แม้เคยลงมติยอมรับ และการล้มละลายจากการค้าขายโดยรู้ว่าไม่มีหนี้จ่าย
เจ้าหนี้ที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ มีอำนาจคัดค้านต่อศาลได้ถึงแม้จะได้เคยออกเสียงลงมติยอมรับไว้ในที่ประชุมเจ้าหนี้ก็ตามดังนั้นการที่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้ว แต่ไม่ได้เข้าประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก จึงไม่ได้คัดค้านการประนอมหนี้ไว้ ต่อมาได้ยื่นคำคัดค้านการประนอมหนี้ก่อนศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ผู้คัดค้านย่อมมีอำนาจอุทธรณ์ได้ ก่อนล้มละลาย จำเลยมีสินทรัพย์ไม่พอกับหนี้สิน และไม่สามารถนำบัญชีและงบดุลประจำปีมาแสดงต่อศาลได้สำหรับระยะเวลา 3 ปีก่อนล้มละลายโดยไม่มีเหตุสมควรอันต้องด้วยข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยได้ขืนกระทำการค้าขายต่อไปอีกโดยรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ ตามมาตรา 74(2)(ข) ศาลสั่งให้ยกคำขอประนอมหนี้ได้ตามมาตรา 72 ประกอบมาตรา 73(3) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3959/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย: เจตนารมณ์ของกฎหมายคือให้มีได้ครั้งเดียว เพื่อให้คดีล้มละลายดำเนินไปได้โดยรวดเร็ว
ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย มาตรา 45 และมาตรา 61 มีเจตนารมณ์ ให้ขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายได้เพียงครั้งเดียว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3703/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำขอให้ล้มละลาย แม้จำเลยผ่อนชำระหนี้แต่ไม่สม่ำเสมอ และไม่เคยยื่นประนอมหนี้
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา 108,435.78 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ แม้ก่อนฟ้องคดีนี้จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์เดือนละ 1,000 บาท เป็นเงิน 29,000 บาทแล้วแต่ก็เป็นเพียงผ่อนชำระดอกเบี้ย ต่อมาจำเลยค้างชำระเงินต้นทั้งหมดและดอกเบี้ย 106,762.61 บาทจำเลยไม่มีทรัพย์สินที่จะยึดมาชำระหนี้โจทก์ หากให้จำเลยผ่อนชำระหนี้แก่โจทก์ต่อไปเดือนลำ 1,000 บาท กว่าจะหมดหนี้ก็ต้องใช้เวลาหลายปีและจำเลยหาได้ผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์สม่ำเสมอทุกเดือนไปไม่ บางครั้งสองเดือนหรือสามเดือนจำเลยจึงนำเงินมาชำระครั้งหนึ่ง ถ้าจำเลยมีความสุจริตใจหรือขวนขวายอย่างแท้จริงที่จะชำระหนี้ให้โจทก์หมดสิ้นไปโดยเร็วแล้วก็น่าจะชำระให้โจทก์อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนและเป็นจำนวนเงินมากกว่านี้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จำเลยเด็ดขาดแล้ว จำเลยก็หาได้ยื่นคำขอประนอมหนี้ไม่ทั้ง ๆ ที่มีเจ้าหนี้เพียงรายเดียวคือโจทก์ ดังนี้แม้มูลแห่งหนี้จะสืบเนื่องมาจากการค้ำประกันกรณีก็ยังไม่มีเหตุที่ไม่ควรให้จำเลยล้มละลาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3324/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์จำเลยที่ไม่เคยคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และการขอประนอมหนี้หลังที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติให้ล้มละลาย
จำเลยที่ 1 มิได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2 แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 มาก็ไม่เกิดสิทธิอุทธรณ์ พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 61 บัญญัติว่าเมื่อเจ้าหนี้ลงมติในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือการประนอมหนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย จึงเป็นบทบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย จะงดพิพากษาหรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้เมื่อที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติไม่ยอมรับคำขอประนอมหนี้ของจำเลยที่ 2และขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานศาลเพื่อพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ล้มละลายแล้ว การที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายอีก ทั้ง ๆ ที่เป็นการพ้นขั้นตอนและพ้นระยะเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 45 แล้ว จึงเป็นการไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4991/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีหลังศาลสั่งประนอมหนี้และล้มละลาย, อำนาจกรรมการหลังล้มละลาย, การดำเนินคดีกับบุคคลล้มละลาย
การที่ศาลแพ่งมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายย่อมทำให้จำเลยที่ 2 กลับมีอำนาจจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนรวมทั้งสามารถต่อสู้คดีได้เอง โจทก์ฟ้องคดีภายหลังศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้จึงมีอำนาจฟ้อง แม้ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 2 เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 25 เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเข้าว่าคดีหรือมีคำขอให้จำหน่ายคดี ศาลย่อมมีอำนาจให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีสำหรับจำเลยที่ 2 ต่อไป
เมื่อจำเลยที่ 2 ตกเป็นบุคคลล้มละลาย จำเลยที่ 2 ย่อมขาดจากตำแหน่งกรรมการของจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1154 จำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 1ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนอีกต่อไป เมื่ออำนาจจัดการทรัพย์สินจำเลยที่ 1 ของจำเลยที่ 2 หมดไปแล้ว จึงมิอาจเปลี่ยนมือไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้
เมื่อจำเลยที่ 2 ตกเป็นบุคคลล้มละลาย จำเลยที่ 2 ย่อมขาดจากตำแหน่งกรรมการของจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1154 จำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 1ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนอีกต่อไป เมื่ออำนาจจัดการทรัพย์สินจำเลยที่ 1 ของจำเลยที่ 2 หมดไปแล้ว จึงมิอาจเปลี่ยนมือไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4991/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลกระทบของการประนอมหนี้และการล้มละลายต่ออำนาจฟ้องและจัดการทรัพย์สินของกรรมการบริษัท
การที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายย่อมทำให้จำเลยที่ 2 กลับมีอำนาจจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนรวมทั้งสามารถต่อสู้คดีได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีแพ่งภายหลังที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ แม้ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 2 เป็นบุคคลล้มละลาย เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตามพ.ร.บ. ล้มละลายฯ มาตรา 25 เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นบุคคลล้มละลายจำเลยที่ 2 ย่อมขาดจากตำแหน่งกรรมการของจำเลยที่ 1 ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1154 จำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 1ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนอีกต่อไป เมื่ออำนาจจัดการทรัพย์สินจำเลยที่ 1 ของจำเลยที่ 2 หมดไปแล้ว จึงมิอาจเปลี่ยนมือไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4991/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องหลังประนอมหนี้และการดำเนินคดีเมื่อล้มละลาย รวมถึงผลกระทบต่ออำนาจกรรมการ
การที่ศาลแพ่งมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายย่อมทำให้จำเลยที่ 2 กลับมีอำนาจจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนรวมทั้งสามารถต่อสู้คดีได้เอง โจทก์ฟ้องคดีภายหลังศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้จึงมีอำนาจฟ้อง แม้ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 2 เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 25 เมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอเข้าว่าคดีหรือมีคำขอให้จำหน่ายคดี ศาลย่อมมีอำนาจให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีสำหรับจำเลยที่ 2 ต่อไป เมื่อจำเลยที่ 2 ตกเป็นบุคคลล้มละลาย จำเลยที่ 2 ย่อมขาดจากตำแหน่งกรรมการของจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1154 จำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 1ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนอีกต่อไป เมื่ออำนาจจัดการทรัพย์สินจำเลยที่ 1 ของจำเลยที่ 2 หมดไปแล้ว จึงมิอาจเปลี่ยนมือไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้