คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปริมาณ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 96 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาสูบต่างประเทศเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด การปรับตามน้ำหนักทั้งหมด
จำเลยมียาสูบต่างประเทศหนัก 1,920 กรัม ที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครอง ยาสูบทั้ง 1,920 กรัมเป็นเหตุให้เกิดความผิด มิใช่เฉพาะ จำนวนที่เกิน 500 กรัมเท่านั้น จึงต้อง ปรับจำเลยตาม จำนวนน้ำหนักของยาสูบทั้งหมด โดย ไม่ต้องหักจำนวนยาสูบ500 กรัมที่พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 19 วรรคแรกให้มีไว้ในครอบครองได้ ออกก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3580/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปริมาณเฮโรอีนกับการสันนิษฐานการมีไว้เพื่อจำหน่าย ศาลอุทธรณ์มีอำนาจปรับโทษแม้ไม่เคยอุทธรณ์
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสองสันนิษฐานเด็ดขาดว่า การมีเฮโรอีนคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไปให้ถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนในกรณีที่เฮโรอีนในครอบครองมีปริมาณน้อยกว่านั้น ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายก็ย่อมเป็นความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายได้ เมื่อคดีมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์แล้ว ศาลอุทธรณ์มีอำนาจใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำเลยในความผิดที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยให้เหมาะสมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3237/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษคดียาเสพติด: จำเป็นต้องพิสูจน์ปริมาณสารบริสุทธิ์เพื่อลงโทษตามมาตราที่สูงขึ้น
แม้ฝิ่นของกลางจะมีน้ำหนักถึง 10,000 กรัม แต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าฝิ่นของกลางมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์จำนวนเท่าใดจึงฟังไม่ได้ว่าฝิ่นของกลางมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัมตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 69วรรคสาม หรือมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่าหนึ่งร้อยกรัมตามมาตรา 69 วรรคสี่ จึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามมาตรา 69 วรรคสามหรือวรรคสี่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดโทษคดียาเสพติดต้องคำนึงถึงปริมาณยาเสพติดและอัตราโทษตามกฎหมาย
การกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยในคดีอาญาต้องคำนึงถึงอัตราโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมายด้วย โทษฐานมียาเสพติดประเภท 1(เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้นถือเอาปริมาณยาเสพติดที่มีไว้ในครอบครองเป็นเกณฑ์กล่าวคือ ถ้าปริมาณไม่เกิน 100กรัม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท แต่ถ้าปริมาณเกิน 100 กรัม ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต. จำเลยมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 58.255 กรัม. คือปริมาณกึ่งหนึ่งของเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิต การที่ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำคุกจำเลยถึง 40 ปี ซึ่งเกือบจะเท่าโทษสูงสุดที่กฎหมายกำหนด นับได้ว่าเป็นการกำหนดโทษที่ค่อนข้างจะสูงเกินไป เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้และลดโทษให้จำเลย เหลือโทษจำคุก 15 ปี จึงเป็นกำหนดโทษที่เหมาะสม.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2641/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความบทลงโทษคดียาเสพติด: การปรับบทตามกฎหมายแก้ไขเมื่อปริมาณยาเสพติดไม่เข้าข่าย
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 69 วรรคสามขยายความมาตรา 69 วรรคสอง เฉพาะความผิดฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ซึ่งเป็นมอร์ฟีน ฝิ่น หรือโคคาอีน ที่มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัม
จำเลยมีมูลฝิ่นหนัก 8.5 กรัม ไว้ในครอบครอง จึงต้องวางอัตราโทษตามมาตรา 69 วรรคหนึ่ง ศาลล่างวางโทษจำเลยตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่2) พ.ศ.2528 ซึ่งเป็นบทแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 69 วรรคสามและวรรคสี่ด้วยนั้นไม่ถูก ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเป็นไม่ปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่2) พ.ศ.2528 มาตรา 6.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปริมาณยาเสพติดและพฤติการณ์จำหน่ายมีผลต่อการกำหนดโทษที่เหมาะสม
จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายเพียง1.22กรัมกับได้จำหน่ายไปอีกเพียงเล็กน้อยที่ศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำคุกในความผิดฐานจำหน่ายมีกำหนด5ปีและในความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายมีกำหนด5ปีเป็นการเหมาะสมแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินปริมาณและเจตนาครอบครองแร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน
บริษัทพ.นายจ้างให้จำเลยนำรถยนต์และอุปกรณ์ไปขนแร่ตามใบอนุญาตขนแร่จำนวน5,090กิโลกรัมแต่ในระหว่างทางซึ่งเป็นคนละท้องที่กับที่บริษัทพ.ให้จำเลยไปขนแร่จำเลยได้รับขนแร่ของย.อีก944.8กิโลกรัมอันเป็นส่วนเกินจากใบอนุญาตขนแร่ของบริษัทพ.และเป็นแร่ที่ไม่มีใบอนุญาตให้ขนซึ่งเป็นการกระทำโดยพลการของจำเลยเองและกระทำนอกเหนือจากคำสั่งของบริษัทพ.ผู้เป็นนายจ้างดังนี้ถือไม่ได้ว่าบริษัทพ.รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดครั้งนี้ด้วยทั้งจะนำพระราชบัญญัติแร่พ.ศ.2510มาตรา110มาปรับเข้ากับกรณีนี้ไม่ได้แร่ของกลางนอกจากแร่จำนวน944.8กิโลกรัมของย.ซึ่งเป็นคนละส่วนกันจึงไม่ใช่ของกลางอันจะพึงริบตามกฎหมาย พระราชบัญญัติแร่พ.ศ.2510มาตรา110บัญญัติห้ามเฉพาะผู้รับใบอนุญาตขนแร่ขนแร่เกินปริมาณที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตเท่านั้นซึ่งหมายถึงว่าแร่ส่วนที่เกินจำนวนต้องเป็นแร่ของผู้ได้รับใบอนุญาตหรือเป็นของผู้อื่นที่ผู้รับใบอนุญาตรู้เห็นเป็นใจให้ขนเมื่อคดีฟังได้ว่าบริษัทพ.ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขนแร่มิได้รู้เห็นเป็นใจในการที่จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างรับขนแร่จำนวน944.8กิโลกรัมของผู้อื่นจึงจะนำแร่นอกจากจำนวน944.8กิโลกรัมซึ่งได้รับอนุญาตให้ขนโดยชอบมารวมคำนวณค่าปรับด้วยหาได้ไม่. การที่จำเลยรับขนแร่ไปทั้งที่รู้ว่าไม่มีใบอนุญาตขนแร่จำเลยย่อมมีความผิดทั้งมีแร่และขนแร่โดยไม่รับอนุญาตอันเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3611/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีกัญชาในครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้ปริมาณน้อยกว่า 10 กิโลกรัม ศาลลงโทษได้จากคำรับสารภาพ
การมียาเสพติดให้โทษในประเภท 4 หรือในประเภท 5 ไว้ในครอบครองมีปริมาณน้อยกว่าสิบกิโลกรัม ก็อาจเป็นความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพว่ามีกัญชาจำนวน 110 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามฟ้อง ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามที่ให้การรับสารภาพได้
คดีที่ไม่จำต้องสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3611/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีกัญชาครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้ปริมาณน้อยกว่า 10 กก. ศาลลงโทษได้จากคำรับสารภาพ
การมียาเสพติดให้โทษในประเภท 4 หรือในประเภท 5 ไว้ในครอบครองมีปริมาณน้อยกว่าสิบกิโลกรัม ก็อาจเป็นความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพว่ามีกัญชาจำนวน 110 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามฟ้อง ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามที่ให้การ รับสารภาพได้ คดีที่ไม่จำต้องสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อน้ำมันดีเซลเกินปริมาณที่กำหนดหลังมีคำสั่งนายกฯ ต้องได้รับอนุญาต หากไม่มีหลักฐานการซื้อก่อนคำสั่งถือเป็นความผิด
แม้จำเลยจะเคยซื้อน้ำมันดีเซลเกินกำหนดที่ประกาศไว้ใน คำสั่งของนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็เป็นการซื้อโดยได้รับอนุญาตจากนายอำเภอแห่งท้องที่ และเป็นการซื้อภายหลังจากที่คำสั่งนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้ใช้บังคับแล้ว กรณีจึงมิใช่เป็นการซื้อน้ำมันดีเซลตามปกติเช่นที่เคยซื้อ ตามความหมายในคำสั่งนายกรัฐมนตรี ข้อ19(4) การที่จำเลยซื้อน้ำมันดีเซลเกินกำหนดในคดีโดยไม่รับอนุญาต จึงเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
of 10